21 ก.ค. 2023 เวลา 15:49 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

OPPENHEIMER | 10/10

ภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer ในรอบที่ผมดู ครึ่งชั่วโมงหลังหนังฉาย ผู้ชมคนหนึ่งเดินออกจากโรง ผ่านไปอีกราวสิบนาที อีกคนก็จากลาไปด้วย
เมื่อ คริสโตเฟอร์ โนแลน ประกาศว่าจะทำหนังอัตชีวประวัติของ รอเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ ผมนึกไม่ออกว่าเขาจะเล่นมุมไหน เพราะจากผลงานที่ผ่าน เขาไม่ชอบเล่าเรื่องธรรมดา แบบธรรมดา
หากเป็นหนังประวัติชีวิตคนที่ทำๆ กัน ก็เดินไปตามสูตร ก -ฮ แต่โนแลนก็คือโนแลน เล่าเรื่องแบบ linear timeline เรียงจาก ก ข ค ง ไปจนถึง ฮ ไม่ถนัด!
หนังเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองท่อน แต่ละท่อนเดินตามไทม์ไลน์ต่างกัน (คุ้นๆ ใช่ไหมใน Dunkirk) นอกจากนี้ยังใช้ท่อนหนังสีกับหนังขาวดำอีกด้วย (คุ้นๆ ใช่ไหมกับ Memento)
เรื่องแบ่งเป็นส่วนวิทยาศาสตร์ คือการสร้างระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก กับส่วนการเมือง คือผลกระทบของระเบิดต่อการเมือง คนการเมือง
2
หนังเก็บรายละเอียดยิบจนทำให้หนังยาวถึงสามชั่วโมง หนังที่ไม่มีฉากแอ็คชั่น ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีพล็อตซับซ้อน อีกทั้งเล่าเรื่องทฤษฎีฟิสิกส์ และใช้เวลาสามชั่วโมง ย่อมมีโอกาสน่าเบื่อ และหลับคาโรงสูง
1
แต่นี่คือโนแลน ไม่ใช่โนบอดี้
3
Oppenheimer ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน และไม่ใช่หนังบันเทิง ไม่ใช่หนังฟีลกู๊ด ออกจากโรงอาจรู้สึกหนักหัวอยู่บ้าง ไม่เหมาะที่จะพาแฟนที่เพิ่งคบกันไปดู
2
มันเป็นหนังintellectual สำหรับผู้ชมกลุ่มที่ไม่ใช่ mass
3
ที่สำคัญผู้ชมต้องรู้เรื่องฟิสิกส์บ้าง รู้ประวัติศาสตร์ช่วงนั้นบ้าง ไม่เช่นนั้นจะดูหนังเรื่องนี้ด้วยความทรมาน ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อ ลีโอ ไซลาร์ด, เอ็ดเวิร์ด เทลเลอร์, นีล บอห์ร, เวอร์เนอร์ ไฮเซนเบิร์ก เลย ก็อาจไม่เข้าใจเวลาพูดถึง ควอนตัม ฟิสิกส์ ถ้าไม่รู้เรื่องการเกิดหลุมดำเลย ก็จะงงเป็นไก่ตาแตก
1
ถ้าไม่เคยได้ยินชื่อ ริชาร์ด ฟายน์แมน ก็คงไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงบอกว่าไม่ต้องสวมแว่นกันแสง ถ้าไม่รู้จักจรวด V-2 ของฮิตเลอร์ ก็จะสงสัยว่าทำไมมันทำให้คนทำระเบิดมองเห็นอนาคตเลวร้ายของโลกได้ เป็นต้น
3
Oppenheimer ถักทอประวัติศาสตร์กับการสำรวจจิตใจมนุษย์ คนกลุ่มที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล หนังชี้ให้เห็นมุมมองของบทบาทของนักวิทยาศาสตร์ในการเข้าสู่พื้นที่ชั่วร้าย อีโก้ของมนุษย์ ชื่อเสียง ความรู้สึกผิด นักการเมือง เกมการเมือง ไปจนถึงมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของมนุษยชาติ โดยผ่านตัวละครหลักคือ รอเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์
1
หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทุ่มทุนมากนัก (100 ล้านเหรียญถือว่าน้อยตามมาตรฐานของโนแลน) จึงไม่ได้สร้างฉากยิ่งใหญ่อลังการ เราจึงเห็นโครงการแมนฮัตตันกลางทะเลทรายแค่ส่วนย่อย ไม่เห็นภาพจริงที่ใหญ่โตกว่าในหนังหลายเท่า
หนังเปลี่ยนรายละเอียดของความจริงบ้าง เพื่อผลทางพลังของภาพยนตร์ ฉากออพเพนไฮเมอร์ขอคำแนะนำเรื่องสร้างระเบิดจากไอน์สไตน์ไม่น่าเกิดขึ้นจริง นักแสดงที่ดูดีเกินตัวจริงคือ Matt Damon
1
คิลเลียน เมอร์ฟี รับบทออพเพนไฮเมอร์ได้สมจริง เขาเริ่มจากบทคนร้ายในหนังของโนแลน จนกลายมาเป็นตัวเอก ถือว่าไม่ธรรมดา แต่นักแสดงที่ขโมยซีนคือ Robert Downey JR
2
หนังมีข้อตำหนิอยู่ประปราย แต่โดยภาพรวม มันนำเสนอหนังอัตชีวประวัติในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจและสำหรับคอหนังเครียด - น่าลิ้มลอง
1
หลังสงครามโลก ออพเพนไฮเมอร์พูดถึงโครงการแมนฮัตตัน โดยเปรียบกับตำนานของโพรมีเธียส (Prometheus)
ในตำนานกรีก โพรมีเธียสเป็นเทพแห่งไฟ โพรมีเธียสขโมยไฟจากเหล่าเทพไปให้มนุษย์ ไฟก็คือความรู้ เทคโนโลยี อารยธรรม และไฟแห่งปรมาณูก็คืออาวุธร้ายแรงที่มนุษย์สร้างมาเพื่อทำลายมนุษยชาติ นี่คือโศกนาฏกรรม
โศกนาฏกรรมคือเรื่องเลวร้ายที่เรารู้ว่าเกิดขึ้นแล้วไม่ดี แต่ก็ยังจะทำ
10/10
ฉายในโรงภาพยนตร์
ป.ล. ในช่วงสองปีนี้ ผมเขียนบทความเกี่ยวกับฟิสิกส์ ไอน์สไตน์ ออพเพนไฮเมอร์ นักฟิสิกส์หลายคน จึงขอแนะนำให้อ่านบทความต่อไปนี้ ก่อนตีตั๋วเข้าโรง มิฉะนั้นมีโอกาสที่ท่านจะเดินออกจากโรงกลางคัน
2
รายชื่อบทความที่ควรอ่านก่อนดูหนัง
- เมื่อออพเพนไฮเมอร์สร้างระเบิดล้างโลก
- ชายสามคนที่มีบทบาทต่อโลกปรมาณู
- ความรู้สึกผิดของไอน์สไตน์
และควรอ่านประวัติของ เอ็ดเวิร์ด เทลเลอร์, นีล บอห์ร, เวอร์เนอร์ ไฮเซนเบิร์ก ก่อนเข้าชมภาพยนตร์
1
โฆษณา