เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 ก.ค.66 บริเวณถนนกาญจนาภิเษกขาเข้า มุ่งหน้าตลิ่งชัน ในช่องทางคู่ขนาน ช่วงก่อนข้ามคลองถนน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 5 คัน แยกชิ้นส่วน มีทั้งส่วนลำตัวเครื่องบินและปีกจอดหยุดนิ่งไม่สามารถไปต่อ สาเหตุเพราะรถบรรทุกพ่วงคันหน้าซึ่งบรรทุกโครงลำตัวของเครื่องบินที่มีความสูงเกินไม่สามารถขับผ่านคานตอม่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ โดยตรวจสอบพบว่ามีความสูงเกินประมาณ 15 เซนติเมตร ต้องใช้รถเครนยกออก เพื่อปรับระดับให้ต่ำลง
ต่อมาได้ใช้รถเครนยกโครงลำตัวเครื่องบินขยับและปรับให้ต่ำลงเล็กน้อยก่อนที่ขบวนรถบรรทุกพ่วง 5 คันจะเดินทางต่อไปได้ โดยการสอบถามข้อมูลทราบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินทั้งหมดใช้รถบรรทุกพ่วงจำนวน 12 คัน ต้นทางมาจาก จ.ระยอง ปลายทางไปส่งในพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทราบว่าเจ้าของจะนำไปประกอบไว้โชว์ในพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งการขนย้ายครั้งนี้รถบรรทุก 7 คันแรกสามารถผ่านไปได้แต่ระหว่างทางมีปัญหา 1 คันที่บรรทุกชิ้นส่วนของโครงลำตัวเครื่องบินสูงเกินไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงจะแล้วเสร็จและเดินทางต่อไปได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายโสภณ สังข์แป้น รอง ผอ.แขวงทางหลวง จ.นนทบุรี ได้รับการเปิดเผยว่า ทราบข่าวเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างสอบถามไปยังกรมทางหลวงกลางว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ เพราะกรณีการขนย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ และมีความสูงเกินจะต้องทำการขออนุญาตให้ถูกต้อง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง หรือกีดขวางการจราจร จึงต้องมีการขออนุญาตเพื่อให้ทำการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่ขับผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร การขนย้ายเครื่องยินโบอิ้ง 747 ในครั้งนี้แขวงทางหลวงนนทบุรี ไม่ได้แจ้งการขออนุญาติแต่อย่างใด และหากตรวจสอบว่าไม่ได้ขออนุญาตจะมีการดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปทาง พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวต้องขออนุญาตเช่นกันแต่ไม่มีการแจ้งเรื่องมาแต่อย่างใด