Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Beach For Life
•
ติดตาม
23 ก.ค. 2023 เวลา 06:31 • ข่าวรอบโลก
อำเภอ เทพา
ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีเดินเทใจให้เทพา
หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จสงขลา
คำพิพากษาระบุเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมปราศจากอาวุธ เเละไม่มีเจตนาไม่เเจ้งการชุมนุม
.
ศาลจังหวัดสงขลาอ่านคำพิพากษา วันที่ 21 กรกฎาคม 2566
คดีคงมีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาเพียงสองประเด็นเท่านั้น คือ ประเด็นที่หนึ่ง จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 ถึงที่ 7 ที่ 10 ที่ 11 และที่ 14 ถึงที่ 16 มีความผิดฐานร่วมกันต่อสู้ ขัดขวาง ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนหรือไม่
ศาลฎีกา เห็นว่า การที่จะวินิจฉัยว่าบุคคลใดกระทำผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา จำเป็นที่จะต้องมีพยานหลักฐานยืนยันว่าบุคคลนั้นกระทำผิด โดยเฉพาะเมื่อบุคคลเหล่านั้นให้การปฏิเสธ โจทก์ก็ต้องนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ว่าบุคคลนั้นกระทำผิดจริงดังข้อกล่าว กรณีนี้จำเลยทั้งสิบเจ็ดอยู่ในกลุ่ม ผู้ชุมนุมซึ่งมีประมาณหนึ่งร้อยคน หากจะกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสิบเจ็ดร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานจะต้องมีพยานหลักฐานว่าจำเลยทั้งสิบเจ็ดกระทำการอย่างใดๆถึงเป็นความผิดเช่นนั้น
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าจำเลยที่ยื่นฎีกานี้เป็นคนผลักดันหรือทำร้ายเจ้าพนักงาน จะไปวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสิบเจ็ดมีความผิดฐานร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานอาจได้ไม่ ที่เจ้าพนักงานตำรวจ ได้รับบาดเจ็บนั้น บาดแผลดังกล่าวเป็นอันตรายต่อร่างกายเพียงเล็กน้อยซึ่งเกิดขึ้นได้จากการผลักดันกับกลุ่มผู้ชุมนุมในเวลาสั้นๆ ลักษณะบาดแผลบ่งชี้ว่าฝ่ายผู้ชุมนุมหรือจำเลยทั้งสิบเจ็ดไม่ได้ชกต่อยหรือใช้อาวุธ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานแต่อย่างใด
เมื่อจำเลยทั้งสิบเจ็ดไม่มีความผิดฐานร่วมกันต่อสู้ ขัดขวาง ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน จำเลยทั้งสิบเจ็ดจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้ร่วมชุมนุมร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ขัดขวางหรือกระทำการใดๆอันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะในการคุ้มครองความสะดวกของประชาชนในการใช้ที่สาธารณะด้วย
ประเด็นที่สอง จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดฐาน เป็นผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนการเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงหรือไม่ ศาลฎีกา เห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้เข้าร่วมชุมนุมเท่านั้น ส่วนจำเลยที่ 1 เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจแจ้งต่อกลุ่มชาวบ้านว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมสาธารณะ จำเลยที่ 1 ก็รีบดำเนินการไปยื่นหนังสือขออนุญาตต่อผู้กำกับการสถานีตำรวจเทพาโดยทันที
ถึงแม้จะเป็นเวลาหลังจากการชุมนุมเริ่มไปแล้วก็ตามแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่ามีความตั้งใจจริงที่จะปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย และจำเลยที่ 1 ได้ไปยื่นหนังสือแจ้งการชุมนุมพร้อมคำขอผ่อนผันกำหนดเวลาต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ซึ่งสามารถทำได้ทั้งนี้เป็นไปตาม มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 อันเป็นการกำหนดไว้ใช้สำหรับกรณีที่มีการชุมนุมเกิดขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งการชุมนุม
กฎหมายจึงหาทางออกให้โดยสามารถผ่อนผันการแจ้งการชุมนุมได้ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การชุมนุม การที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลามีคำสั่งไม่อนุญาต โดยให้เหตุผลว่า จำเลยที่ 1 ได้จัดการชุมนุมดดยไม่ได้แจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง เป็นการกระทำผิดตามาตรา 10, 17 นั้น ไม่สามารถทำได้เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว มาตรา 12 ก็จะไม่อาจมีบทบัญญัติเรื่องการผ่อนผันเอาไว้ได้เลย
และที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาสั่งให้เลิกการชุมนุมสาธารณะ โดยอ้างว่าเพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกของประชาชน การดูแลการชุมนุมสาธารณะและการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนนั้น ก็ไม่ปรากฏว่า ผู้ชุมนุมมีอาวุธ หรือกระทำการสิ่งใดอันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่นแต่อย่างใด
แม้แต่การเดินไปตามถนนผู้ชุมนุมก็เปิดช่องให้รถยนต์สามารถสัญจรผ่านไปได้ การชุมนุมครั้งนี้จึงเป็นการชุมนุมโดยสงบ ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 44 วรรคหนึ่ง แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คำสั่งของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาที่ไม่อนุญาตให้ชุมนุมและสั่งให้เลิกกการชุมนุม ไม่เป็นไปตาม มาตรา 21 (1) แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
จึงเป็นคำสั่งที่จำกัดเสรีภาพของผู้ชุมนุม ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 44 ที่ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจึงไม่มีผลทำให้การชุมนุมสาธารณะนี้เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การชุมนุมสาธารณะเป็นเสรีภาพพื้นฐานที่จำเป็นของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมเห็นว่า การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจะสร้างความเดือดร้อนกระทบกระเทือนต่อวิถีชีวิตของตน ประสงค์จะคัดค้านการก่อสร้างด้วยการชุมนุม ด้วยการนำหนังสือไปยื่นนายกรัฐมนตรี ผู้ชุมนุมย่อมมีเสรีภาพทำได้ การชุมนุมสาธารณะครั้งนี้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 1และที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุม ไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนการเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า ยี่สิบสี่ชั่วโมง
ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องทั้งสองสำนวน
#เดินเทใจให้เทพา #โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
สิ่งแวดล้อม
เรื่องเล่า
ข่าวรอบโลก
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
BFL อัพ NEWS
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย