วอร์เรน บัฟเฟต์ Warren Buffett
ประวัติ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นคนที่หัวการค้าและทำมาหากินตั้งแต่ยังเด็ก เพราะตอนอายุ 13 ขวบบัฟเฟตต์ก็เริ่มทำธุรกิจเป็นจำของเครื่องเล่นพิณบอลแล้วเครื่องละ 25 เหรียญม่าตั้งให้บริการที่ร้านตัดผมและไม่นานจาก 1เครื่องก้ขายเป็น 7 เครื่อง และสามารถทำเงินได้สัปดาห์ละ 50 เหรียญเลยทีเดียว
หลักจากจบมหาวิทยาลัยจากเนบราสกา ซึ่งเป็นบ้านเกิด บัฟเฟต์ก็มุ่งหน้าไปเข้าเรียนโทที่มหาลัยโคลัมเบียเนื่องจากชื่นชอบอาจารย์ท่านหนึ่งชื่อ เบน แกรแฮมเพราะอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนของเบน แกรแฮมตั้งแต่เด็ก นั้นคือหนังสือ นักลงทุนผู้รอบรู้ นั้นเอง
จบจากโคลัมเบีย บัฟเฟตต์ก้กลับมาบ้านที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา ทำงานในบริษัทโบรกเกอร์เล็กๆ ที่พ่อเขาเป็นเข้าของอยู่สักพักหนึ่ง หลังจากนั้นได้ไปทำงานกับอาจารย์ที่เขาชื่นชอบที่บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนของ เบน แกรแฮม เพื่อฝึกฝนฝีมือจนเบนแกรแฮม เกษียณอายุตอนปี พ.พ.ศ. 2499 เขาก้กลับบ้านที่โอมาฮาอีกครั้ง และด้วยวัยอายุ 25 ปีเขาก็รับจ้างลงทุน โดยตั้งห้างหุ้นส่วน รวบรมเงินจากญาติพี่นเองได้ประมาณ 100,000 เหรียณ โดยตัวเขาเองลงทุน 100 เหรียณ
โดยตั้งกฎว่าคนที่ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 6 % ต่อปี บวกกับ 3 ใน4ของกำไรส่วนที่เกิน 6% นั้น อีก 1 ใน 4 หรือคิดเป็น 25 % ของกำไรเป็นค่าจ้างของตัวบัฟฟเฟตต์
จากจุดที่เขาเริ่มต้น บัฟเฟตต์ที่เปลี่ยนแปลงกองทุนจากหุ้นส่วนจำกัด เป็นบริษัมจำกัดโดยทำการซื้อกิจการประกันภัยชื่อ เบิร์กไซร์ฮาธาเว ปี 2512 และอาศัยเงินจากธุรกิจประกันในการลงทุนต่อมาถึงวันนี้ วอร์เรน บัฟเฟต์จะร่ำรวยมหาศาลเป็นอันดันต้นๆของโลก
แต่บัฟเฟตต์ก้ยังใช้ชีวิตสมถะเรียบง่าย เขายังใช้รถยนต์คันเก่าอายุมากกว่า 5 ปี ขับไปทำงานทุกเช้าส่วนตัวเขาก็พึ่งเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์หลังจากอายุ 60 ปีไปแล้วด้วยเหตุผลเพื่อที่จะเล่นไพ่บริดจ์กับเพื่อนผ่านอินเทอร์เน็ต
แนวทางการการตัดสินใจลงทุนของ ปู่ วอร์เรน บัฟเฟตตื
ด้านธุรกิจ
1 ต้องเป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย บัฟเฟตต์พูดว่า ถ้าเขาไม่แน่ใจชัดอีกหลายๆปีข้างหน้า 5 ปี บริษัทจะเป็นอย่างไร เขาจะไม่ซื้อหุ้นนั้น ยกตัวอย่างเช่นหุ้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ หรือธุรกิจอะไรที่เปลี่ยนแปลงเร็วๆ เพราะเขาไม่สามารถประเมินได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
2 ธุรต้องเคยทำดำเนินมานานและมีกำไรสม่ำเสมอ ถ้าธุรกิจขากทุนบ้างกำไรบ้าง เขาจะหามูลค่าหุ้นอาจจะยาก
3 ต้องเป็นธุรกิจที่มีอาคตสดใส่ คือในระยะยาวควรจะโตไปได้เรื่อยๆ คู่แข่งมาทำลายยาก
ด้านการบริหารงานของผู้บริหาร
1 ต้องเป็นผู้มีเหตุและผลในการตัดสินใจ ไม่ทำตามคนอื่น เช่น คนคู่แข่งขายสินค้าตัดราคาจนขาดทุน ตัวเองก็ทำบ้าง แบบนี้จะไม่เลือก
2 ผู้บริหารต้องมีความสุจริตเปิดเผยข้อมูลบริษัท ไม่ปกปิดอะไร
3 ต้องคิดถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก เช่น ถ้าบริษัทมีคนสดเป็นจำนวนมากก็ควรที่จะนำไปลงทุนต่อหรือไม่ก็ควรนำมาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น
ด้านงบการเงิน
1 ต้องเป็นหุ้นที่ ROE สูงๆ
2 ต้องเป็นธุรกิจที่มีมาร์จินสูงหรือกำไรเทียบกับยอดขายสูงแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพ สามารถตั้งราคาได้ สามารถขึ้นราคาได้ในยามเงินเฟ้อโดยยอดขายไม่ตกมากหรือไม่ตกเลย
ด้านราคาหุ้น
1 ต้องรู้ว่าควรซื้อที่เท่าไหร่ พูดง่ายๆคือประเมินราคาหุ้นให้เป็น
2 ต้องมีราคาต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมมากๆ หรือเรียกว่า margin of safety
อ้างอิง หนังสือ ตีแตก ,หนังสือthe snow ball
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
