Kyushu again : คิวชู ไปแล้วไปอีก ไปทำไมก่อน
ปลายปีก่อน เราตัดสินใจลาออกจากมนุษย์เงินเดือน เพื่อจะทำตามความฝันสักครั้ง จะหลักสี่แล้ว อยากลองทำอะไรที่ใหม่ ๆ ดูบ้าง บางทีการวนอยู่ในกรอบเดิม ทำให้เราหมดแพชชั่นในการดำเนินชีวิตเหมือนกันนะ และหนึ่งในสิ่งที่ชอบมากของเราคือ "การเดินทาง"
เราชอบเที่ยวเองมาตลอด โดยเฉพาะเที่ยวญี่ปุ่น เรามีโอกาสได้ไปมาหลายเมือง ชอบออกไปเมืองที่เล็กๆ ชนบทหน่อย บางเมืองไปตั้งแต่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก จนตอนนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นเพราะวางแผนเดินทางไม่ยาก รถไฟ รถบัส ค่อนข้างตรงเวลา เราเสียอีกที่จะไม่ตรงเวลาเพราะมัวแต่เที่ยวเพลิน ตื่นเต้น สนุก และท้าทาย ทุกครั้งที่ได้ไป ไม่รู้หรอกว่าต้องไปเจอกับอะไรบ้าง แพลนไปก่อน ค่อยไปปรับหน้างาน
หลังจากที่เราได้ไปคิวชูช่วงใบไม้เปลี่ยนมาเมื่อปลายปี 2022 ค้นพบว่า คิวชูมีดีที่ซากุระ ในที่สุด ทริปนี้จึงเกิดขึ้น "Kyushu again"
รอบนี้เราตัดสินใจเช่ารถขับ เพราะจะไปดูซากุระ ซึ่งภูมิภาคนี้จุดชมซากุระ มักอยู่นอกเมือง มัวแต่รอรถไฟ รถบัส ฟ้ามืดกันพอดี
เอาล่ะ มาเที่ยวในความทรงจำของเราด้วยกันน้า
ตอนแรกตั้งใจจะไปเก็บสตรอเบอร์รี่ แต่ต้องจอง เราไม่ได้จองไปก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะออกจาก ตม.กี่โมง จะรับรถเสร็จตอนไหน แค่ได้ไปกินสตรอเบอร์ที่ฟาร์มก็ยังดี
หลังจากลงเครื่อง เรามุ่งไปที่ร้านนี้ก่อนเลย Sucre fraise（シュクレフレーズ）
จากนั้นเราไปต่อที่โอกิ พาร์ค เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระ จ.ซากะ ช่วงที่เราไป บาน 85% ยังไม่ฟูลบลูม แต่เราว่ามันก็สวยแล้วนะ ติดที่ไปฟ้าหม่นไปหน่อย แต่ไม่ทำให้เราชอบน้อยลงเลย ส่วนใหญ่ที่นี่เต็มไปด้วยคนท้องถิ่นมาพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งเด็กนักเรียน หนุ่มสาววัยทำงาน คุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยาย มาเดินออกกำลังกาย นั่งเมาท์มอย และปิคนิคกัน
Ogi Park
Okawachiyama Village หมู่บ้านเตาเผา ได้ฟีลเหมือนเดินย้อนอดีตไปในสมัยก่อนเลย เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา ที่นี่มีคาเฟ่ แกลอรี่และร้านขายเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งงานแต่ละร้านจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เมืองเงียบมาก นักท่องเที่ยวน้อย อาจเพราะไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่น และไม่สะดวกกับการเดินทางไปโดยรถสาธารณะเท่าไหร่นัก
Okawachiyama Village
Yutoku Inari Shrine เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ของซากะ ผู้คนมักมากราบไหว้ขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องธุรกิจ หลังจากเราขอพรเสร็จ ก็มาเดินเล่น ฝั่งตรงข้ามศาลเจ้า มีจุดชมวิวที่มองกลับมาเห็นตัวอาคารตั้งเด่นเป็นสง่า ฉากหน้าเป็นซากุระที่ฟูลบลูมพอดี
ก่อนกลับเดินช้อปปิ้งสตรีทสักหน่อย ซึ่งวันที่เราไปมีงานอีเวนต์รถคลาสสิคด้วย ดีงามมากเลยล่ะ
Yūtoku Inari Shrine
วันที่รอคอยก็มาถึง ฟ้าใสสักที เราเดินวนอยู่บนเส้นทางนี้เป็นชั่วโมง เดินได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ อากาศดี สดชื่น ตรงนี้เราไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลย อาจะเพราะเป็นเช้าวันธรรมดาด้วยล่ะ มีแต่คนท้องถิ่นมาออกกำลังกาย มาวิ่ง มาปั่นจักรยานกัน เราว่ามันดีมากเลย
Jofuku Cycle Road
เกือบจะไม่ได้แวะแล้วเชียว ดูผ่านแอฟที่นี่ฟูลบลูมวันแรก คนเยอะมาก เราวนหาที่จอดไม่มีเลย จนตัดใจ และขับออกไป หลังจากที่ขับมาสักพัก แวะเซเว่น มองนาฬิกา ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเข้าที่พัก เลยวนกลับมาอีกรอบ
ถ้าไม่ได้มาก็เสียใจเหมือนกันนะ ~
Tachioka natural park
เมืองนี้ไกลอยู่ เราก็คิดว่าไหนๆก็มาแล้ว ถ้ามารถไฟเราคงตัดทิ้งแน่แท้ล่ะ รีวิวก็น้อย มาลุ้นกันหน้างาน เป็นไงเป็นกัน แล้วก็เกินคาด ซากุระสวยไม่น้อยเลยนะ
Okajo Park
กว่าจะถึงยุฟุอิน เราไปแวะพักมาหลายที่ เป็นหนึ่งในลิสต์ที่เราต้องกลับมา รอบก่อนเราไม่ได้มามุมนี้ แต่มาคงไม่เจออะไร เพราะไฮไลท์ตรงนี้คือซากุระริมน้ำ กับวิวภูเขายุฟุนี่ล่ะ ช่วงเช้าที่นี่จะมีหมอกบนผิวน้ำ ตอนที่ไปอากาศกำลังดี เย็น สดชื่น มากเลย เดินได้ไม่เบื่อ ปล่อยใจจอยๆไป แต่เหมาะสำหรับคนมีเวลาเหลือหน่อยนะ เพราะคนละทางกับช้อปปิ้งตรีท ต้องเดินอ้อมมาอีกทาง
Yufuin
ได้เวลากลับเข้าเมืองแล้ว ตะลอนนอกเมืองเพลินเลย หลังจากนำรถไปคืน เราก็ตะลุยนั่งรถไฟ รถบัสกันต่อ
การเดินทางในเมืองฟุกุโอกะค่อนข้างง่าย สายรถไฟ ไม่เยอะเหมือนในโตเกียว เหมาะกับมือใหม่หัดเที่ยวเองมากๆ เลยล่ะ
(ถ้ามีโอกาส เราจะเขียนรีวิวสำหรับการเดินทางในญี่ปุ่นแยกให้เป็นอีกโพสน์นึงนะ)
Fukuoka
ว้าจะต้องกลับแล้วหรอ คืนสุดท้ายเราบ่นพึมพัมเบาๆ
10 คืน 11 วัน ผ่านไปเร็วจัง (เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องวันลา ก็เที่ยวยาวๆไปเลย)
ทริปนี้เราตั้งใจไปล่าซากุระ ก็ได้เมาซากุระกันเลยทีเดียวประทับใจทุกที่ได้ไป บางสถานที่เราอาจไม่ได้ลงรูป แต่มันจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป
เส้นทางของเราไม่เหมือนใคร เส้นทางของใครก็ไม่เหมือนเราเช่นกัน เราต่างมีเส้นทางของตัวเอง เคารพในสิ่งที่เราเลือกและเต็มที่กับมันก็พอ
the day I quit
ปิดด้วยกล้องฟิล์ม Spring in my heart ~
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
