หนังสือเล่มที่ ๓๖ (๕) จบ
ส่วนที่ ๓ Homo sapiens Loses Control (โฮโมเซเปียนส์สูญเสียการควบคุม)
โดย : ยูวัล โนอาห์ แฮร รารี
ทิศทางหนังสือ : ประวัติศาสตร์ มนุษย์
เนื้อหา : 99% อักษร 1% ภาพ
ความยากลำบากในการอ่าน : ๕ เต็ม ๕
หัวข้อที่ผมได้จากในช่วงที่ ๓ ของหนังสือเล่มนี้ จะลองยกมาอธิบายให้ฟังแบบคร่าวๆ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจในการไปติดตามต่อ
I. #ความสัมพันธ์ทางด้านจิตวิญญาณสำคัญกว่าทางด้านชีวภาพ คนที่มีความคิดแบบเดียวกันเจตจำนงแบบเดียวกันจะชวนกันไปทำสิ่งที่เหมือนกันได้ดีกว่าคนที่ไม่มีความคล้ายคลึงกัน เช่น ศาสนาเดียวกัน ความชอบแบบเดียวกัน รสนิยมแบบเดียวกัน จะอยู่ด้วยกันเสมอ ๑๐ คนรอบตัวทุกเป็นแบบคุณไหม
II. แท้จริงแล้วเราเป็น #เจ้านายทางความคิด หรือ #ความคิดของเราเป็นเจ้านายเรา ความคิดของเราเกิดจากประสบการณ์ สถานการณ์ สังคม ทำให้เกิดความนึกคิด เราไม่ได้เป็นเจ้านายทางความคิดจริงๆ ทำไมนะหรือ เพราะว่าทุกครั้งที่เราคิดเกิดจากการรับรู้แล้วทำให้เราคิด การที่เราจะเป็นเจ้านายทางความคิด คือ เราคิดว่าจะไม่คิดอะไร หรือ หยุดคิดอะไร เราสามารถสั่งความคิดเราได้ นั่นสิเราเป็นเจ้านายมัน พยามดูว่าเราหยุดคิดสิ่งนั้นได้ไหม หรือ เราไม่คิดอะไรเลย สัก ๖๐ วินาทีได้ไหม
III. #สมองชอบหลอกเรา เรามักจะจดจำความเจ็บปวดที่กินระยะเวลามากกว่า แต่เรามักจะลืมความเจ็บปวดที่จุดสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น เรามักจะจดจำการภาพรวมของการทำฟันของเราได้ว่าเจ็บขนาดไหน แต่เรามักจำช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดไม่ได้ หรือ การคลอดลูก 100% ของคนที่เพิ่งคลอดลูกมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เอาอีกแล้วพอแล้ว
แต่เมื่อผ่านไปไม่นาน หลายคนลืมความเจ็บปวดตอนคลอดลูกไปแล้ว ทำไมนะหรือ เพราะว่าสมองหลอกเราให้เราคิดถึงแต่ ความปีติตอนลูกน้อยได้ลืมตาขึ้นมา บรรยากาศตอนญาติๆ มาร่วมแสดงความยินดี จดจำความสุขของการมีชีวิตใหม่ สมองชอบหลอกเราให้เราจดจำสิ่งต่างๆ จากระยะเวลาไม่ใช่จากจุดที่มากที่สุด เราจะจำตอนที่เสียใจมากที่สุดไม่ได้ แต่เราจำระยะเวลาตอนที่เราเสียใจได้ว่ามันกินระยะเวลาไปกี่ปี
IV. AI ปัญญาประดิษฐ์อาจรู้ล่วงหน้ามากกว่าจิตใจของเรา เชื่อหรือไม่ว่าเราถูก AI บังคับให้เราต้องยินยอม ทำตาม หรือ งดรับข้อมูลใหม่ๆ ความสุขใหม่ๆ ความหมายของชีวิตใหม่ๆ AI ยังช่วยให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุดด้วย ถ้าคุณรู้ว่าจากข้อมูลทางผลเลือดมันบอกคุณว่า#ในอนาคตคุณจะเป็นผู้ป่วย มะเร็งเต้านม คุณจะเลือกผ่าตัดเต้านมวันนี้เพื่อไม่ให้เชื้อร้ายกลายสภาพ หรือ จะเลือกรอให้มันเกิดก่อนแล้วเรามาหาทางแก้กัน คำถามคือ เราเชื่อข้อมูลนี้ได้ขนาดไหน แล้วถ้าในอนาคตเราไม่ได้เป็นมะเร็งเต้านมละ…
เราเชื่อ GOOGLE MAP จริงๆ หรือว่าเส้นทางที่มันแนะนำนั้นคือเส้นทางที่ดีที่สุด หรือมันอาจจะเพียงบอกเราว่า มีคนจำนวนมากใช้เส้นทางนั้นแล้วอีกเส้นทางมันโล่งสบาย อะไรคือสิ่งที่เราควรเชื่อกันแน่ FACEBOOK รู้จักเราดีมากกว่าที่พ่อแม่ และ ตัวเราเองเสียอีก จากการทดลองประชาชนที่เล่น Facebook 86,220 คน พบว่า Facebook สามารถทำนาย งานที่อยากทำ คู่ครองที่อยากได้ และ กิจกรรมที่คุณอยากทำมากที่สุดให้อย่างแม่นยำ
มันก็ดูน่ากลัวสำหรับการครอบงำจิตใจแต่มันก็เป็นผลดีสำหรับมนุษย์สังคมนิยมอย่างมาก ที่เราสามารถทำทุกอย่างได้ดีในสิ่งที่สนใจ
V. #เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้เราอยู่ง่ายขึ้น ผมอยากได้รถสัก 1 คันเพื่อที่ว่าผมจะได้ไม่ต้องไปเบียดบนรถไฟฟ้าผมจึงตัดสินใจซื้อรถหนึ่งคัน เพื่อขับไปทำงาน 30 นาที แล้วไปจอดที่ทำงาน 6 ชั่วโมง แล้ว ขับกลับบ้านอีก 30 นาที มาจอดที่บ้านอีก 12 ชั่วโมง วันหยุดผมอาจจะใช้มันออกไปหาประสบการณ์ที่เที่ยวประมาณ 4-5 ชั่วโมง เท่ากับในหนึ่งปี ผมขับมันน้อยกว่าที่มันจอดนิ่งๆ ซะอีก
AI ระบบไร้คนขับ จะช่วยหารถสักคันที่พาผมไปยังช่วงเวลาที่ผมต้องการแล้ว เมื่อมันให้บริการผมเสร็จมันก็จะไปบริการผู้คนอื่นๆ อีกที่เขาต้องการใช้ในช่วงเวลาอื่นๆ ที่ไม่ตรงกับผม ในอนาคตทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ช่วงเปลี่ยนผ่านช่องว่างของการเปลี่ยนผ่านจะแคบลง และ ไวขึ้น
#สรุป สิ่งที่ผมได้จากหนังสือเป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมได้แล้วมาสรุปให้ฟังเป็นเพียงความคิดจากคนหนึ่งคนไม่ได้เป็นความคิดของคนจำนวนมากดังนั้นไม่มีอะไรถูกต้องที่สุด
ผมว่าหนังสืออ่านยากไปหน่อย หนังสือตั้งใจจะปูเรื่องเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชัดเจนจนบางครั้งการปูเรื่องมันมากไปจนใจความมันเยอะไปหมด การแบ่งหนังสืออ่านเป็นช่วงๆ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจเนื้อหาแต่ละช่วงได้ดีที่สุด #คำแนะนำในการอ่าน ควรอ่านให้จบหัวข้อแล้วคั่นหน้าไว้หลังจากนั้นกลับมาอ่านใหม่ให้ย้อนหลังกลับไปอ่าน ๓-๔ หน้าจะทำให้เข้าใจเนื้อหาได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ขอบคุณที่อ่านจบ
คำคมช่วยชมหน่อย : บางครั้งเราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้น เราต้องการมัน หรือ สมองต้องการมัน หรือ เราเพียงทำเพราะความเคยชินที่เราเคยทำ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
