Yakiniku Great Bangkok
เอาใจสายเนื้อกับโอมากาเสะสุดพรีเมียม
Yakiniku Great Bangkok
มาคู่ หรือมากับเพื่อนก็เต็มอิ่มฟินทุกคำ
Yakiniku Great Bangkok คือโอมากาเสะปิ้งย่างระดับพรีเมียมที่เหล่า Beef Lover ตัวจริงเสียงจริงต้องรู้จัก
เพราะเป็นเเบรนด์จากญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ
ทั้งในเรื่องของคุณภาพของวัตถุดิบและการบริการ
ใครที่คิดถึงคุณภาพเนื้อระดับตัวท็อปต้องห้ามพลาด
กับคอร์สเมนูสุดฟินที่เน้นเสิร์ฟเนื้อวากิวเกรด A5 นำเข้าจากญี่ปุ่นที่ทางร้านจะเสิร์ฟสลับระหว่างเนื้อมันมากและมันน้อย
และยังมีเมนูคั่นเมนูอื่น ๆ เพื่อปรับสมดุลการรับรส
ให้การทานเนื้อไม่เลี่ยนมากจนเกินไป
ทุกเมนู ทุกวัตถุดิบ และเทคนิคที่ใช้ก็มีความพรีเมียมและหลากหลายพร้อมตบท้ายคอร์สด้วยโซบะและและเมนูของหวานให้ความสดชื่นเพื่อให้ประสบการณ์การรับประทานที่ฟินที่สุดรับรองว่าทุกเมนูจัดเต็มเหมือนสาขาต้นตำรับ
โดยที่ไม่จำเป็นต้องบินไปไกลก็สามารถฟินได้
มาพร้อมทำเลใจกลางเมืองย่านทองหล่อ
ในโครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49
เปิดให้บริการใน
วันอังคาร-ศุกร์
เวลา 17:30-23.00 น.
เสาร์-อาทิตย์
เวลา 12:00-14:30 น.
(ปิดวันจันทร์)
ปัจจุบัน Yakiniku Great มีทั้งหมดเพียง 4 สาขาเท่านั้น
คือ สาขาญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย และสาขาไทย
ที่เพิ่งเปิดให้บริการมาเมื่อไม่นานนี้ที่ย่านทองหล่อ
สำหรับคอร์สที่ทางร้านมีให้เลือกมีดังนี้
🥢OMAKASE “PREMIUM” (Course 13 dishes)
ราคา 3,200 บาท
🥩OMAKASE “KIWAMI” (Course 13 dishes)
ราคา 3,900 บาท
✨ OMAKASE “GREAT” (Course 17 dishes)
ราคา 4,900 บาท
และ NON BEEF COURSE
ราคา 2,800 บาท
#TEAMSOFFICIAL #REVIEW
#yakinikugreat #yakinikugreatbkk
#yakinikuomakase #wagyua5 #a5wagyu
#yakiniku #wagyu #omakase
#รีวิวร้านอาหาร #โอมากาเสะ
Yakiniku Great ปัจจุบันมีทั้งหมดเพียง 4 สาขา
คือ สาขาญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย และไทยที่เพิ่งเปิดให้บริการมาเมื่อไม่นาน
อย่างที่ได้บอกไปในโพสต์หลักแล้วว่าสาขาของไทย
ตั้งอยู่ในโครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49
ซึ่งเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญของกรุงเทพฯ
ใครที่ผ่านไปผ่านมาและอยากลิ้มรสเนื้อเกรดพรีเมียม
ก็สามารถเดินทางไปที่ร้านได้อย่างสะดวกสบาย
ทั้งยังสามารถไปแฮงค์เอาท์ในย่านนั้นต่อได้อีก
ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ Modern Minimal
ใช้โทนสีดำเป็นสีหลัก จึงขับเน้นให้บรรยากาศในร้าน
มีความหรูหราพรีเมียมและดูมีสไตล์มากขึ้น
ในขณะเดียวกันก็ให้บรรยากาศโดยรวมที่เป็นกันเองจับต้องได้
เปิดให้บริการทั้งในโซนที่เป็น Bar Counter ที่ติดกับ Open Kitchen
ให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดกับเชฟและเห็นขั้นตอนการรังสรรค์เมนู
รวมทั้งโซนที่เป็นห้องส่วนตัวสำหรับคนที่มาเดทหรือมาเป็นกลุ่ม
และโซนที่เป็นโต๊ะรองรับคนได้ 4-6 ที่นั่ง
สำหรับเมนูนี้เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยชื่อว่า ‘Great Salad’
สลัดผักสด ๆ ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้าน
ให้ความรู้สึกสดชื่นและเปิดประสาทสัมผัสในการลิ้มรสจานถัดไป
เริ่มต้นคอร์สย่างกันด้วยเนื้อส่วน Yakisashi
ซึ่งใช้เวลาในการย่างเพียง 7 วินาทีเพื่อความสุกแบบพอดี
และต่อไปคือเนื้อส่วน Misuji Briand ที่เสิร์ฟพร้อมกับ Chilli Powder Sauce
ลดความคาว คั่นระหว่างเมนูด้วย Potato Sweet
มันหวานญี่ปุ่นทำนำไปย่างและท็อปด้วยเนยให้ความหอมมัน
และนี่คือ ‘Water Jelly’ เมนูล้างปากปรับลิ้นอีกเมนูนีง
เป็นโมจิหยดน้ำที่เสิร์ฟคู่กับ Sugar Sauce
ให้ความสดชื่นและเพิ่มความอยากในเมนูถัดไปได้เป็นอย่างดี
สำหรับเมนูนี้คือ ‘Hokkaido Scallop’
กับวัตถุดิบหลักที่เป็นหอยเชลล์ฮอกไกโด
นำไปย่างในเวลา 15 นาทีเพื่อความสุกแบบชุ่มฉ่ำ
เสิร์ฟพร้อมเห็ดชิตาเกะย่างพ่นด้วยสาเก
เนื้อหอยเชลล์ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน
เมนูต่อมาคือ ‘Tsukune’ หรือเนื้อทุกส่วนของส่วนขาหน้าที่นำมาบดเป็นแฮมเบิร์ก และเสิร์ฟพร้อมกับไข่แดงและซอสถั่วเหลือง
มาต่อกันกับเมนูไฮไลท์ของคอร์สสุดพรีเมียม
กับเมนู ‘Chateaubriand (Fillet)’
เนื้อส่วนสำคัญที่มีไม่มากในวัวหนึ่งตัว
นำไปย่างแบบมีเดียมแรร์และทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ
พร้อมกับอูนิราดซอสเนยกระเทียมให้ความหอมกลมกล่อม
ปิดท้ายคอร์สด้วยบะหมี่เย็น Somen และของหวานเป็นไอศกรีมวานิลลาและถั่วแดงที่ชื่อเมนูว่า Monaka
เป็นการจบคอร์สที่ให้ความสดชื่นเติมเต้มความฟินแบบลงตัว
Yakiniku Great Bangkok เป็นโอมากาเสะเนื้อสุดพรีเมียม
ที่เน้นเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบและการบริการที่น่าประทับใจ
กับบรรยากาศร้านที่เรียบง่ายแต่มีความหรูหราที่เข้าถึงไม่ยาก
ทำให้การทานอาหารที่ร้านเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำ
หากคุณต้องการประสบการณ์การลิ้มรสเนื้อคุณภาพ
พร้อมกับเมนูอื่น ๆ แบบต้นตำรับญี่ปุ่น ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
