คลี่ปมสังหาร คดีฆ่าตัดหัวคาโรงแรมม่านรูดในซัปโปโร
กลายเป็นคดีสุดทึ่ง อึ้งยิ่งกว่าช็อคมินท์ไปแล้วในญี่ปุ่น เมื่อตำรวจฮอกไกโด ได้บุกจำกุมผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุฆาตกรรมสยอง ฆ่าตัดคอล่อนจ้อนใน 'Love Hotel' หรือ โรงแรมม่านรูด ในย่านซูซูกิโนะ แหล่งช้อปปิ้ง ไนท์คลับชื่อดังใจกลางเมืองซัปโปโร ของจังหวัดฮอกไกโด และพบว่าคนร้ายในคดีนี้ เป็นเพียงหญิงสาววัย 29 ปี ชื่อว่า ทามูระ รุนะ
แต่ที่อึ้งยิงกว่านั้นคือ เธอมีคุณพ่อเป็นถึงนายแพทย์ประจำในโรงพยาบาล และอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย
คดีฆาตกรรมสุดสยอง กลางเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีชายสูงวัยคนหนึ่ง ต่อมาทราบชื่อว่า อุระ ฮิโรชิ วัย 62 ปี ได้พาหญิงสาวคนหนึ่งที่สวมเสื้อสีอ่อน หมวกดำ ถือกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาเปิดห้องในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในย่านซูซูกิโนะ ในช่วงเวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่ม
หลังจากนั้นราว 3 ชั่วโมง พนักงานโรงแรมได้รับแจ้งว่า หญิงสาวจะขอกลับก่อนจากข้อความที่ฝากทิ้งไว้ซึ่งหญิงสาวก็ได้ออกจากโรงแรมไปตอนราวๆ ตี 2 ทิ้งนายอุระ ฮิโรชิ อยู่ห้องคนเดียว จนล่วงเลยมาถึงเวลาสาย ที่เกินเวลาเช็คเอาท์ของโรงแรมแล้ว พนักงานโรงแรมจึงเข้าไปทำความสะอาดห้อง แล้วก็ได้พบศพในอ่างอาบน้ำ อยู่ในสภาพหัวขาด เปลือยกาย เลือดไหลนองเต็มอ่าง
เมื่อนำศพไปชันสูตร จึงพบว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก จากบาดแผลที่ถูกแทง สิ่งของส่วนตัวของผู้ตายที่หายไป นอกจากศีรษะของเจ้าตัวแล้ว ก็มีโทรศัพท์มือถือ และ ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ส่วนรถยนต์ของผู้ตาย ถูกจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถ
ความยากในคดีนี้คือ เหตุเกิดในโรงแรมม่านรูด ที่มักให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้าอย่างมาก หากลูกค้าเป็นชาวญี่ปุ่น โรงแรมมักไม่ขอดูบัตรประจำตัวใดๆ ก่อนจะเปิดห้อง แม้แต่ตัวผู้ตาย ทางตำรวจก็เพิ่งรู้ว่าเป็นใคร ก็ตอนที่ภรรยาของนาย อุระ ฮิโรชิ มาแจ้งความคนหายในอีก 2 วันต่อมา
ส่วนกล้องวงจรปิด จับภาพได้เพียงว่าผู้ตาย กับหญิงสาวเดินเข้าไปในห้อง แต่หญิงสาวออกจากห้องมาเพียงคนเดียว และไม่มีใครเข้าไปในห้องอีกก่อนที่พนักงานมาพบศพ สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุฆาตกรรมเพียงคนเดียว
เหตุจูงใจอาจมีได้หลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องชู้สาว ฆ่าชิงทรัพย์ แต่ในวันนี้ ตำรวจฮอกไกโดแถลงว่าได้จับกุมคนที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ และสมรู้ร่วมคิดได้แล้ว รวม 3 คน ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
โดยตำรวจได้พบศีรษะของนาย อุระ ฮิโรชิ ที่ยังอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ซ่อนไว้ภายในบ้านหลังหนึ่ง ระบุชื่อเจ้าของบ้านคือ นาย ทามุระ โอซามุ วัย 59 ปี ปัจจุบันเป็นแพทย์ประจำในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในซัปโปโร ต่อมาตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายก็คือ ทามูระ รุนะ บุตรสาวของนายแพทย์ โอซามุ และได้จับกุมนาง ทามุระ ฮิโรโกะ วัย 60 ปี ที่เป็นแม่ของ รุนะ ในข้อหาช่วยกันซ่อนเร้น อำพรางศพด้วย
เหตุจูงใจในคดีนี้ ยังไม่แน่ชัด และ ยังไม่ยืนยันว่า รุนะ กับ ผู้ตาย รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนหรือไม่ แต่จากหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้ พบว่า ทามุระ โอซามุ ผู้เป็นพ่อ ขับรถพาลูกสาว มาส่ง และมารับแถวย่านซูซูกิโนะในวันเกิดเหตุ ทำให้ตำรวจสามารถแกะรอยได้จากจุดนี้ ส่วนแม่ของรุนะ เป็นผู้นำกระเป๋าใส่ศีรษะผู้ตายไปซ่อนไว้ในบ้าน
ตำรวจเชื่อว่า ทามุระ รุนะ มีอาการทางจิตที่ต้องได้รับการบำบัด ส่วนสื่อญี่ปุ่นได้สอบถามเพื่อนบ้านของครอบครัวทามุระ ได้ความว่า รุนะ เป็นคนเก็บตัว และสันโดษมาก จนเป็นอุปสรรคต่อการไปโรงเรียนตั้งแต่ยังเด็ก
แต่ก็แทบไม่น่าเชื่อว่า เด็กที่สันโดษ และมีปัญหาการเข้าสังคมอย่างหนัก จะไปนัดเจอผู้ชายวัยคราวพ่อ พากันเข้าโรงแรมม่านรูด และจบลงด้วยคดีฆ่าตัดคอ และเอาหัวผู้ตายใส่กระเป๋าหิ้วกลับบ้านได้อย่างไร
เป็นปริศนาที่ยังหาเหตุผลไม่ได้ และคงสิ่งใดที่หลอกหลอน ซับซ้อนกว่าสังคมมนุษย์ ไม่มีอีกแล้ว
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 94
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
