The Valor Ramintra
Teams.official พาชม The Valor Ramintra
บ้านเดี่ยวระดับ High Luxury Class ดีไซน์โดดเด่น
กับ 23 ยูนิตที่มอบความเป็นส่วนตัวสูง จาก V Property
กับความปราณีตด้านการออกแบบในทุกรายละเอียด
เพื่อการอยู่อาศัยใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในทุกตารางเมตร
จากแรงบันดาลใจของงานออกแบบในยุคคลาสสิค
ที่สามารถสะท้อนความโอ่อ่า ภูมิฐาน หนักแน่น
และเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่น เส้นโค้ง Arch
นำมาตัดทอนและประยุกต์ให้มีความร่วมสมัย
ด้วยสไตล์ Modern Minimal Classic
เพื่อความเข้าถึงได้ง่ายและเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
แต่ยังเต็มไปด้วยความละเอียดและใส่ใจ
เพื่อสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
กับคอนเซ็ปต์ ‘Harmony in Contrast
amidst nature where all generations relish’
ความกลมกลืนในความแตกต่าง
ท่ามกลางธรรมชาติที่คนทุกรุ่นหลงใหล
‘Valor’ มีความหมายว่า ความกล้าหาญ
ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จ
และคือสิ่งที่โครงการอยากนำเสนอผ่านงานดีไซน์
กับทุกรายละเอียดที่ดูแกรนด์ แข็งแรง มั่นคง แต่ทันสมัย
จึงเกิดเป็นโครงการที่เต็มไปด้วยรายละเอียดการออกแบบ
ที่มีความพิถีพิถัน มีความหมาย และมีฟังก์ชั่นในทุกพื้นที่
ทางโครงการได้ใช้วิธี Reconstruct
หรือการรื้อและจัดวางองค์ประกอบ
เพื่อสร้างสิ่งใหม่ตลอดทั้งโครงการ
ทั้งการเลือกใช้เส้นโค้งที่ถูกตัดทอนรูปทรง Arch
หรือการใช้คิ้วบัวประดับมาผสมผสานเข้ากับ Element ใหม่ ๆ
เพื่อเพิ่มลูกเล่นที่น่าสนใจและสร้างเสน่ห์
ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวโครงการ
ภายใต้ความเรียบหรูนั้นแฝงไปด้วยชั้นเชิงในการออกแบบ
ซึ่งสะท้อนคาร์แรกเตอร์และรสนิยมของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
สำหรับภาพรวมของโครงการ
มีการเลือกใช้โทนสีธรรมชาติ (EarthTone) ในการออกแบบ
เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
‘Every step…brings you closer to nature’
ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่ดีไซน์และจัดวางมาเป็นอย่างดี
สำหรับบ้าน Type ที่เราอยากแนะนำ คือบ้าน ‘Virage - M’
บ้านเดี่ยว 2 ชั้นกับขนาดที่ดินเริ่มต้น 62.4 ตร.ว.
และพื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน
1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน และ 2 ที่จอดรถได้
และฝ้าเพดานแบบ Double Volume สูง 6.3 ม.
The Valor Ramintra มาพร้อมที่ดินโครงการขนาด 7-3-33 ไร่
และจำนวนยูนิตเพียง 23 ยูนิต สร้างสังคมที่เป็นส่วนตัว
ภายใต้การออกแบบที่โดดเด่นและน่าดึงดูด
ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคนี้
ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมภายในโครงการ
และในส่วนต่าง ๆ ของบ้านจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ตามไปรับชมกันได้ในโพสต์นี้เลยครับ
Project : THE VALOR RAMINTRA 62
Architect : makeAscene
Interior : WVS
Landscape : W desine
Location: Ramintra 62, Khan Na Yao District Bangkok Thailand
Area: 7-3-33 (Rai) 23 Unit
Year: 2021
Price: Start 18.99 MB.
Photographs: TEAMS OFFICIAL
#TheValorรามอินทรา
#THEVALOR
#thevalorramintra62
#LuxuryHomeReview
#LuxuryHome
#ลักชัวรี่โฮมรามอินทรา
#บ้านเดี่ยวรามอินทราโครงการใหม่
#โครงการบ้านรามอินทรา
#โครงการบ้านใหม่รามอินทรา
#รีวิวบ้าน
#บ้านโมเดิร์นคลาสสิค
#Classicmodernhouseinterior
#ModernClassic
#modernhousedesign
#TEAMSOFFICIAL
The Valor Ramintra 62 คือโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสุดหรู
ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสไตล์ที่เรียบหรู สะท้อนรสนิยมของเจ้าของ
และมีความเป็นส่วนตัวสูงกับจำนวนยูนิตเพียง 23 ยูนิตเท่านั้น
จากแรงบันดาลใจของสถาปัตยกรรมในยุคคลาสสิค
และความตั้งใจสะท้อนคาแร็กเตอร์และรสนิยมของลูกบ้าน
จึงเกิดการถ่ายทอดสร้างสรรค์งานออกแบบ
เป็นสไตล์ Modern Minimal Classic
ที่ผสมผสานงานออกแบบระหว่างสองยุค
นำเสนอโดยการลดทอน และแทรกไอเดียที่น่าสนใจ
ในทุกองค์ประกอบเพื่อให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน
แต่ยังคงความคลาสสิคที่ดูภูมิฐาน สะท้อนความสำเร็จ
และความมั่นคงของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
บ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 2 Type ด้วยกัน
คือบ้าน Virage - M บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 62.4 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ
1 ห้องแม่บ้าน และสามารถจอดรถได้ 2 คัน
ซึ่ง mood&tone และบรรยากาศของบ้าน
ก็จะเป็นตามบ้านตัวอย่างในภาพนี้เลยครับ
ส่วนบ้านอีกแบบนึงก็คือบ้าน Vantage - L
ขนาดที่ดินเริ่มต้น 85 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 282 ตร.ม.
กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 5 ห้องน้ำ
1 ห้องแม่บ้าน และสามารถจอดรถได้ 3 คัน
บ้านทั้ง 2 แบบนั้นมีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกัน
ซึ่งสามารถสะท้อนความปราณีตในงานออกแบบ
และสะท้อนสไตล์ที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
จะต่างกันเพียงแต่ขนาดของบ้านและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่างการใช้ซุ้มโค้งและซุ้มเหลี่ยมขอบมน
ที่ให้อารมณ์แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแบบ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนั้นจะเเบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน
ซึ่งในแต่ละส่วนนั้นยังคงเอกลักษณ์ในด้านดีไซน์ของโครงการไว้เป็นอย่างดี
พร้อมทั้งมีการออกแบบจัดวางให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว
ซึ่งสอดแทรกอยู่ในทุกพื้นที่อย่างกลมกลืนและพิถีพิถันตลอดโครงการ
เป็นความตั้งใจที่อยากให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้ว่าจะอยู่ใจกลางเมือง
เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่ทุกคนควรได้รับ
บ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 2 Type ด้วยกัน
คือบ้าน Virage - M บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 62.4 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ
1 ห้องแม่บ้าน และสามารถจอดรถได้ 2 คัน
ซึ่ง mood&tone และบรรยากาศของบ้าน
ก็จะเป็นตามบ้านตัวอย่างในภาพนี้เลยครับ
ส่วนบ้านอีกแบบนึงก็คือบ้าน Vantage - L
ขนาดที่ดินเริ่มต้น 85 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 282 ตร.ม.
กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 5 ห้องน้ำ
1 ห้องแม่บ้าน และสามารถจอดรถได้ 3 คัน
บ้านทั้ง 2 แบบนั้นมีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกัน
ซึ่งสามารถสะท้อนความปราณีตในงานออกแบบ
และสะท้อนสไตล์ที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
จะต่างกันเพียงแต่ขนาดของบ้านและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่างการใช้ซุ้มโค้งและซุ้มเหลี่ยมขอบมน
ที่ให้อารมณ์แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแบบ
สำหรับบ้าน Virage - M มาพร้อมกับฟังก์ชั่นครบครัน
ตอบโจทย์การอยู่อาศัยใช้ชีวิตของทุก Generation
ภายนอกออกแบบตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความเป็นคลาสสิค
มีเอกลักษณ์ที่ดูทันสมัยแต่มีความ Elegant หรูหราในทุกดีเทล
นอกจากซุ้มขอบมนด้านหน้าบ้านที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว
จะเห็นได้ว่าบริเวณผนังกว่าครึ่งนึงส่วนหน้าของตัวบ้าน
จะเป็นกระจกทรงสูงเต็มบานแทบจะทั้งหมด
ทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านมีความโปร่ง
และสามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
จากภาพจะเป็นบรรยากาศของบ้าน Virage - M ที่เราอยากนำเสนอ
กับพื้นที่หลักของชั้นแรกในโซนห้องนั่งเล่น Double Volume สูง 6.3 เมตร
ที่มีความสัมพันธ์กับดีไซน์ซุ้มโค้งของบ้านด้านนอก
ในจุดนี้ในภายนอกก็ทำให้บ้านดูโอ่อ่าหรูหราและภูมิฐาน
แต่ในบ้านกลับให้ความรู้สึกโปร่งสบายและดู Cozy ในเวลาเดียวกัน
กับพื้นที่หลักของชั้นแรกในโซนห้องนั่งเล่น Double Volume สูง 6.3 เมตร
ที่มีความสัมพันธ์กับดีไซน์ซุ้มโค้งของบ้านด้านนอก
ในจุดนี้ในภายนอกก็ทำให้บ้านดูโอ่อ่าหรูหราและภูมิฐาน
แต่ในบ้านกลับให้ความรู้สึกโปร่งสบายและดู Cozy ในเวลาเดียวกัน
เมื่อเข้ามาหน้าประตูทางเข้าหลักจะพบกับโซนห้องนั่งเล่น
ซึ่งเชื่อมต่อเป็นพื้นที่ Double Volume ด้านบน
และเป็นพื้นที่ Open Space เชื่อมต่อระหว่างโซน Dining ด้านล่าง
ทำให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่งโล่งสบาย
ในขณะเดียวกันก็เปิดโล่งให้คนในครอบครัว
สามารถมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
พื้นที่ห้องนั่งเล่นนี้สามารถที่จะวางโซฟาขนาดใหญ่ได้แบบสบาย ๆ
ในขณะที่พื้นที่ทานอาหารด้านหลังที่เชื่อมต่อกันก็สามารถที่จะ
วางโต๊ะอาหารขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ตามการดีไซน์จัดวาง
ในส่วนของพื้นที่ Double Volume นั้น
จากพื้นถึงฝ้ามีความสูงถึง 6.3 เมตรด้วยกัน
พื้นที่ในส่วนนี้ถึงได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ตัวบ้าน
ดูมีความสง่างามสะท้อนสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
และยังมีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้าน
เพื่อให้การอยู่อาศัยของลูกบ้านมีความสุนทรีย์
แต่ยังเต็มไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์
เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ในส่วนด้านหน้าที่เป็น Double Volume
พื้นที่ส่วนนี้คือพื้นที่อเนกประสงค์ที่ลูกบ้านสามารถ
ออกแบบจัดวางเป็นโซนสำหรับนั่งพักผ่อน มุมโชว์ของ
หรืออาจจะทำเป็นมุมทำงานเล็ก ๆ ตามการใช้งานได้
ซึ่งพื้นที่นี้จะได้รับวิวจากช่องแสงแบบจัดเต็ม
ทั้งพื้นที่ในชั้นล่างและวิวจากนอกบ้าน
ส่วนในเรื่องของความปลอดภัย ทางโครงการได้ติดตั้ง
กระจกแทมเปอร์ที่มีความสวยงามและแข็งแรงทนทาน
เพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้งานพื้นที่นี้ได้อย่างสบายใจ
ถัดมาในส่วนของห้องนอนรองในชั้นสองตามภาพของบ้านตัวอย่าง
จะเห็นได้ว่าพื้นที่ห้องนี้มีจุดเด่นคือช่องแสงด้านข้างที่สามารถ
ทำให้ลูกบ้านรับวิวจากพื้นที่ Double Volume ได้ด้วย
พื้นที่ในห้องก็มีขนาดเพียงพอต่อการใช้งาน
สามารถวางเตียงขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้
อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือในการใช้งานอื่นๆอีกด้วย
ในส่วนของพื้นที่ที่ติดกับช่องแสง
ลูกบ้านอาจจะออกแบบพื้นที่นี้สำหรับนั่งทำงานหรือนั่งเล่น
หรือแม้แต่ทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งหน้าก็ได้เช่นกัน
โดยมุมนี้จะสามารถนั่งมองวิวจากด้านหน้าบ้านและมุมด้านข้าง
ทำให้เพิ่มบรรยากาศและความสุนทรีย์ในการใช้ชีวิตได้
มาต่อกันที่ห้อง Grand Master Bedroom ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าตามแปลนบ้าน
ห้องนี้ลูกบ้านจะได้พื้นที่ใช้สอยไปอย่างเพียงพอและยังได้รับวิว
จากหน้าต่างกระจกเต็มบานด้านหน้าพร้อมระเบียงขนาดใหญ่
พื้นที่นี้สามารถวางเตียงขนาด King Size และ Queen Size ได้สบาย ๆ
พร้อมทั้งยังมีพื้นที่เหลือสำหรับใช้งานอย่างอื่นได้อย่างเพียงพอ
ถัดมาเชื่อมต่อกับโซนห้องนอนจะเป็นพื้นที่เอนกประสงค์
ลูกบ้านสามารถออกแบบจัดวางเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องเเป้ง
หรืออาจจะทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหรือนั่งทำงานได้
แม้กระทั่งพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ก็ได้เช่นกัน
ซึ่งสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของได้สบาย ๆ
เพราะจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ชั้นสองนั้นมีความสูงถึง 2.7 เมตรเลยทีเดียว
มาต่อกันที่พื้นที่ห้อง Walk-in Closet
ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นพื้นที่ห้องนอนที่สาม
แต่ตามบ้านตัวอย่างได้ออกแบบมาให้
ในกรณีที่ลูกบ้านมีจำนวนคนไม่เยอะ
และต้องการพื้นที่ห้องแต่งตัวเพิ่มก็สามารถทำได้
โดยมีพื้นที่เพียงพอสำหรับ Built-in สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์
ได้ตามรสนิยมและการใช้งานของลูกบ้าน
ซึ่งแน่นอนว่าตามแปลนแล้วในห้องนี้มีห้องน้ำส่วนตัว
ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย
จากบ้านมาตรฐานใน Type นี้ไม่ว่าภายในบ้านลูกบ้านจะตกแต่งแบบไหน
สิ่งที่จะได้จากโครงสร้างการออกแบบหลักก็คือเรื่องของความสง่างามจากภายนอก
และบรรยากาศที่ดีในภายในจากความสูงโปร่งและพื้นที่ Open Space
รวมทั้งช่องแสงขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
สำหรับบ้านอีกหนึ่ง Type เรียกว่าบ้าน Vantage - L
ซึ่งเป็นบ้านแบบที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ
แต่ต้องบอกว่าดีไซน์โดยรวมของบ้านนั้นไม่แตกต่างกันมาก
ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของขนาดและรายละเอียดเล็กน้อย
บ้าน Vantage - L นั้นออกแบบมาเพื่อรองรับครอบครัวขยาย
เน้นโทนสีเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ อย่าง สีครีม, น้ำตาล และขาว
และยังคงเอกลักษณ์ของงานออกแบบที่มีความคลาสสิค
ที่ตัดทอนและผสมผสานให้มีความร่วมสมัยเช่นเดียวกัน
ที่บริเวณชั้น 1 มีการแบ่งสัดส่วนกันอย่างชัดเจน
แต่ยังคงออกแบบจัดวางโดยใช้พื้นที่ Open Space
ส่วนของห้องนั่งเล่นจึงเชื่อมต่อทานอาหาร
ที่ทำให้พื้นที่มีความกว้างขวางแต่มีการแบ่งโซนใช้งานที่ชัด
พื้นที่นี้มีความโปร่งจากพื้นที่ Double Volume สูง 6.3 เมตรด้วยเช่นเดียวกัน
ทำให้บรรยากาศในบ้านดูโอ่อ่าหรูหราแต่มีฟังก์ชั่นที่ครบครัน
สำหรับในชั้น 1 มีห้อง multi-function พร้อมห้องน้ำในตัว
ซึ่งลูกบ้านสามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนผู้สูงอายุได้ตามความต้องการ
ส่วน pantry ที่แบ่งแยกออกไปชัดเจน
ซึ่งอยู่บริเวณทางออกไปโรงจอดรถ
มีฟังก์ชั่น island กึ่งบาร์ให้ใช้งานได้หลากหลาย
เติมเต็มทำให้การใช้งานภายนอก สู่ภายในเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของช่องแสงธรรมชาติ บ้านใน Type นี้
ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ด้วยซุ้มโค้งหน้าบ้าน
และหน้าต่างกระจกเต็มบาน เพิ่มมุมมองในบ้าน
พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
และด้วยการออกแบบพื้นที่แบบ Open Space
ทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือในการใช้สอย
เมื่อแบ่งโซนเป็นพื้นที่ทานอาหาร
สามารถใช้วางโต๊ะอาหารขนาดใหญ่
8 - 12 ที่นั่งได้สบาย ๆ ตามการใช้งาน
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์
ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Double Volume เช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ว่าจากภาพนี้มีบรรยากาศจากช่องแสงด้านหลัง
ทำให้พื้นที่นี้ดูมีความโปร่งสบายและมีวิวสวนสีเขียวที่น่ามอง
สำหรับห้องนอนของบ้าน Vantage - L ตามบ้านมาตรฐานจะมีทั้งหมด 3 ห้องนอน
ซึ่งแต่ละห้องนั้นมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ
และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับใช้สอยอย่างอื่นตามการใช้งานหรือไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
พร้อมทั้งยังได้รับช่องแสงธรรมชาติช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีให้กับห้องอีกด้วย
ในส่วนของห้อง Grand Master Bedroom ก็มีพื้นที่กว้างขวาง
สามารถวางเตียง King Size ได้แบบสบาย ๆ
และยังอยู่ติดกับช่องแสงขนาดใหญ่พร้อมระเบียง
ช่วยเพิ่มความแกรนด์ให้กับห้องพร้อมบรรยากาศที่ดี
และที่ขาดไม่ได้ก็คือพื้นที่ Walk-in Closet
ที่สามารถ Built-in ตู้ขนาดใหญ่ได้ทั้งสองฝั่ง
และยังอยู่ติดกับช่องแสงในทิศทางที่เหมาะสม
ทำให้บรรยากาศการใช้งานมีความหรูหรามากขึ้น
พร้อมทั้งพื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายต่อการใช้งาน
ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางจะเเบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน
คือพื้นที่สระว่ายน้ำ, Co-living Space, ฟิตเนส (Technogym) และพื้นที่สวน
ซึ่งมีการดีไซน์โดยคงเอกลักษณ์ของโครงการ
ที่ผสมผสานและลดทอนความคลาสสิคและความร่วมสมัย
จะสังเกตได้จากการใช้ซุ้มโค้งและรายละเอียดเล็กน้อยอื่น ๆ
ที่ผ่านการคิดมาแล้วอย่างมีชั้นเชิงในการออกแบบ
นอกจากนี้บ้านแต่ละหลังตามแปลนนั้น
ได้ถูกออกแบบมาให้วางแนวตามดีไซน์ของ Tropical Architecture
หรือการสร้างสถาปัตยกรรมสำหรับพื้นที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น
ที่ดีไซน์มาเพื่อการอยู่อาศัยในอุณหภูมิแบบเมืองไทย
ซึ่งคำนึงถึงอากาศที่ไหลถ่ายเทผ่านบ้านอย่างสะดวก
มีการวางแปลนบ้านโดยหันไปตามทิศเหนือ-ใต้ไม่ขวางตะวัน
ทำให้ช่วงบ่ายไม่ต้องรับแสงแดดมากจนเกินไป ช่วยลดความร้อน
และยังได้รับลมจากทิศตะวันตกเฉียงใต้
พร้อมช่องเปิดทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านอีกด้วย
สำหรับสระว่ายน้ำจะเป็นระบบเกลือ
ขนาด 16x5 เมตร มีการแบ่งโซนสระเด็กให้ด้วย
เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-living กับบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
ผนังโดยรอบเป็นกระจกใสทำให้ได้รับแสงธรรมชาติและวิวภายนอก
พร้อมกับพื้นที่สีเขียวที่รายล้อม โดยมีต้นไม้ที่มีความหลากหลาย
ซึ่งได้รับการคัดสรรและออกแบบจัดวางทุกอย่างมาอย่างดี
พร้อมทั้งช่วยให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตโดยใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
The Valor Ramintra นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องของดีไซน์
และการวางผังเพื่อการอยู่อาศัยใช้ชีวิตที่มีคุณภาพแล้ว
ในเรื่องของโลเคชั่นก็น่าสนใจและมีคุณภาพไม่แพ้กัน
The Valor ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 62 เขตคันนายาว ใกล้กับสถานที่สำคัญมากมาย
อีกทั้งใกล้แหล่งรวมไลฟ์สไตล์อย่าง Fashion Island, Amorini mall
และ Central Festival Eastville
นอกจากนั้นยังใกล้กับโรงพยาบาลชั้นนำ โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา,
โรงพยาบาล อินทรารัตน์, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ,
โรงพยาบาลนวเวช และโรงพยาบาล นพรัตนราชธานี
และโรงเรียนชั้นนำอย่างโรงเรียนเบญจมินทร์,
Wellington College International School Bangkok
และ Brighton College Bangkok
นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสถานที่เชื่อมต่อการเดินทาง
อย่างรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สถานีรามอินทรา กม.9
ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกตะวันออก
และทางพิเศษฉลองรัชอีกด้วย
The Valor Ramintra คือโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรู
ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในของบ้าน
กับความลงตัวของความคลาสสิคและความร่วมสมัย
รวมทั้งการจัดวางผังตลอดทั้งโครงการที่มีความใส่ใจในรายละเอียด
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพ มีความเป็นส่วนตัว
สำหรับผู้ที่กำลังสร้างครอบครัว หรือต้องการพื้นที่สำหรับครอบครัวขยาย
และเป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตน รสนิยม และความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
