กลับประเทศไทย นี่คือเรื่องใหญ่ที่สุดทางการเมืองเวลานี้ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อการเมืองไทย และมันอาจกลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยต่อภาพให้ประชาชนเห็นความจริงทางการเมือง
.
‘ข่าวลือ คือข่าวจริงที่มาก่อนเวลา’ จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ คำตอบจะปรากฏในไม่ช้า
.
ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีจังหวะผิดธรรมชาติ หลังขึ้นมาเป็นแกนนำ 8 พรรคตั้งรัฐบาลที่มี 312 เสียงในมือ จังหวะตามธรรมชาติคือเสียงในมือ บวกเสียง ส.ว. 13 เสียง หากเติมอีกประมาณ 51 เสียง จะถึงเป้า 375 เสียง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเชิญพรรคขั้ว 188 เสียงมาคุย และสื่อนัยว่าจะเอาพรรคก้าวไกลที่มี 151 เสียงออกจากสมการ
.
สิ่งที่พรรคเพื่อไทยคิดคือการรวมเสียงให้เกินครึ่งรัฐสภา จัดตั้งรัฐบาล ผลักดันวาระประเทศแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่รอไม่ได้ แต่สิ่งที่เพื่อไทยต้องประเมินให้ดีคือกระแสความไม่พอใจของประชาชน เพราะผลการเลือกตั้งชี้ชัดว่าคนไม่เอาพรรคขั้วรัฐบาลเดิม จึงเทคะแนนให้อีกขั้วหนึ่งซึ่งคือพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย
.
คะแนนเสียงพรรคเพื่อไทยเริ่มต้นจากสิ่งนี้ หากไม่คิดถึงสิ่งนี้เวลารวมเสียงตั้งรัฐบาล ด้วยต้นทุนที่ตามมาก็ยากจะประเมิน
.
หากเพื่อไทยมั่นใจในฝีมือการบริหารเศรษฐกิจ โดยหวังว่าจะช่วยคลายปมในใจประชาชน
.
เมื่อถึงการเลือกตั้งหนหน้า ก็ต้องพิสูจน์กันว่าจริงหรือไม่