Tirta Ganga Water Palace
การปกครองระบบศักดินาของเจ้านายท้องถิ่นทางเหนือจบลงในปี 1849 เมื่อดัตช์เข้าควบคุมบาหลีตอนเหนือไว้ได้เกือบ 60 ปีก่อนที่ดัตช์จะเข้าครอบครองบาหลีตอนใต้ เชื้อสายของราชวงศ์จำนวนมากเข้าร่วมกับคณะปกครองของดัตช์
อิทธิพลของยุโรปจึงเกิดขึ้นแต่งแต้มวิถีชีวิตของผู้คนตอนเหนือให้เป็นแบบตะวันตกมากกว่าชุมชนทางใต้
Photo : Internet
Tirta Gangga Water Palace (อักษรโรมัน: Tirta Gangga) เป็นสวนน้ำ ในอดีตวังหลวง ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในอำเภอการังกาเซม ใกล้กับอำเภออาบัง ..
สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ Anak Agung Anglurah Ketut Karangasem แห่งราชวงศ์ Karangasem ในปี ค.ศ.1946 หลังจากที่พระองค์กลับมาจากการเสด็จเยือนพระราชวังแวร์ซายน์ ของฝรั่งเศส แล้วเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างพระราชวังบนภูเขาที่สามารถเฝ้ามองอาณาจักรของพระองค์
การออกแบบเพื่อให้เป็นสถานที่สักการะและทำสมาธิสำหรับราชวงศ์ .. พระราชวังมีรากฐานมาจากระบบความเชื่อโบราณ บางคนแนะนำว่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 เพื่ออุทิศให้กับ Dewi Danu หรือพระอิศวร
.. ภายหลัง พระราชวังแห่งนี้ถูกทำลายเกือบทั้งหมดจากการปะทุของภูเขา Agung ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ในปี ค.ศ.1963 ทำให้ที่นี่ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เหลือเพียงสวนและสระน้ำเท่านั้น ... จึงได้รับการบูรณะใหม่หลายครั้ง
ตีร์ตากังกา … มีความหมายว่า น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ง กังกา หรือ "Fountain of Youth น้ำพุแห่งความเยาว์วัย" อันเป็นนามที่มีความหมายมีพื้นฐานมาจากความเชื่อเรื่องแม่น้ำคงคา หรือ Ganges ในประเทศอินเดีย
.. ซึ่งผู้คนที่นั่นเชื่อว่าสายน้ำที่นั่นมีคุณสมบัติในการบำบัดและรักษาโรค รวมถึงมีพลังในการรักษาความเยาว์วัยให้ยาวนาน … เช่นเดียวกับความเชื่อของผู้คนในบาหลีเช่นกัน
ผู้คนมาที่นี่เพื่อร่วมงานเทศกาลและพิธีต่างๆ เพื่อลงเล่นน้ำในสระและเคารพความหมายทางจิตวิญญาณ
ชาวบาหลีเชื่อว่ามันช่วยปกป้องพวกเขาจากวิญญาณชั่วร้าย โชคร้าย และความเจ็บป่วย .. และหากผู้ใดได้อาบน้ำในสระ ตีร์ตากังกา ในวันเดือนเพ็ญ จะได้รับพรให้มีความเยาว์วัยไปตลอดกาล รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บก็จะหายไปด้วย
Tirta Gangga เป็นสระน้ำในสวนที่มีน้ำพุและน้ำตก .. สระน้ำเชื่อมต่อกันด้วยช่องทางน้ำแบบดั้งเดิมที่ใช้เพื่อการชลประทาน
การสร้างและตกแต่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของวัฒนธรรมบาหลี และสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม โดยมีเสาแกะสลัก ซุ้มประตู และรูปปั้นเทพเจ้า เรียงรายไปตามทางเดินของพระราชวัง
ในตีร์ตากังกา ประกอบด้วยจุดสนใจสำคัญหลายแห่ง .. เช่น พระราชวังน้ำการังกาเซม (Karangasem royal water palace), ที่อาบน้ำ และวิหารปาตีร์ตัน (Patirthan temple) หมู่อาคารขนาดหนึ่งเฮกตาร์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1946 และต่อมาถูกทำลายแทบทั้งหมดหลังภูเขาไฟอากุงปะทุในปี ค.ศ. 1963
สวนน้ำอันหรูหราของราชวงศ์ Karangasem แห่งนี้ มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานจากความเชื่อในศาสนาฮินดูแบบบาหลี .. โดยภายในประกอบด้วย สระน้ำ 1.2 เฮกตาร์ บ่อน้ำเต็มไปด้วยปลาคราฟ และ น้ำพุ ล้อมรอบด้วยสวนที่ประดับด้วยหินขั้นบันได รูปปั้น ปะติมากรรมต่างๆ อันสวยงามวิจิตรตระการตา เป็นเหมือนกับที่อาบน้ำของราชวงศ์
สวนสำราญที่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์มาก มีความสวยงาม รื่นรมย์ และอยู่ในทำเลที่ดีในการเดินทางไปเยือน
เมื่อเข้าสู่ที่ตั้งของ Tirta Gangga Water Palace ... ทางเข้าสู่พระราชวังต้องผ่านประตูผ่าซีกที่สวยงาม
สัตว์ที่แกะสลักอย่างสวยงาม ตั้งอยู่ตรงทางเข้า เพิ่มความงามสง่าให้แก่สวนน้ำ
เพียงเดินลงมาจากประตูทางเข้า จะมองเห็นสวนน้ำ เป็นสระอะความารีน บ่อปลา .. รูปปั้นฮินดูและพุทธที่สวยงาม และสถาปัตยกรรมและสัญลักษณ์ทางศาสนาของพระราชวังเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม
ทางเดินลงไปยังด้านในของสระน้ำ มีการวางหินเป็นทางเดินเป็นระยะๆ สลับกับรูปสลักหินสวยงาม ให้มิติที่น่ามอง .. เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมลงไปชมประติมากรรมหินสลักรูปร่างของเทพตามความเชื่อของคนบาหลีอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้นักท่องเที่ยวโพสท่าถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
น้ำตื้นๆในสระใสแจ๋ว มองเห็นปลาคราฟแหวกว่ายสายน้ำในทุกทิศ ทุกทาง ... ขอบสระประดับด้วยหินสลักรูปสัตว์หลายชนิด และมีน้ำพ่นออกมาจากปากของสัตว์แต่ละตัว
ไม่ไกลสระน้ำแห่งแรก มีสวนสาธารณะที่มีหอคอยน้ำสูง 10 เมตร อ่างเก็บน้ำนี้มีขั้นบันไดเหมือนหลังคาวัด
น้ำในสระ Tirta Gangga มาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์และใช้สำหรับกิจกรรมพิธีตามประเพณี ขณะที่อยู่ในสระน้ำด้านทิศตะวันตก มีสะพานเล็กๆ ซึ่งมักจะใช้เป็นภาพพื้นหลัง
สระน้ำด้านทิศตะวันตกมีความกว้างมากที่สุด อีกวิธีหนึ่งในการเพลิดเพลินกับ Tirta Gangga Water Palace คือ การพายเรือแคนูไปรอบ ๆ สระนี้ .. ขนาดของสระน้ำที่กว้างใหญ่ การใช้ เรือ หรือโจเกิง เป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ สำหรับผู้มาเยือนที่ต้องการความบันเทิงเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำสำหรับสาธารณะ โดยมีค่าเข้า IDR 10,000 สระว่ายน้ำที่ Tirta Gangga Water Palace เหมาะที่จะแวะเยี่ยมชมหลังจากถ่ายภาพ
คุณสามารถสำรวจวังน้ำได้ตามอัธยาศัย แต่หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความสำคัญของวังน้ำ .. จะต้องจองทัวร์พร้อมไกด์โดยไกด์คนใดคนหนึ่ง
.. เมื่อคุณเดินเข้าไปในพระราชวัง คุณจะได้รับการต้อนรับจากประตูสูงตระหง่านสองประตูที่ทางเข้าของทางเดินยาว น้ำพุมีรูปปั้นเจ็ดตัวจากตำนานบาหลี ศาลาอันวิจิตรที่มีธงสวดมนต์ห้อยลงมาจากชายคา ประติมากรรมหินแปลกตาจัดแสดงเทพเจ้าฮินดูที่แกะสลักไว้ ต้นไม้ ต้นไม้ และพุ่มไม้ล้อมรอบบ่อปลาคาร์ปที่สวยงาม
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
