นักร้องหลัวอีโจวกลับมาแล้ว บอกเลยความหลัวนั้นมาเต็มมมม
12/7 ที่ผ่านมาเป็นวันที่ Solo EP แรกของคุณหลัววางขาย ถามว่าเมียเป็นยังไง ก็ตายไปเลยสิคะ นอกจากจะมุด VPN ไปสตรีมเพลงหลัวฟังอย่างเคลิ้มวนไปล้านรอบแล้ว ก็ยังกดพรีบั้มไปรัวๆ กะเอามาถมที่ไม่ก็แปะผนังห้องแทนวอลเปเปอร์ไปเลย
ไม่รู้มีใครคิดเหมือนกันมั้ย พอเห็นชื่อค่าย YZ Music ในเครดิตอัลบั้มแล้ว มันทั้งดีใจ สะใจ และเศร้าปนแค้นใจอย่างบอกไม่ถูก มันยังไง มันยังไง คุณหลัวผู้แสนดีก็ไม่เคยปริปากบ่นเลยว่าถูกอิค่ายทำอะไรบ้าง ปล่อยให้เมียสงสัยมาตั้งนานว่าทำไมงานเพลงไม่ออกมาซะที พอได้เห็นคลิปเบื้องหลัง Side L เท่านั้นแหละ อืมมม เอางี้สินะ ค่ายไม่ทำ หลัวทำเองก็ได้
แล้วพอได้อ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Super ELLE ปกหลัวหล่อเกรี้ยวกราดก็อืม 冷静一点 ใจเย็นก็ได้ เพราะหลัวบอกไว้ว่า “โยมเมียเลิกมองกลับไปที่ปัญหา แต่จงมองไปข้างหน้าเถิด” สาธุค่ะคุณหลัว
หลัวอีโจวหวนคืนสนามเดิม เพิ่มเติมคือ PASSION
แปลจากนิตยสาร SuperELLE欣漾 ฉบับเดือนสิงหาคม 2023
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มสนามโกคาร์ทท่ามกลางแสงอาทิตย์แผดเผา ทั้งรถโกคาร์ททั้งมอเตอร์ไซค์ต่างเร่งแซงไปตามทาง ทิ้งโค้งเข้ามุม ยางล้อบดเบียดพื้นสนามส่งเสียง "เอี๊ยดดดด" ข้างสนามยังมีสเตอริโอที่กำลังเล่นเพลง "Give me your heart/Give me your hands/Give me your head/Make my dreams come true" เมื่อเงยหน้าขึ้นเป็นพักๆก็จะเห็นรถแล่นฉิวผ่านไป ทุกอย่างที่นี่เต็มไปด้วย passion
อะไรที่ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งวิวัฒนาการจนมีตัวตนที่ชัดเจนได้ขนาดนี้? ผลงานต่างๆนำพาอะไรมาสู่ครีเอเตอร์หนุ่มคนนี้บ้าง? ตามเรามาสำรวจชีวิตในรอบปีนี้ของหลัวอีโจวกัน
01 "ดนตรีคือความหลงใหล"
กรกฎาคม 2023 เป็นช่วงเวลาสำคัญที่หลัวอีโจวรอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดผลงาน EP เดี่ยวชุดแรกของเขาก็ออกสู่สายตาผู้ชม กว่าจะมาถึงจุดนี้ ทั้งหลัวอีโจวและแฟนๆต่างก็รอแล้วรอเล่าจนแทบทนไม่ได้ อ้างอิงจากปากเจ้าตัว มันคือกระบวนการที่ "ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างอย่างช้าๆ"
EP <<Side L 不太一样>> มีทั้งหมด 5 เพลง ไตเติ้ลแทร็คก็คัดมาแล้วอย่างพิถีพิถัน หลัวอีโจวกับทีมงานถกกันอยู่นานมาก กว่าจะตัดสินใจเลือก <<Rolling>> ซึ่งเป็นเพลงเซ็กซี่แบบจัดเต็ม ระหว่างที่คุยกัน เขาเปิดให้พวกเราฟังท่อนหนึ่ง เป็นเพลงที่ให้จังหวะอ้อยสร้อยชวนเคลิ้ม อ่อนโยนแต่ก็ทรงพลัง ส่วนอีกเพลงคือ <<Summer>> ซึ่งให้บรรยากาศกลางฤดูร้อน
หลัวอีโจวมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนตั้งแต่เลือกเพลงไปจนถึงการผลิต EP นี้ (รวมทั้งเขียนเนื้อ ร้อง มิกซ์เสียง และ MV) ตั้งแต่ปีที่แล้วมา เขาฟังเดโม่มาแล้วนับไม่ถ้วน "หูชาเลยล่ะครับ" หลัวอีโจวตั้งความหวังไว้สูงมากกับผลงานเพลงชิ้นแรก เพราะมันคือบทสรุปมาตรฐานทางสุนทรียศิลป์ของเขา
ในการคัดเลือกเพลง หลัวอีโจวจะฟังเมโลดี้เป็นอย่างแรก แล้วค่อยจับความรู้สึกกับอารมณ์เพลงต่อมา เพราะ "งานศิลปะต้องอาศัยอารมณ์เป็นตัวปลุกเร้าผู้ชม เพลงที่ไม่มีบุคลิกเฉพาะตัวจึงไร้ความหมาย" ดังนั้นทิศทางไม่ควรเป็นตัวจำกัด และการสื่อสารอารมณ์ต้องแข็งแรง
การออกแบบท่าเต้นก็ยังเป็นด้านที่แสดงนิสัยส่วนตัวของเขาได้ชัดเจน เพราะการเต้นไม่ใช่แค่การเอาท่าต่างๆมาเรียงต่อกัน การเต้นถือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงบนเวที จึงต้องล้อไปตามคอนเซ็ปต์หลักกับตรรกะรวมทั้งหมด เลยต้องสมูท เป็นขั้นเป็นตอน ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ และต้องแสดงออกถึงสไตล์ที่ชัดเจน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องลดทอนความซับซ้อนลง ทำให้ง่ายขึ้น แล้วค่อยปล่อยหมัดเด็ดที่สุดในจุดที่ "ใช่" ที่สุดออกมา
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องยากที่จะทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ให้ได้ครบหมดตั้งแต่แรกเริ่มสร้างสรรค์ผลงาน "อย่างนั้นก็ยิ่งสบายๆไม่ได้" เขารีบเสริมทันที "ถ้าคุณตั้งเป้าอยากจะได้ 100 คะแนน ตอนนี้คุณอาจมีความสามารถพอจะแสดงให้ทุกคนเห็นอยู่ 80 คะแนน เพราะฉะนั้นจะลดมาตรฐานลงไม่ได้เด็ดขาด"
หลัวอีโจวมีความหลงใหลให้ดนตรียิ่งขึ้นไปอีก ถึงขั้นสร้างพื้นที่ดนตรีสำหรับตัวเองขึ้นโดยเฉพาะ ก่อนที่โปรเจ็คท์อัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกจะถือกำเนิดขึ้น เขาได้สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ดนตรีในชื่อ Z-pace ขึ้นมาเพื่อคอยอยู่กับผู้ฟัง และจะเป็นของผู้ฟังตลอดไป
ครั้งนี้ Z-pace ได้ใช้เพลง 5 เพลง แสดงด้าน 5 ด้านของนักร้องหลัวอีโจวให้ทุกคนได้เห็น และในอนาคต พื้นที่แห่งนี้ก็ยังจะปล่อยผลงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ และปลดล็อกด้านที่แตกต่างหลากหลายของเขาต่อไป
สำหรับอีโจวแล้ว การทำเพลงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ณ เวลานี้ ในการแสดงออกถึงสุนทรียศิลป์ของตัวเอง และเพื่อก้าวเข้าสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกในอนาคต พิจารณาจากแนวคิดหลากมิติของ Z-pace แล้ว หลัวอีโจวที่เป็นนักร้อง ก็ยังคงเป็นหลัวอีโจวที่เป็นนักแสดงด้วยเช่นกัน เพราะทุกอย่างต่างก็เป็นส่วนเติมเต็มงานสร้างสรรค์ของเขาทั้งสิ้น
02 "ช้าๆได้พร้าเล่มงาม"
ถึงแม้การปล่อยผลงาน EP แรกนี้จะล่าช้ามานาน แต่พอถึงการผลิตจริง กลับแล้วเสร็จในขั้นตอนเดียว หลังเลือกเพลงเรียบร้อย การเรียบเรียง ร้อง มิกซ์เสียง ไปถึงถ่ายเอ็มวี ทั้งหมดนี้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 เดือนเท่านั้น และที่สำคัญยิ่งกว่า หลัวอีโจวได้ค้นพบว่าความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ในขั้นตอนการรังสรรค์ ซึ่งนั่นทำให้เขาเร่งวันเร่งคืนอยากปล่อยผลงานออกมาให้เร็วขึ้นอีก จึงเป็นที่มาของความสงสัยว่า แล้วทำไมงานที่ทุกคนตั้งตาคอยขนาดนี้ ถึงเพิ่งออกสู่สายตาชาวโลกเวลานี้ล่ะ?
"พูดตามตรง ผมไม่เคยกังวล ไม่เคยอาย และไม่เคยกลัวที่จะพาผลงานมาพบกับทุกๆคน ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มัน make sense สำหรับผม แล้วก็หวังเหลือเกินว่าจะได้รีบทำรีบปล่อยออกมาให้ฟังกัน แต่ก็ทำไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ให้พูดตรงๆก็เพราะเจออุปสรรคหลายอย่าง" เขาระบุได้ชัดเจนถึงหลักวันด้วยซ้ำว่า 9 พฤศจิกายน 2022 เป็นวันที่หวังไว้ตั้งแต่แรกว่าอัลบั้มนี้จะได้ออกสู่สายตาทุกคน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราทุกคนต่างได้พบประสบการณ์แบบเดียวกันถ้วนหน้า อาการ "สะสมไว้เต็มคลังแสง แต่ปล่อยได้กะปริบกะปรอย" ได้กลายมาเป็นประเด็นสำหรับครีเอเตอร์รุ่นใหม่ การรอคอยอย่างยาวนานช่วยยกระดับ "ความอดทน" ให้เพิ่มขึ้นโดยปริยาย นอกเหนือจาก "การสะสมทักษะพื้นฐานต่างๆ" แล้ว ก็ยังมีห้วงเวลามหาศาลที่ต้องปล่อยให้สูญเปล่า และแม้กระทั่งในเวลาแบบนี้เราก็ยังต้องใช้พลังชีวิตที่มีเพื่อผ่านมันไปให้ได้
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลัวอีโจวโพสต์เวยปว๋อเป็นภาพกระดาษเบลอๆที่มีเนื้อเพลงไตเติ้ลแทร็คของ EP นี้พิมพ์อยู่ เพราะก่อนผลงานจะถูกปล่อยออกมา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะใช้บอกทุกคนได้ว่ากำลังเร่งมืออยู่นะ
จริงๆแล้วหลัวโพสต์รูปเนื้อเพลง <<Rolling>> วันที่ 30 พฤษภาคม ก่อนเดือนมิถุนายนไปอีก
วันที่เรานั่งสัมภาษณ์กัน วัตถุดิบทั้งหมดของ EP นี้ได้ผลิตเสร็จเรียบร้อย การปล่อยเพลงและจัดจำหน่ายกำลังจะเริ่มขึ้น หลัวอีโจวยินดีที่จะแบ่งปันมุมมองด้านดนตรีของเขา และเต็มใจรับฟังคำเสนอแนะเรื่องเพลงจากทุกคนด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าแค่คิดถึงเรื่องนี้ ความสุขก็เอ่อล้นออกมาจากตัวเขาทันที
"ผมว่าเป็นเรื่องยากที่งานเพลงชิ้นแรกจะสามารถกำหนดคาแรคเตอร์เส้นทางอาชีพนักร้องของผมได้ หรือแม้แต่จะฟันธงสไตล์ของงานแค่อัลบั้มเดียวก็ยังยาก เพราะสำหรับผมที่เพิ่งจะเริ่ม ผมไม่อยากเน้นแค่ทางใดทางหนึ่ง ผมอยากลองให้มากเท่าที่จะมากได้ ดังนั้น ณ ตอนนี้ ผมต้องกล้าออกไปแสวงหาและทดลองคิดทดลองทำแบบไม่มีข้อจำกัด"
แน่นอนว่าบ่อยครั้งที่เขาจะต้องเผชิญกับความกระอักกระอ่วนใจ แต่ท้ายที่สุด เขาจะสามารถโน้มน้าวตัวเองให้แสดงมันออกมาอย่างกล้าหาญ ให้เหมือนกับที่กล้าที่จะเลือกและกล้าที่จะสร้างสรรค์ตั้งแต่แรก
03 "เลิกมองย้อนหลัง มองไปข้างหน้ากันเถอะ"
นอกจากเรื่องเวทีแล้ว สายตาของหลัวอีโจวมีแต่มองไปข้างหน้าเท่านั้น ซีรี่ส์ "后浪แด่ฝันของคลื่นลูกใหม่" ใช้กีฬาเอ็กซ์ตรีมมาเสริมคาแรคเตอร์ของเหรินเทียนเจินให้ชัดขึ้น ในตอนนั้นละครก็มีถ่ายทำที่สนามแข่งโกคาร์ทเช่นกัน
เราอยากจะชวนหลัวอีโจวมองย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นอาชีพการแสดงภาพยนตร์และละครทีวีโดยไม่ต้องห่วงเรื่องสปอยล์ แต่เขาพูดว่า "ยืนอยู่ที่นี่วันนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นเทียนเจินอีกแล้ว แต่กำลังเริ่มต้นใหม่ ทว่าเทียนเจินจะอยู่ในใจผมตลอดไป และจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวผมไปตลอดกาล ณ ตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของนักร้องหลัวอีโจว ผมค่อนข้างจะมีความสุขดี เพราะฉะนั้นพวกเราก็อย่าหันกลับไปมองปัญหาเลยนะครับ มองไปข้างหน้ากันเถอะ"
ตัวหลัวอีโจวเองไม่ค่อยได้เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมเท่าไร ทว่า "พลังงานที่มากับใจเต้นรัวเอามาใช้เรื่องงานได้ดีเลยนะครับ" หลังเสร็จงานอันหนักหน่วง เขาชอบพักผ่อนแบบเงียบสงบ วิธีที่ดีที่สุดคือขึ้นเขาไปย่างเนื้อเสียบไม้และชมวิวไปด้วย การมองดูขุนเขาและสายน้ำอันกว้างใหญ่ทำให้เราสงบสุข เมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติท้องฟ้าและผืนดิน มนุษย์เราทั้งเล็กจิ๋วกว่าเม็ดทราย ทั้งยิ่งใหญ่กว่าจักรวาล ทำให้เราประจักษ์ต่อปัญหาตรงหน้าได้ชัดเจนขึ้น
หลัวอีโจวเองก็ได้รับพลังจากการอยู่กับธรรมชาติบ่อยครั้ง ทำให้เขาชอบที่จะแบ่งปันสิ่งดีๆแบบนี้ผ่านคลิปวิดีโอให้แฟนๆได้รับชม
ตั้งแต่มีทีมงานสอนวิธีโพสต์ลงเชาฮว่าโดยไม่ซิงค์กับเพจเวยปว๋อให้ หลัวอีโจวก็มองผู้ติดตามบนเวยปว๋อเหมือนกลุ่มเพื่อนสนิท และเริ่มแชร์ภาพและคลิปโฮมเมดเป็นประจำ โดยมีแท็ก #一舟与你乘舟漫游# (อีโจวล่องเรือตะลอนไปกับคุณ) เป็นเครื่องแสดงความชิลระหว่างเขากับแฟนคลับ
ตะลอนเป็นคำที่เหมาะกับหลัวอีโจวมาก ทว่า การตะลอนส่วนใหญ่จะหมายถึงการเดินทางไปเรื่อยๆไร้แบบแผน ในทางกลับกัน การตะลอนของอีโจวให้ความรู้สึกเป๊ะกว่า เพราะว่ามีทิศทางที่ชัดเจน หรือไม่ก็ตามน้ำอาศัยสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ จะเห็นได้จาก vlog ว่าเขาเป็นคนที่โฟกัสแต่ความสุข เขายุ่งอยู่กับงานตลอด แต่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตควบคู่ไปกับงานได้เสมอ ทั้ง 2 ด้านต่างก็เรียกร้องให้เขาใช้ขีวิต
อย่างจริงจังทุกนาทีทุกวินาที ดังนั้น อาวุธวิเศษที่จะทำให้เพลิดเพลินไปกับทุกขณะได้คือสมาธิ และเมื่อมีสมาธิแล้วอะไรๆก็สนุกได้เสมอ
หลังจากสังเกตการณ์มาตลอดทั้งวัน พวกเราได้ข้อสรุปว่า ณ ตอนนี้ หลัวอีโจวน่าจะมีคำตอบมากกว่าคำถาม เพราะการสร้างสรรค์คือการที่คนคนหนึ่งทำสิ่งหนึ่งอย่างตั้งใจ และพบเจอคำตอบในระหว่างที่ตั้งมั่นอยู่ในงานนั่นเอง
ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์กันเยอะๆนะคะ สัมภาษณ์เล่มนี้แปลยากมาก ใช้เวลา 2 วันเต็มๆกว่าจะเรียบเรียงภาษาให้ออกมาเป็นไทยแบบไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกครั้ง ขอบคุณทุกคนมากค่ะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
