Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Antfield
•
ติดตาม
29 ก.ค. 2023 เวลา 12:12 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ไอเดียการใช้เลนส์แบบบาง (Diffractive lens) ในการพัฒนากล้องโทรทรรศน์อวกาศรุ่นใหม่
หลังจากที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ เริ่มทำการสำรวจจักรวาลมาได้สักพักก็ได้เริ่มแสดงศักยภาพของอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ถือได้ว่ามีราคาแพงและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำที่สุดชิ้นหนึ่งของมนุษยชาติ ทำให้เราได้เห็นภาพที่น่าทึ่งรวมถึงข้อมูลใหม่ ๆ มากมายที่เราไม่เคยรู้
แต่กว่าจะมีวันนี้วันที่เจมส์ เวบบ์ ได้ออกทำหน้าที่ได้อย่างที่เหล่านักวิทยาศาสตร์หวังและตั้งใจไว้ ก็ต้องฟันฝ่าอะไรมามากมาย ด้วยงบประมาณที่่บานปลายกว่าที่เคยตั้งไว้และความล่าช้าของโครงการพัฒนาที่ใช้เวลาร่วม 2 ทศวรรษ
จึงนำมาสู่คำถามว่าถ้าเราจะพัฒนากล้องโทรทรรศน์อวกาศรุ่นใหม่ที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อรับไม้ต่อในการทำหน้าที่สำรวจจักรวาลต่อจากกล้องเจมส์ เวบบ์ จะทำได้หรือไม่ อย่างไร?
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการนำเสนอไอเดียในการพัฒนากล้องโทรทรรศน์อวกาศรุ่นใหม่โดยใช้เลนส์ชนิดบางในการทำหน้าที่รวมแสงแทนกระจกรวมแสง ซึ่งจะทำให้ตัวกล้องโทรทรรศน์มีน้ำหนักเบากว่าและต้นทุนการผลิตก็ต่ำกว่า
ไอเดียนี้ถูกนำเสนอโดย Daniel Apai นักดาราศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยแอริโซนาซึ่งเป็นหัวหน้าทีมศึกษาและพัฒนารูปแบบของกล้องโทรทรรศน์ที่จะมารับช่วงต่อกล้องเจมส์ เวบบ์ที่มีเรียกว่า "Nautilus Space Observatory"
โดยจุดเริ่มต้นนั้นมาจากปี 2016 เมื่อ Northrop Grumman บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีการบินและอวกาศของสหรัฐฯ ได้เชิญเหล่าผู้เชี่ยวชาญมาร่วมสัมมนากันในหัวข้อ "รูปแบบของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเพื่อการสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะในอีก 50 ปีข้างหน้า"
ซึ่งในที่ประชุมได้เห็นพ้องกันว่าความท้าทายหลักของโครงการสำรวจอวกาศด้วยการใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศนั่นคือการส่งอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นสู่อวกาศ เพราะกล้องแต่ละตัวมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก และที่สำคัญราคาก็สูงลิบ
และก็ได้นำมาสู่ไอเดียในการนำเลนส์ชนิดที่เรียกว่า Diffractive lens ซึ่งอาศัยหลักการเลี้ยวเบนของแสง(แบบเดียวกับการเกิดเงาสลัวที่ขอบของวัตถุเวลาโดนแสง) ซึ่งต่างจากเลนส์ทั่วไปที่ใช้การหักเหของแสงที่เคลื่อนที่ผ่านตัวกลางต่างชนิด
รูปเปรียบเทียบ Diffractive lens (ซ้าย) กับเลนส์ทั่วไป
ด้วยการออกแบบลักษณะผิวเลนส์ให้เป็นลวดลายที่ดูเหมือนรอยหยักฟันเลื่อยเมื่อมองจากด้านข้างก็จะทำให้สามารถรวมแสงได้โดยที่ไม่ต้องเพิ่มความหนาชิ้นเลนส์เมื่อขนาดเลนส์มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น นั่นจึงทำให้ Diffractive lens จะบางกว่าเลนส์แบบหักเหแสงมาก
ทั้งนี้ Diffractive lens หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fresnel lens นั้นไม่ใช่ของใหม่เพราะมันถูกคิดค้นขึ้นโดย Augustin-Jean Fresnel นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศษ ในปี 1819 เพื่อใช้กับโคมไฟส่องนำทางในประภาคาร
โฉมหน้าของนักวิทยาศาตร์ผู้คิดค้น Diffractive lens
โดย Diffractive lens นั้นสามารถทำขึ้นได้โดยใช้วัสดุโปร่งใสอื่นที่ไม่ใช่แก้ว อย่างเช่น อะคริลิค พลาสติกใสก็ได้ ทำให้ยิ่งมีน้ำหนักเบา
Diffractive lens ปัจจุบันก็มีใช้งานอยู่ในชุด VR Head set และชุดเลนส์ในกล้องของ Smart phone ทั้งนี้เพราะคุณสมบัติของตัวเลนส์ที่บางและเบามากนั่นเอง
ลักษณะของผิวเลนส์ที่ใช้ใน VR Headset จะเห็นถึงแนวลวดลายวงแหวนของแต่ละ Step ของผิวโค้งที่ทำให้เกิดการเลี้ยวเบนของแสง
ซึ่งข้อจำกัดของเลนส์ประเภทนี้ก็คือเรื่องความคมชัดของภาพที่ได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นเลนส์ Diffractive แบบชิ้นเดี่ยวนั้นภาพที่ได้จะค่อนข้างเบลอ ดังนั้นที่ผ่านมาเลนส์ประเภทนี้จึงไม่เคยถูกใช้งานในทางด้านดาราศาสตร์เลย
แต่ถ้าหากสามารถเอาชนะความท้าทายในการแก้ปัญหาเรื่องความคมชัดของภาพที่ได้จากเลนส์ประเภทนี้ได้ นั่นย่อมหมายถึงเราสามารถผลิตเลนส์ขนาดยักษ์ที่บางเฉียบและมีน้ำหนักเบาได้ เพราะความสามารถในการรวมแสงนั้นเกิดจากลวดลายบนผิวเลนส์ไม่ใช่ความหนาเลนส์
หลังจากการสัมมนา Daniel ก็ได้ร่วมงานกับ Thomas Milster ผู้เชี่ยวชาญในการทำ Diffractive lens ในการพัฒนา Diffractive lens ความคมชัดสูงจนพวกเขาสามารถทำเลนส์ต้นแบบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 5 เซนติเมตรที่ให้ภาพคมชัดในระดับที่สามารถใช้งานด้านดาราศาสตร์ได้
เลนส์ต้นแบบขนาดหน้ากว้าง 5 เซนติเมตร
และปัจจุบันทีมงานของ Daniel กับ Thomas สามารถทำชิ้นเลนส์ขนาดหน้ากว้าง 10 นิ้ว(24 เซนติเมตร)ได้สำเร็จ ซึ่งเมื่อเทียบกับเลนส์แบบหนักเหแสงหน้ากว้าง 10 นิ้วแล้วเลนส์ที่ทีมงานทำขึ้นนี้มีน้ำหนักเบากว่าร่วม 10 เท่าเลยดีเดียว
ซึ่ง Daniel ได้ประเมินว่าชิ้นเลนส์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.5 เมตร ที่จะใช้กับกล้อง Nautilus นั้นจะมีความหนาเพียง 5 เซนติเมตรทำให้ตัวกล้องโทรทรรศน์อวกาศนี้มีน้ำหนักเพียง 500 กิโลกรัม ซึ่งหนักไม่ถึง 1 ใน 3 ของกล้อง เจมส์ เวบบ์
หน้าตาของกล้องโทรทัศน์อวกาศ Nautilus ที่ทีมงานออกแบบ
โดยขณะนี้ทีมของ Daniel กำลังมุ่งทำชิ้นเลนส์ต้นแบบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ซึ่งถ้าสำเร็จด้วยดีก็จะเป็นการพิสูจน์ความเป็นไปได้ของแนวคิดการใช้ Diffractive lens ในการสำรวจอวกาศไปอีกขึ้น
ซึ่งข้อดีของการใช้เลนส์ที่ทีมพัฒนาขึ้นมานี้คือ ผลิตง่าย รวดเร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ากระจกรวมแสงแบบที่ใช้ในกล้องเจมส์ เวบบ์ รวมถึงเลนส์ชนิดนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดในการใช้งานเท่ากระจกรวมแสงที่ต้องอาศัยการเรียงตัวของกระจกอยู่ในแนวที่ต้องการอย่างแม่นยำจึงจะสามารถทำงานได้
ส่วนประกอบของกล้องโทรทัศน์อวกาศ Nautilus ซึ่งค่อนข้างเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
ด้วยค่าใช้จ่ายกับระยะเวลาที่ใช้ในการผลิต และด้วยน้ำหนักที่เบากว่ากล้องเจมส์ เวบบ์ มาก กล้องโทรทัศน์อวกาศ Nautilus จึงถูกออกแบบให้สามารถผลิตและปล่อยขึ้นสู่อวกาศเป็นจำนวนมากเพื่อใช้งานแบบกลุ่มร่วมกันหลายตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการมองได้อีกด้วย
โดยการใช้งานในรูปแบบกล้องหลายตัวร่วมกันนี้เรียกว่า NAUTILUS ARRAY ซึ่งจะประกอบด้วยกล้อง Nautilus จำนวน 35 ตัวทำงานร่วมกัน
กล้อง Nautilus ถูกออกแบบให้สามารถบรรทุกขึ้นไปกับจรวด BFR ของ SpaceX ได้ทีละ 15 ตัว
ด้วยน้ำหนักของตัวกล้องและการออกแบบที่สามารถพับเก็บในห้องบรรทุกสินค้าได้ทำให้สามารถนำกล้อง Nautilus ขึ้นสู่อวกาศได้ทีละหลายตัว โดยทีมงานประเมินว่าสามารถนำกล้อง Nautilus ขึ้นไปกับยาน BFR ของ SpaceX ได้ถึงเที่ยวละ 15 ตัวเลยทีเดียว
ภาพจำลองขณะทำการปล่อยตัวออกประจำตำแหน่ง
โดยกล้องใน NAUTILUS ARRAY สามารถแยกกันทำงานเพื่อสังเกตวัตถุและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนฟากฟ้าหลาย ๆ ที่ไปพร้อมกัน หรือจะรวมกันมองไปยังเป้าหมายเดียวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสำรวจเป้าหมาย
ก็นับว่าเป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจมากในการพัฒนากล้องโทรทรรศน์อวกาศรุ่นถัดไปที่อาจจะมารับช่วงต่อจากกล้องเจมส์ เวบบ์ และกล้องฮับเบิล ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า NASA จะซื้อไอเดียนี้หรือไม่
youtube.com
Nautilus: A Very Large Aperture, Ultralight Space Observatory for Biosignature Surveys of Exoplanets
Presentation at the AIAA ASCEND 2020 conference on the Nautilus Space Observatory and the hybrid lens technology that enables it. A talk by Daniel Apai from ...
เรียนรู้เพิ่มเติม
อ้างอิง:
https://theconversation.com/a-new-thin-lensed-telescope-design-could-far-surpass-james-webb-goodbye-mirrors-hello-diffractive-lenses-206055
https://iopscience.iop.org/article/10.3847/1538-3881/ab2631
https://nautilus-array.space/nautilus-array
ข่าวรอบโลก
อวกาศ
เทคโนโลยี
3 บันทึก
9
2
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Beyond Earth & Space Technology
3
9
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย