29 ก.ค. 2023 เวลา 13:54 • ประวัติศาสตร์
โรม

ประวัติศาสตร์พูดได้

ตอน มิชชั่นนารีกลุ่มแรกของโลก จากเยรูซาเลมสู่โรม
ช่วงเวลา 40 – 70 AD สถานที่ เยรูซาเลม ดามัสกัส โรม
“เลิกซะ จะเลิกไม๊ ไอ้พวก NAZARENE แกจงรู้ไว้ เยซูไม่ใช่พระมาสิยาห์ ! ถ้าแกหยุดโพนทะนาเรื่องบ้าๆนี้หล่ะก็ ข้าจะละเว้นความตายให้แก !” เซาโลคำราม
ในมือเขากำจดหมายอนุญาติจากมหาปุโรหิตในการเข้าจับกุมพวกนอกรีต ที่มีอยู่ดาดดื่นในเมืองดามัสกัส
พวก NAZARENE รู้ดีว่าชายคนนี้มีอำนาจมากพอที่จะทำอันตรายพวกเขา เซาโลไม่ใช่ยิวธรรมดา เขาเป็นยิวที่ถือสัญชาติโรม ในยุคที่จักรวรรดิโรมันครองโลก ผู้ที่ถือสัญชาติโรมก็ยืนอยู่เหนือคลื่นคนที่ส่วนใหญ่ไร้การศึกษา ยิ่งกว่านั้นยังมีดีกรีที่เขาเป็นศิษย์ของ รับไบ กามาลิเอล Rabbi Gamaliel ปรมาจารย์ผู้เลื่องชื่อที่สุดด้านการตีความคัมภีร์ฮีบรูซึ่งถูกส่งผ่านมาหลายชั่วอายุคนตั้งแต่ยุคโมเสส
“เจ้าจงเตรียมรถม้า พร้อมสิ่งจำเป็นให้พร้อม ข้ามีภารกิจสำคัญรออยู่ที่ดามัสกัส ไอ้พวกนอกรีตมันต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก ! “ เสียงดังของเซาโลแฝงความมุ่งมั่นแรงกล้า
เมื่อเซาโลเดินทางมาเกือบถึงดามัสกัส พลันมีแสงสว่างส่องแวบวาบรอบตัว และพลังที่อธิบายไม่ได้กดจนเขาล้มลง
“เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม ? “ เสียงนั้นเต็มด้วยสิทธิอำนาจแต่ทว่าอ่อนโยน
“พระองค์เจ้าข้า พระองค์เป็นผู้ใด ?” เซาโลมองเลิ่กลักด้วยความกลัว
“เราคือเยซูผู้ที่เจ้ากำลังข่มเหง บัดนี้จงลุกขึ้น เข้าไปในเมือง และจะมีผู้บอกให้เจ้ารู้ว่าเจ้าต้องทำประการใด” *(1)
ความแข็งกร้าวดุดันของเซาโลมลายหายไปในทันที ตาของเขาบอดสนิทเสียแล้ว เขาไม่รู้ เขาไม่เข้าใจ เขาสับสนและตระหนกกลัวอย่างที่สุด เสียงที่พูดกับเขานั้นชัดเจน เยซู เยซูหรือ อะไรนะ เยซูเจ้าลัทธิที่เขามุ่งทำลายอยู่หรือ เขาไม่ได้ฝันไป พวกคนใช้และทหารที่ร่วมทางมาต่างก็ได้ยินอย่างได้เขาได้ยิน
เซาโลถูกพามาที่บ้านของสาวกพระเยซู คนหนึ่ง ชื่อ อานาเนีย พออานาเนียเห็นเซาโล ก็ผลุดหนีออกไปแทบไม่ทัน แต่เมื่อเห็นว่าเซาโลตาบอด และมีท่าทางไร้พิษสง อานาเนียจึงยอมอยู่ด้วย ตลอด 3 วันที่บ้านอานาเนีย แม้ตามืดมิดแต่ใจเขาเริ่มเห็นความสว่าง พระเยซูที่ถูกตรึงและฝังไปแล้ว กลับมาปรากฎตัวแก่เขา
ตกลงพวก NAZARENE ไม่ได้โง่หลงผิด เขาต่างหากที่เป็นคนโง่บ้าเลือด เซาโลทบทวนสิ่งเลวร้ายที่เขาได้กระทำต่อพวก NAZARENE เมื่อเขาข่มเหงผู้เชื่อ เขาก็ได้ข่มเหงพระเยซูด้วย เขาได้ทำบาปมหันต์ เขาจะมีวันได้รับการอภัยหรือ ?
น้ำตาแห่งการสำนึกผิดรื้นขึ้นมา แต่ละนาทีที่ผ่านไปเหมือนตัวตนเขากำลังตายลงทีละน้อย
“ท่านเซาโล พระผู้เป็นเจ้าบัญชาให้ข้าอธิษฐานเผื่อท่าน” ทันใดนั้นมีบางอย่างเหมือนเกล็ดหล่นจากตาของเซาโล แล้วเขาก็มองเห็นได้อีก
“โอ ข้าขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณท่านด้วย ข้าชั่วช้าสิ้นดีเกินกว่าพระผู้เป็นเจ้าจะอภัย ท่านอานาเนียจงเป็นพยาน ต่อแต่นี้ชีวิตของข้าเป็นขององค์พระเยซู ข้ารู้ความจริงแล้ว ข้าสัมผัสพระองค์แล้ว !” เซาโลยังไม่หยุดสะอื้นไห้ ไม่นึกเลยฟาริสี *(2) อย่างเขาทั้งทรงปัญญากล้าแกร่งแสนทรนงกำลังพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
“แกได้ยินหรือปล่าว เซาโลมันกลายเป็นพวก NAZARENE ไปแล้ว ตอนนี้มันประกาศเรื่องเยซูตามบ้านและในธรรมศาลาทุกวันเลย พวกเราต้องจัดการมัน ! ” พวกขวาจัดในดามัสกัสพากันเซ็งแซ่อย่างโกรธแค้น อนิจจา เซาโล กลายสภาพจากผู้ล่าไปเป็นผู้ถูกล่าเสียแล้ว
เปาโลเป็นพยานเรื่องพระเยซู https://www.freebibleimages.org/search/?character=Paul
“ท่านเซาโล ท่านเซาโล ท่านต้องหนีไปเดี๋ยวนี้ ! ข่าวรั่วมาว่าคืนนี้แหล่ะ พวกมันจะมาจับตัวท่าน” สาวก NAZARENE ช่วยกันซ่อนเซาโลไว้ในตระกร้ายักษ์ หย่อนเขาลงช่องลอดนอกกำแพงเมือง “ท่านต้องมุ่งหน้าไปทางทิศใต้อย่าได้หยุดเด็ดขาด พี่น้องของเราจะพาท่านไปเยรูซาเลม ขอพระเจ้าคุ้มครองท่านให้รอดปลอดภัย! “
วันคืนผ่านไปหลายปีทีเดียวกว่าที่กลุ่มสาวกแรก 12 คน จะยอมรับเปาโลอย่างสนิทใจ (เซาโล SAUL เป็นชื่อในภาษาฮีบรู เซาโลเป็นที่รู้จักในชื่อ เปาโล PAUL ด้วย เปาโลเป็นชื่อในภาษาละติน แปลว่า เล็ก) กลุ่มสาวกแรกนำโดยเปโตรได้ประกาศข่าวประเสริฐไปทั้งในและนอกปาเลสไตน์
ตั้งแต่ปี 40 AD เป็นต้นมามีการแพร่กระจายของพระกิตติคุณโดยกลุ่มนี้ ไปยัง เอเชียและแอฟริกา อาทิ โธมัส THOMAS ซึ่งในประเพณีนิยมรวมถึง THE ACTS OF THOMAS *(3) บันทึกว่าท่านนำข่าวประเสริฐไปยังอินเดีย ข่าวประเสริฐเดินทางไปถึงแอฟริกาผ่านขันทีชาวอิธิโอเปีย ซึ่งกลับใจหลังจากที่ฟิลิปเป็นพยาน *(4) และตามบันทึกของ EUSEBIUS’S ECCLESIASTICAL HISTORY*(5) มาระโก ผู้เขียนหนังสือมาระโกซึ่งเป็นพระกิตติคุณเล่มที่สอง เป็นคนแรกที่ก่อตั้งคริสตจักรใน เมืองอเล็กซานเดรีย (เมืองอันดับสองของอียิปต์ในปัจจุบัน )
สาวกผู้มาทีหลังอย่างเปาโลมีความพร้อมหลายอย่างในตัวเขา เขาคือบุรุษของสามโลก กล่าวคือ ยิว กรีก และ โรมัน เขาพูดได้สี่ภาษา ฮีบรู แอราเมอิก กรีก และ ละติน เขาเริ่มเดินทางประกาศโดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่เมือง แอนทิโอก (อยู่ในประเทศซีเรียในปัจจุบัน) ที่แอนทิโอกนี้เองที่ NAZARENE ถูกเรียกชื่อใหม่ว่าพวก ‘คริสเตียน’
ในรอบแรกของการเดินทาง เปาโลอ้อมไปที่เกาะไซปรัสและขึ้นเหนือไปทางกาลาเทีย ซึ่งอยู่ในเอเชียไมเนอร์ (ตุรกีกลาง) ในรอบที่สองและสาม เขาขึ้นเหนืออีก แต่คราวนี้ครอบคลุมหลายเมืองใหญ่ในเอเชียไมเนอร์ อาทิ เมืองเอเฟซัส ข้ามทะเลอีเจียนไปยัง มาซิโดเนีย (กรีซ) ใช้เวลาช่วงหนึ่งประกาศและถกเถียงเรื่องความเชื่อใน เอเธนส์ เมืองแห่งจุดกำเนิดของอารยธรรมตะวันตก
2
“ข้าต้องการจะฎีกาถึงจักรพรรดิแห่งโรม ข้าฯ เปาโลแห่งทาร์ซัส ถือสัญชาติโรมันมาแต่กำเนิด พวกท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินว่าข้าผิด !” เปาโลประกาศกร้าวว่ากฎหมายยิวไม่มีสิทธิ์จะเอาผิดกับคนโรมันอย่างเขา การเผยแพร่ข่าวประเสริฐของเปาโลได้ท้าทายความเชื่อประเพณีของคนยิวในศาสนายูดายอย่างยิ่งยวด นำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคมอย่างรุนแรง หลายครั้งที่เขาถูกกลั่นแกล้ง จับกุม โบยตี ถูกขังคุกและถูกทรมาน
เปาโลถูกขังคุก https://www.freebibleimages.org/search/?character=Paul
ในช่วงปี 60-70 AD อาณาจักรโรมันเหมือนถูกเขย่า เมื่อการบูรณะพระวิหารหลังที่สองเสร็จสิ้นในปี 64 AD เศรษฐกิจปาเลสไตน์เริ่มฝืดเคืองเนื่องจากการจ้างงานที่ลดลงฮวบฮาบ ผู้นำคริสตจักรในเยรูซาเลม อัครทูตยากอบถูกฆ่าตายโดยคำสั่งของมหาปุโรหิต พวกผู้เชื่อในเยรูซาเลมจึงกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง ในปี 64 AD เกิดไฟไหม้ใหญ่ยาวนานถึง 5 วัน 5 คืนในโรม จักรพรรดิเนโรได้โยนความผิดให้พวกคริสเตียนและข่มเหงอย่างป่าเถื่อน *(6)
และในปี 66 AD ชาวยิวก่อกบฎ (THE GREAT REVOLT) เพื่อต่อต้านคำสั่งจากจักรวรรดิให้กราบไหว้บูชาจักรพรรดิแห่งโรม จวบจนปี 70 AD กองทัพโรมันก็ได้เข้าปราบกบฎ ทำลายเผาเยรูซาเลมจนสิ้นซาก รวมถึงพระวิหารที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวยิวด้วย
ท่ามกลางความปั่นป่วนแห่งทศวรรษนี้ เปาโลถูกคุมตัวลงเรือไปที่โรม ที่นั่นเขาถูกคุมขังที่บ้านพักเพื่อรอเวลาฎีกา ในช่วงเวลาที่รอคอยอยู่นั้น เปาโลได้เป็นพยานตลอดเวลารวมถึงเขียนจดหมายฝากถึงคริสตจักรต่างๆที่ชูสะพรั่งไปทั่วเอชีย แอฟริกาและยุโรป
เปาโลถูกคุมตัวลงเรือ https://www.freebibleimages.org/search/?character=Paul
เปาโลถูกคุมขังที่บ้านขณะรอเวลาฎีกา
นักประวัติศาสตร์ EUSEBIUS ได้บันทึกว่าหลังการสอบสวนคดี จักรพรรดิเนโรสั่งประหารชีวิตเปาโลด้วยการตัดศีรษะในปี 65 AD แม้พันธกิจของเปาโลได้จบสิ้นลงที่โรม แต่ผลกระทบของพันธกิจนั้นกว้างใหญ่และยาวนานมาจนถึงยุคนี้ อัครทูตเปาโลคือผู้ที่นำพระกิตติคุณไปสู่ชนต่างชาติโดยสมบูรณ์ ท่านรวมถึงสาวกอื่นๆที่กล่าวข้างต้น คือมิชชั่นนารีกลุ่มแรกของโลกอย่างแท้จริง
DISCLAIMER : ความเรียงเชิงประวัติศาสตร์อ้างอิงเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล คำพูด บทสนทนา และรูปประกอบ เป็นจินตนาการของผู้เขียนเพื่อให้นึกภาพของเหตุการณ์ หากมีคำอ้างอิง quotations ที่มาจากพระคัมภีร์โดยตรงจะมีเชิงอรรถกำกับไว้ ในส่วนชื่อของบุคคล/สถานที่ นั้นมาจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และ/หรือ บันทึกประวัติศาสตร์นอกพระคัมภีร์
เชิงอรรถ
*(1) กิจการของอัครทูต 9. 5-6
*(2) ฟาริสี Pharisee – กลุ่มคนที่เคร่งครัดในการถือปฎิบัติศาสนา เชี่ยวชาญในด้านกฎระเบียบประเพณีที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ บางครั้งเป็นผู้นำในธรรมศาลาด้วย
*(3) The Acts of Thomas เป็นหนังสือเขียนขึ้นด้วยภาษาซีเรีย อายุของหลักฐานอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 3 – 4 หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ถูกรวมไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ภาคพันธสัญญาใหม่
*(4) กิจการของอัครทูต 8.26-40
*(5) EUSEBIUS PAMPHILUS เป็นนักประวัติศาสตร์ชาวกรีก
*(6) ตามบันทึกของนักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน Tacitus
โฆษณา