เรื่องเล่าข้างแบงค์ EP. 89
“บัญชีรายรับรายจ่าย สำคัญมากกว่าแค่การจดรายรับรายจ่าย”
คุณคิดว่า “การจดบัญชีรายรับรายจ่าย แค่การจดบันทึกการรับการจ่าย แค่นั้นไหม?”
ได้มีโอกาสรับปรึกษาปัญหาการเงินให้พี่ท่านหนึ่ง ปัญหาของเธอคือรายรับไม่เพียงพอต่อรายจ่าย เธอรู้ดีพยามแก้ปัญหานี้อยู่ ได้แนะนำให้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายดู เพื่อจะได้ดูว่า มีรายจ่ายส่วนไหนต้องลด หรือ ต้องเพิ่มรายรับส่วนไหน
ผลปรากฏว่าเธอไม่ยอมส่งรายรับรายจ่าย ฉันเองก็คงไปบังคับอะไรไม่ได้ แต่มีจุดหนึ่งที่สำคัญจับใจความจากคำพูดของเธอคือ “พี่ไม่รู้จะลดรายจ่ายข้อไหนแล้ว ทุกวันนี้แทบจะกินข้าวต้มกับเกลือแล้ว ไม่รู้จะเอารายจ่ายที่ไหนมาจด”
พึ่งเข้าใจแบบงง ๆ ตอนนี้เอง! และ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่อาจจะคิดแบบพี่คนนี้ เลยขออนุญาตแบ่งปันแนวคิด “เรื่องบัญชีรายรับรายจ่าย”
บัญชีรายรับรายจ่าย คือ การจดบันทึก เงินเข้า เงินออก ของเรา
รายรับ คือ เงินเข้ากระเป๋าของเรา อาจประกอบไปด้วยเงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น ค่าจ้างงาน ค่าลิขสิทธิ์ กำไรจากการขายของ เป็นต้น
ส่วนรายจ่าย คือ เงินที่ออกจากกระเป๋าของเรา มี 2 ส่วนใหญ่ ๆ ที่ควรรู้ คือ รายจ่ายส่วนตัว และ ผ่อนชำระหนี้
รายจ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่ารถ ค่าเดินทาง ค่าพาหนะ ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ซื้อของ ชอปปิ้ง ค่าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ค่ายารักษาโรค ค่าพยาบาล ค่าใช้จ่ายของลูก เป็นต้น
ผ่อนชำระหนี้ คือ การที่เราไปหยิบยืมเงินก้อนมาเพื่อการอะไรบางอย่าง เช่น นำไปซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด เป็นต้น แล้วมีภาระต้องผ่อนชำระคืน อาจจะผ่อนชำระคืนเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส หรือ รายปี ก็แล้วแต่ตกลงกัน ระหว่างเจ้าหนี้กับเรา หนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแสนแพง บางแห่งสูงถึงเดือนละ 5% ก็มี รวมอยู่ในรายจ่ายนี้ด้วย
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า บัญชีรายรับรายจ่ายนี้ ไม่เพียงเป็นการบันทึกเงินเข้าเงินออกของกระเป๋าของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการเห็นภาพรวมว่า จริง ๆ แล้ว ในแต่ละเดือน เราเองจ่ายค่าอะไรไปมากน้อยเท่าใด รายจ่ายไหนมากเกินความจำเป็นหรือไม่ รวมทั้งได้เห็นภาระผ่อนชำระหนี้ ว่าเป็นสัดส่วนเท่าใด กับ รายรับของเรา จะได้บริหารจัดการหนี้ไปด้วย
อย่างที่เคยบอกไป การเป็นหนี้เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เป็นความท้าทายสำหรับใครบางคนในการบริหารจัดการหนี้ จะประคองเงินให้ถึงสิ้นเดือนได้อย่างไร โดยไม่สร้างหนี้เพิ่ม และถ้าเป็นไปได้ หาทางลดหนี้ได้ด้วยจะเป็นการดีมาก
ผู้เชี่ยวชาญการเงิน ใช้บัญชีรายรับรายจ่าย ในการช่วยบริหารจัดการภาพรวมการเงินของผู้เข้ารับการปรึกษา เพราะสิ่งนี้เปรียบเสมือน ลายแทงขุมทรัพย์ หรือ พิมพ์เขียวทางการเงิน ที่บอกได้ว่า
- คนนี้มีนิสัยการใช้เงินอย่างไร?
- หนี้ที่มีอยู่ มีอะไรหนักหนาต้องแก้ไขไหม?
- รายรับที่มี เป็นรายได้ทางเดียว แล้วมั่นคงหรือไม่?
- รายจ่ายที่มีจำเป็นมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับรายรับ?
- คนนี้มีเงินออมที่เหมาะสมกับตนเองหรือไม่?
- สามารถนำมาทำเป็นกราฟ และดูสถิติ รายรับรายจ่ายหนี้ของคนนี้ ได้เป็นอย่างดี
นี่เป็นเพียงบางส่วนของข้อดีของการเห็นบัญชีรายรับรายจ่าย จึงอยากฝากให้ทุกท่านได้หันมาทำบัญชีรายรับรายจ่าย และฝึกดูสถานะการเงินของตนผ่าน “พิมพ์เขียวทางการเงิน” หรือ “สมการเงินออม” หรือ “บัญชีรายรับรายจ่าย” ของเรานั่นเอง
#เพจโค้ชสุนีย์ที่ปรึกษาการเงิน
#พู่สร้าง@การเงิน
#พู่คือพู่กัน
#สร้างคือสร้างแรงบันดาลใจ
#พู่สร้าง@การเงิน คือแนวคิดว่า หากสุขภาพการเงินดี สุขภาพจิตใจและสุขภาพกาย จะดีตามมา
#ถ้าเรื่องเหล่านี้ได้จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้ใครสักคน
ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตตนให้ดีขึ้น
เมื่อนั้นก็ถือว่าพู่สร้างประสบความสำเร็จแล้ว
#ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
