30 ก.ค. 2023 เวลา 00:11 • ท่องเที่ยว

Pura Tanah Lot .. งดงาม ยามอาทิตย์อัสดง

บาหลีได้ชื่อว่าเป็นเกาะแห่งวัดสวยงามนับพันแห่ง .. วันนี้เราจะพาไปชมวัดแห่งหนึ่งนอกเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย อันเป็นที่ตั้งของวัดแสวงบุญฮินดูโบราณ Pura Tanah Lot ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมสำหรับการถ่ายภาพ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของบาหลี
จากลานจอดรถ ... เราต้องเดินผ่านร้านขายของที่ระลึก ซึ่งส่วนมากเป็นสินค้าหัตถกรรม เช่น หมวก เสื้อผ้า ภาพเขียน ว่าวสีสันสดใส และอีกหลากหลายสินค้าที่มุ่งหวังในการขายให้กับนักท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงร้านขายอาหาร
Photo : Indonesia-travel
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในทำเลที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ยืนสันโดษอยู่บนผาหินใหญ่คล้ายเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งในเวิ้งอ่าว ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะชายฝั่งของเกลียวคลื่น เวลาน้ำขึ้น น้ำทะเลจะท่วมรอบเกาะมองดูเหมือนวัดลอยน้ำอยู่ ถือเป็นวัดริมทะเล 1 ใน 5 แห่งของเกาะบาหลีที่มีภูมิทัศน์สวยงามที่สุดจึงมีนักท่องเที่ยวแห่กันมาชมจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน
Tanah Lot หมายถึง " ดินแดนในทะเล" ตั้งอยู่บนหินสูง หันหน้าออกสู่ทะเลกว้าง ท้องฟ้าสีคราม บรรจบกับน้ำสีมรกต เป็นฉากหน้าของวัดที่สวยงาม โดยมีเกลียวคลื่นซัดสาดอย่างต่อเนื่องด้านล่าง
วัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ในทาบานัน (Tabanan) ห่างจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของเดนปาซาร์ราว 30 กิโลเมตร .. วัดนี้ตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่นอกชายฝั่งประมาณ 300 เมตร ซึ่งถูกกระแสน้ำในมหาสมุทรหนุนก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ฉันไม่ได้เข้าไปใกล้กับเขตของวัดด้านล่าง แต่เลือกที่จะเก็บภาพของ Tanah Lot จากด้านบนแทน โดยสามารถทำได้จากบริเวณจุดชมวิวที่มีบริเวณกว้างขวางพอสมควร รวมถึงมีทางเดินที่ยื่นออกไป ซึ่ง ณ จุดสิ้นสุดทางเดินเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า หรืออาจจะเป็นวัดขนาดเล็กๆ .. เราอ้อมไปด้านหลังและถ่ายภาพจากจุดนี้ได้อย่างสวยงามเช่นกัน
บรรยากาศของวัดโบลอง ใกล้ๆกับวัดทานาล๊อต ในช่วงเวลาก่อนอาทิตย์อัสดง .. บาตู โบลอง แปลว่า “โพรงหิน” อธิบายได้จากลักษณะที่เด่นชัด ว่ากันว่าเป็นฝาแฝดของทานาต์ลอต โดยทั้งสองมีลักษณะคล้ายคลึงกันหลายประการ
วัดโบลองตั้งอยู่บนหน้าผาที่เบื้องล่างเป็นโพรงหิน .. ซุ้มสะพานโค้งรูปเกือกม้าที่น่าอัศจรรย์ซึ่งก่อตัวขึ้นในโขดหิน และส่วนโค้งที่เหนือน้ำทะเลสีฟ้าใส สร้างมุมมองแบบพสโนรามิควิวที่สวยงามมาก .. สมบูรณ์แบบสำหรับช่างภาพ
จากด้านบนเวิ้งน้ำมีลักษณะเกือบกลมและปิดลง .. อย่างไรก็ตาม ในระดับสายตา มีส่วนโค้งที่ค่อนข้างสูง น้ำทะเลไหลผ่านด้านล่างของซุ้มโค้งนี้ได้ ชายหาดด้านล่างสามารถลงไปชมใกล้ๆได้ แต่อาจจะต้องระมัดระวังอย่างมาก และคลื่นที่ค่อนข้างแรง
วัดทานาต์ลอตถูกสร้างขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของตำนานบาหลีมานานหลายศตวรรษ .. ประวัติของวัดทานาต์ลอตเชื่อกันว่ามีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 16 โดย ดัง เฮียง นิราร์ธา (Dang Hyang Nirartha) บุคคลสำคัญทางศาสนาในบาหลี
ดัง เฮียง นิราร์ธา ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้สร้างระบบสามวัดในหมู่บ้านชาวบาหลี .. การวางผังบริเวณวัดที่สร้างบริเวณทิศเหนือของหมู่บ้านจะเป็นของพระพรหม ตรงกลางสำหรับพระวิษณุ และทิศใต้สำหรับพระอิศวร
.. ขณะที่เขาเดินทางไปตามชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะบาหลี เขาเห็นเกาะหินเล็กๆ และตัดสินใจค้างคืน หินก้อนนี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “กิลีเบโอ” ซึ่งแปลว่า “หินรูปนก” ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเบราบัน .. เขาหยั่งรู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับสร้างศาสนสถานสำหรับบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของชาวบาหลี .. แต่ผู้นำของ Beraban โกรธและสั่งให้ผู้คนขับไล่ Nirartha จาก Gili Beo
ในตำนานของบาหลี Dang Hyang Nirartha เป็นที่รู้จักในฐานะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ .. เขาจึงย้ายเกาะหินทั้งหมดลงทะเล สร้างวิหาร และตั้งชื่อว่าทานาห์ลอต
ผู้คนทั้งหมู่บ้านเบราบานประหลาดใจ และเข้าร่วมติดตามเขา .. ในภายหลัง วัด Tanah Lot สร้างขึ้นเพื่อบูชา “Dewa Baruna” หรือ “Bhatara Segara” หรือ “เทพเจ้าแห่งท้องทะเล” หรือพลังแห่งท้องทะเล ... เพื่อปกป้องวัด เขาสร้างงูทะเลมีพิษจากผ้ารัดเอวของเขาด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ที่เขามี เชื่อกันว่างูทะเลอาศัยอยู่ที่ฐานของเกาะหินแห่งนี้ เพื่อปกป้องวัดจากผู้บุกรุกที่ชั่วร้าย
Photo : Indonesia-travel
วัดทานาต์ลอตเป็น 1 ใน 7 วัดกลางทะเลรอบชายฝั่งบาหลี .. วัดทะเลแต่ละแห่งถูกสร้างขึ้นในระยะสายตาของวัดถัดไป เพื่อสร้างห่วงโซ่ตามแนวชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากตำนานของชาวบาหลีแล้ว วัดแห่งนี้ยังได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศาสนาฮินดู
ภายในบริเวณวัด ทุกคนสามารถเดินไปรอบ ๆ และสำรวจสภาพแวดล้อมที่ถ่ายรูปได้ .. แต่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในวัด นอกจากผู้คนท้องถิ่นที่เข้าไปสวดมนต์ …
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเดินข้ามเนินไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อชมความงามของเกลียวคลื่นที่ซัดสาดมายังสันโขดหินผาขนาดใหญ่ด้านตรงข้าม และหากคลื่นลมดีๆ ก็อาจจะมีผู้คนที่รักเกลียวคลื่นมาเล่นกระดานโต้คลื่นให้ได้รับความเพลิดเพลิน ก่อนที่จะได้ชมอาทิตย์อัสดงที่งดงามประทับใจเป็นของขวัญของการรอคอย
รอบทานาต์ลอตยังมีวัดหลายแห่งที่มีตำนานและเรื่องเล่าขานที่หลากหลายเกี่ยวกับประวัติการก่อกำเนิด และนักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ ได้แก่ ปูราเปเกนดูงัน ปูราบาตูโบลอง ปูราเจโรกันดัง ปูราเอนจุงกาลูห์ และปูราบาตูเมจัน
Pura Batu Bolong เป็นวัดทางทะเลที่ไม่ธรรมดาอีกแห่งที่สร้างขึ้นบนหน้าผาหินที่ยื่นออกมา .. บาตู โบลอง แปลว่า “โพรงหิน” อธิบายได้จากลักษณะที่เด่นชัด ว่ากันว่าเป็นฝาแฝดของทานาต์ลอต โดยทั้งสองมีลักษณะคล้ายคลึงกันหลายประการ
วัดทะเล Batu Bolong ตั้งอยู่ใน Canggu เป็นแหล่งกำเนิดของน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ พิธีกรรมและพิธีสำคัญของชาวบาหลีจำนวนมากจัดขึ้นในสถานที่ที่สวยงามแห่งนี้
Pura Jero Kandang ใน Tabanan เป็นวัดที่อุทิศให้กับการแสวงหาสุขภาพและการปกป้องปศุสัตว์และพืชผลทางการเกษตร
Pura Enjung Galuh เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในด้านสถานที่บูชาเทพธิดาศรี ที่นี่ผู้นับถือศรัทธาจะอธิษฐานขอความผาสุกและความเจริญรุ่งเรือง
Pura Batu Mejan เป็นที่ตั้งของ Tirta Penglukatan ซึ่งเป็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าจะต้องชำระล้างความสุขจากสิ่งไม่ดีทั้งหมด
เรื่องเล่ากล่าวว่า .. Nirartha ออกจากหมู่บ้าน Beraban เขาได้มอบกริชโบราณ Ki Batu Gajah keris ให้กับผู้นำ Beraban ซึ่งเชื่อว่ากริชนี้มีความสามารถในการขับไล่โรคพืชจากพืชผล และกริชอันนี้ถูกเก็บไว้ใน Pura Pekendungan ก่อนที่ปัจจุบันจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยใน Puri Kediri แต่ในวัน Odalan Ki Batu Gajah keris กริชจะถูกนำมาร่วมในพิธีเสมอ
ในปีพ.ศ. 2523 หน้าหินของ วัดทานาล๊อต เริ่มพังทลายลง และพื้นที่รอบๆ และภายในวัดเริ่มมีอันตราย จากนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินกู้แก่รัฐบาลอินโดนีเซียจำนวน 800 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่ออนุรักษ์วัดประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญอื่น ๆ รอบเกาะบาหลี
.. ด้วยเหตุนี้ "หิน" มากกว่า 1 ใน 3 ของทานาห์ลอตจึงเป็นหินเทียม ที่ทำขึ้นอย่างชาญฉลาด ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างโครงการปรับปรุงและเสถียรภาพที่ได้รับทุนสนับสนุนและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของญี่ปุ่น..
ฉันจำได้ว่าเมื่อนานมาแล้ว เคยมาเยือนวัดแห่งนี้ และได้เห็นว่าทางการได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ขนแท่งคอนกรีตรูปกากบาทมาทิ้งลงในทะเลบริเวณรอบๆวัด เพื่อเสริมฐานรากที่ผุกร่อนของวัด แต่มันทำให้ดูแปลกแยกจากวัดมากมาย … หากแต่วันนี้ฉันมองไม่เห็นแท่งคอนกรีตน่าเกลียดเหล่านั้นแล้ว อาจจะเป็นเพราะคลื่นลมได้ทำให้ก้อนคอนกรีตมีสีที่กลมกลืนไปกับทุกสิ่งในบริเวณนี้แล้วก็ได้
.. บรรยากาศที่สวยงามในยามที่ดวงสุริยากำลังจะจูบลาผืนน้ำ และจมหายไปในเส้นที่ขอบฟ้าและชายน้ำมาบรรจบกัน
หลายครั้งที่ฉันถามตัวเองว่า …ทำไมถึงต้องรอบางสิ่งจนค่ำมืด… ฉันว่า การเดินทางของเส้นแสงนั้นมีเสน่ห์ ทำให้ฉันยินดีที่จะนั่งรอชมความมหัศจรรย์ ความงดงามยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ตะวันตกดินที่นี่เป็นภาพงดงามเหนือคำบรรยาย และอาจมีความหมายมากขึ้นหากคุณได้อยู่ข้างๆคนรู้ใจ ..
อากาศที่ไร้มลพิษทำให้เห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน แดดยามเย็นโลมไล้ผิวน้ำระยิบระยับ พระอาทิตย์ดวงสีแดงค่อยๆจมหายไปในท้องน้ำ ลำแสงสุดท้ายของวันเปลี่ยนให้ฟ้าเป็นสีชมพูแดงที่ไล่เฉดสีลดหลั่นทีละน้อย เสกให้เวิ้งทะเลเป็นสีชมพูทั้งเวิ้ง เหมือนภาพฝัน
.. ฉันกดชัตเตอร์ของกล้องรัวๆ ไม่นำพาว่าบันทึกภาพจำไปแล้วมากน้อยแค่ไหน แต่ความในใจคือ อยากจะหยุดเวลา เพื่อให้ภาพนี้คงอยู่อีกเนิ่นนานในสายตา
ทุกๆภาพนั้นงดงามมากขึ้น เมื่อมีภาพของวัดบนโพรงหินสีคล้ำเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิดแสงเงาที่น่าประทับใจ
Photo : Indonesia-travel
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม Pura Tanah Lot อีกช่วงหนึ่ง คือเมื่อทางวัดจัดพิธี Odalan ซึ่งมีการเฉลิมฉลองทุกๆ 210 วัน .. พิธีกรรมมักจะเกิดขึ้นใกล้กับเทศกาล Galungan และ Kuningan ในวันศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า Buddha Cemeng Langkir ..
Photo : Indonesia-travel
ในวันนั้น คุณจะได้เห็นสตรีชาวบาหลีต่อแถวอย่างสง่างามโดยถือเครื่องบูชาไว้บนศีรษะเพื่อสวดมนต์ที่วัดทานาต์ลอต
พื้นที่ท่องเที่ยวของ Tanah Lot ใกล้กับโขดหินนั้นได้รับการจัดการเป็นอย่างดีสำหรับผู้มาเยือน มีที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านขายงานศิลปะ ร้านอาหาร โรงแรม เวทีเปิด ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว บริการรักษาความปลอดภัย
ในบริเวณใกล้ๆกับหมู่ศาสนสถาน มีร้านอาหารหลายแห่งที่มีชื่อ บางร้านตั้งอยู่ริมหน้าผา ซึ่งมีทิวทัศน์ที่น่าตื่นตะลึงของทะเลสีครามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และสิ่งก่อสร้างใกล้เคียงให้ชื่นชม
ที่นั่งแบบโอเพ่นแอร์ช่วยให้การนั่งทานอาหารที่เชพตั้งอกตั้งใจปรุงให้ลูกค้าลิ้มลองนั้นอร่อยมากขึ้น ยิ่งมีบรรยากาศของสายลมและเกลียวคลื่นที่ซัดสาดมากระทบโขดหินด้านล่างดังเป็นเหมือนเพลงแห่งธรรมชาติมาขับกล่อมด้วยแล้ว บรรยากาศจึงสุดยอด จริงจังอย่างที่ตั้งใจให้เป็น
คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันแสนอร่อยพร้อมชมทัศนียภาพแบบพาโนรามา สัมผัสความเงียบสงบของดวงอาทิตย์ในเขตร้อนที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้าไปสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เป็นภาพประทับใจและที่น่าทึ่ง
ใกล้ๆกัน เป็นสถานที่ที่ปัจจุบันจัดให้มีการแสดงทางวัฒนธรรม รวมถึงนาฏลีลาแบบบาหลี ซึ่งส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องราวของ รามายะนะ
โฆษณา