มาถึงดาลัดกันตั้งแต่ตี 5 แต่ที่เที่ยวยังไม่เปิด เลยไปหลับเอาแรงกันก่อนที่ Queen T&T Hotel หลังจากนั้นก็เรียก grab ไปหาองทำกันที่ Datanla waterfall ที่นั่นมีกิจกรรมให้ทำอาทิเช่น ยิงปืน, ยิงธนู, โรลเลอร์ โคสเตอร์, ซิปไลน์ เป็นต้น พวกเรานั่งโรลเลอร์โคสเตอร์ไปด้านล้างแล้วยิงปืน&ธนูต่อและทำแต้มได้ตามกำหนดเลยได้ไวน์มา 2 ขวดเป็นรางวัล

Crazy House เป็นสถานที่รูปทรงแปลกๆ ไม่เพียงแต่ให้นักท่องเที่ยวเดินชมแล้ว ยังมีโซนที่เป็นที่พักอีกด้วย ทางเดินบางช่วงจะสูงและมีขั้นบันไดที่เล็กอาจจะต้องระวังกันนิดนึง

หลังจากตะลอนเที่ยวกันทั้งวัน ก็ไปจบกันที่ Da Lat Night Market มีอาหารและของขายเหมือนบ้านเรา แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคืออากาศอยู่ที่ 16 องศา ❄️

ระหว่างรอ grab มารับไปเที่ยวในวันที่ 2 ก็เลยเดินเล่นรอแถวๆโรงแรมที่พัก

ที่เที่ยวแรกในวันที่ 2 คือ Garden Hydrangeas เป็นทุ่งดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่ง ซึ่งไกลจากตัวเมืองประมาณ 15 กม. และมีค่าเข้าชม 30,000 VND แต่สามารถอยู่ได้ทั้งวัน

หลังจากไปสวนดอกไม้เสร็จ ก็มาต่อที่ Domaine De Marie Convent เป็นโบสถ์สีชมพูตั้งอยู่บนเนินเขาของถนนโงเกวี่ยน ไม่ไกลจากตัวเมืองดาลัด ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ตอนไปเค้าไม่ได้เปิดให้เข้าชมด้านใน

เลยเวลาอาหารเที่ยงมาได้สักพัก ก็กลับเข้ามาเกือบในเมืองมาลองทานแหนมเนืองแบบดั้งเดิม ตัวแป้งเค้าจะไม่จุ่มน้ำและหมูจะออกมันๆเลยรู้สึกเลี่ยนๆหน่อย แล้วก็ไป Doha Cafe ต่อ ภายในร้านจะไม่มีแอร์แต่ไม่ร้อน เครื่องดื่มอาจจะไม่เข้มข้นมากนักสำหรับคนที่ชอบแบบเข้ม

ก่อนจะบินกลับไปยังโฮจิมินห์ พวกเราเรียกรถไปนั่งชิลอ่างเก็บน้ำที่ Piti Coffee บรรยากาศคล้ายๆอ่างแก้ว ม.ช. แต่ไม่วุ่นวายเท่า แล้วไปนั่งจิบไวน์และดินเนอร์กันในเมืองดาลัดที่ร้าน Artist Alley Restaurant เป็นร้านในซอยที่อยู่แถวๆที่พัก บริการดีมากกกก อาหารโอเค

วันสุดท้ายในเมืองโฮจิมินห์ ที่ที่จะไม่ไปไม่ได้เลยคืออนุสาวรีย์โฮจิมินห์ ตั้งอยู่ด้านหน้า Ho Chi Minh Cityhall หลังจากนั้นไปนั่งทาน Afternoon tea ที่ร้าน Partea ซึ่งอยู่ชั้น 4 ใน Cafe Apartment ที่นี่จะมีทั้งหมด 9 ชั้น หากใครไม่อยากเดินขึ้นบันไดก็มีลิฟท์ไว้คอยบริการ ค่าเสียหายอยู่ที่ 3,000 VND