Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supawan’s Colorful World
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2023 เวลา 09:03 • ท่องเที่ยว
Nusa Penida Island .. เกาะสวรรค์ในบาหลี
Nusa Peneda Island .. เกาะนูซา ปนีดา สวรรค์ในบาหลี
To me, photography is the simultaneous recognition, in a fraction of a second, in the significant of an event!
ภาพถ่ายบางภาพ เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในการก้าวเท้าออกเดิน .. เพื่อค้นหา และสัมผัสกับสิ่งที่สะท้อนออกมาผ่านภาพถ่าย
ทะเลและชายหาดในภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว .. น้ำทะเลสีมรกตสวยๆ ที่แตกต่างจากบ้านเราค่อนข้างมาก แค่เห็นในรูปก็รู้เลยว่าคือทะเลบาหลีในฝันของใครหลายคน
ฉันตั้งหมุดหมายจะไปเยือนและถ่ายภาพหลายๆมุมที่สวยงามที่ เกาะเกาะซาเปนิดา ('Penida Island) มาเนิ่นนาน และมีโอกาสได้ทำตามความตั้งใจเมื่อเดือน กรกฎาคม ที่ผ่านมานี่เองค่ะ
เราเดินทางมาถึงเกาะบาหลี และรับทราบว่า แผนการเดินทางไปเยือนเกาะเกาะซาเปนิดา ในวันแรกๆนั้นต้องมีอันเลื่อนไป ด้วยเหตุที่ในทะเลมีคลื่นลมแรง จนทางการต้องประกาศไม่ให้เรือเล็กออกจากฝั่ง เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก
.. เราเลยต้องสลับโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยว ให้การไปเยือนเกาะ เป็นการทัวร์ในวันสุดท้าย ซึ่งจะมีข้อจำกัดมากในเรื่องเวลาที่จะใช้ ด้วยเหตุที่เราจะต้องกลับมาถึงแผ่นดินใหญ่บนเกาะบาหลีให้ทันก่อนเวลาเดินทางกลับประเทศไทย
.. เห็นได้ชัด และรู้ล่วงหน้าว่า เราไม่สามารถที่จะเที่ยวให้ครอบคลุมสถานที่ต่างๆที่เป็นมุมถ่ายภาพดังๆ ที่เคยวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น .. อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเราก็ได้ไปสัมผัสส่วนหนึ่งของเกาะสวรรค์ในฝันค่ะ
การไปเที่ยวเกาะแห่งนี้ นักท่องเที่ยวมีเพียงตัวเลือกเดียว คือ การนั่งเรือเฟอรี่ข้ามเกาะ ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือ หรือเอาสะดวกก็สามารถจองตั๋วล่วงหน้าจากเว็บไซด์ได้เช่นกัน
รวมถึงมีการจองตั๋วเป็นแบบแพ็คเกจเรือข้ามฟาก พร้อมคนขับรถพาเราเที่ยวบนเกาะนูซา เปอนีดา ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวสะดวกมาก .. เวลาเรือข้ามฟากจากเกาะบาหลีไปยังเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) นั้นจะมีตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ภาพอาคารบริการท่าเรือข้ามฟากแห่งใหม่ที่สวยงาม และทันสมัยมาก .. ชอบรูปแบบการออกแบบอาคารค่ะ เหมือนกับเรือ อยู่บนหลังของปลาตัวโต
เมื่อได้ตั๋ว และถึงคิวการลงเรือ เราก็ตามๆกันมาลงเรือ Speed Boat ที่ทันสมัย ซึ่งต้องนั่งตามเลขที่นั่งที่จัดสรรไว้ให้ลูกค้าแต่ละรายล่วงหน้า
การเดินทางใช้เวลาราว 30-45 นาที .. เมื่อมาถึงเกาะ เราใช้บริการของรถท้องถิ่นที่มารับถึงท่าเรือ สะดวกมาก แต่สภาพของรถอาจจะไม่สบายนัก พอรับได้
Photo : Internet
เกาะซาเปนิดา ('Penida Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้เกาะบาหลี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ อินโดนีเซียและเขต การปกครอง ของKlungkung ซึ่งรวมถึงเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงอย่าง Nusa Lembongan และเกาะเล็ก ๆ อีกสิบสองเกาะ ... ช่องแคบบาดุงกั้นระหว่างเกาะกับเกาะบาหลี
ด้านในของเกาะนูซา เปนิดาเป็นเนินเขาที่มีความสูงสูงสุด 524 เมตร อากาศแห้งกว่าเกาะบาหลีที่อยู่ใกล้เคียง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในบรรดาสามเกาะนูซา
นูซา เปนิดา ครอบคลุมสถาน ที่ดำน้ำในบริเวณกว้างได้แก่ อ่าวเปนิดา บาตู ลุมบุง (มันตา พอยต์) .. บาตู เมลิง .. บาตู อะบาห์ โทยา ปาเกห์ .. และมาลิบู พอยต์
ความแรงและทิศทางของกระแสน้ำในบริเวณนี้ จะได้รับอิทธิพลจากฤดูมรสุม .. ในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ กระแสน้ำจะไหลไปทางใต้ ในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ กระแสน้ำจะไหลไปทางเหนือ
ด้วยพื้นที่ 247 กม.² นูซาเปนิดามีขนาดใหญ่กว่านูซาเลมโบงัน ที่รู้จักกันดีมาก อย่างไรก็ตามโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวยังไม่ก้าวหน้าเท่า Lembongan ...
ชายฝั่งทางเหนือเป็นส่วนที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของเกาะและเป็นฐานของการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ .. ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของชายหาดและฟาร์มสาหร่ายอีกด้วย การทำฟาร์มสาหร่ายเริ่มขึ้นบนเกาะในช่วงทศวรรษที่ 1980 เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เพื่อยังชีพ .. และเนื่องจากขาดแคลนน้ำจืดตามธรรมชาติ จึงไม่ค่อยมีการปลูกหรือผลิตที่เกาะนูซาเปนิดานอกฤดูฝน และแม้แต่ผลผลิตจำนวนมากก็มาทางเรือ
ด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ของเกาะ .. ปูด้วยหน้าผาหินปูนและทิวทัศน์อันงดงาม แต่มีชายหาดไม่มากนักที่สามารถเข้าถึงได้ทางบก
ผืนน้ำรอบๆ นูซาเปนิดาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานอุทยานทางทะเล (MPA) และเป็นที่อยู่อาศัยของปะการังและปลาหลากหลายชนิด
จากการสำรวจในปี 2552 มีพื้นที่ปะการังประมาณ 1,419 เฮกตาร์ โดยร้อยละ 66 ครอบคลุมพื้นที่ในระดับความลึก 3 เมตร และร้อยละ 74 ครอบคลุมพื้นที่ในระดับความลึก 10 เมตร
นูซาเปนิดาเป็นส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยมปะการังซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ทะเลแอมะซอน" เนื่องจากเป็นแหล่งอาศัยของปลาหลายชนิดที่จะขยายพันธุ์ .. นูซาเปนิดามีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกและ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลากระเบนราหูยักษ์ และปลาโมลา โมลา (Mola Mola :ปลาแสงอาทิตย์) ซึ่งเป็นปลาอพยพ ที่มีแนวโน้มมากการพบได้มากที่สุด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงตุลาคม แม้ว่าจะมีรายงานการพบเห็นตลอดทั้งปี
นูซา เปนิดาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นสวรรค์ของคนรักกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการมาดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น การมาล่องเรือ เล่นเซิร์ฟบอร์ด รวมถึงลงเล่นน้ำตามชายหาด ..
.. รวมถึงเป็นจุดหมายปลายทางการดำน้ำระดับโลก มีจุดดำน้ำที่ระบุมากกว่า 20 แห่งรอบเกาะ .. ที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ Crystal Bay, Manta Point, Toyapakeh, Suana Bay และ Malibu Point ผืนน้ำที่อุดมสมบูรณ์รอบเกาะทั้งสามเกาะรองรับปะการังได้ไม่น้อยกว่า 247 สายพันธุ์และปลากว่า 562 สายพันธุ์
การท่องเที่ยวของเราครั้งที่ผ่านมา มีข้อจำกัดเรื่องเวลา จึงต้องเลือกจุดที่จะไปเยือนให้ดี .. เหตุผลแรก คือ ที่เกาะนี้มีสถานที่เที่ยวสวยๆ ดังๆ มากมายหลายจุด
.. เหตุผลที่สอง คือ ระยะทางแต่ละสถานที่ห่างไกลกันเป็นชั่วโมงด้วยการเดินทางด้วยรถยนต์ .. อีกทั้งเมื่อไปถึงจุดหมายแต่ละแห่งแล้ว ยังต้องใช้แรงกาย แรงใจมากมาย ในการใช้เวลาเดินลงไปตามหน้าผาเพื่อลงไปถึงจุดอันเป็นหมุดหมายที่บากบั่นมา (หากมีเวลา ขอแนะนำให้มาค้างคืนบนเกาะ แล้วใช้เวลาที่ไม่เร่งรีบนักเก็บภาพที่ต้องการ ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันค่ะ)
หลังจากที่เราข้ามมายังเกาะนูซาเปอนีดา (Nusa Penida) และขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว คนขับรถของเราก็พามาเริ่มต้นทริปด้วยการเที่ยวที่แรกที่ Rumah Pohon ‘Tree House’ ซึ่งอยู่บริเวณริมหน้าผาตั้งชัน หันหน้าออกสู่ทะเล ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดไฮไลท์หลักที่นักท่องเที่ยวชอบมายืนถ่ายรูปกันตรงบันไดไม้ ที่มีฉากหลังเป็นวิวของน้ำทะเลและโขดหินสวยๆ ด้านหลังนั่นแหละค่ะ
ระหว่างการเดินทางฉันถามคนขับรถว่า หลังจากการไปบ้านต้นไม้ริมหน้าผาแล้ว เราจะไปที่ไหนต่อ ..
.. T – Rex Beach .. คือคำตอบ
“.. Can this car goes to Broken Beach and Billabong instead. We are not too fancy about seeing Dinosaur and we can be back to the pier on time. ” ฉันถามคนขับ
“It’s a no no. That T-Rex island is the symbol of Indonesia.” คนขับบอกกับเราเช่นนั้น
รถของเราออกจากท่าเรือ และใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงบนถนนแคบๆ .. ผ่านวิวทิวทัศน์ที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลและหน้าผาสูง มองเห็นชัดเจนว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีที่พักระดับไฮเอ็น เกิดขึ้นอีกมากมาย เพื่อรองรับความป๊อปปูล่า และความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของนักท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นไปกับความงดงามของเกาะนี้ ผ่านกระแสของโลกโซเชี่ยล
ในที่สุดเราก็มาถึงทางลงสู่บ้านต้นไม้
“.. ทางลงเป็นบันไดสูงและชัน ระวังกันด้วยนะครับ .. เราจะใช้เวลาที่นี่ 30 นาทีนะครับ ..”
“.. ขึ้นมาแล้ว เจอกันที่ลานจอดรถนะครับ เราจะไปยังจุดชมวิวต่อไป” ไกด์ของเราบอกกับลูกทัวร์
พื้นที่ด้านบนของทางลง เป็นลานที่กว้างพอสมควร สามารถถ่ายภาพได้สวยงาม .. แต่ไม่สามารถจะมองเห็นบ้านต้นไม้ และจุดถ่ายภาพสวยๆได้เลย จะต้องเดินลงจากหน้าผาไปให้ถึงด้านล่างเท่านั้น
ด้วยความสูงชันของทางเดินที่เป็นบันได ประกอบกับวัย 70+ .. ทำให้เมื่อฉันลงไปได้ระยะทางระดับหนึ่ง ก็เริ่มรู้สึกว่า ไม่สามารถที่จะลงไปให้ลึกที่สุดเพื่อถ่ายภาพ แล้วกลับขึ้นมาให้ถึงลานจอดรถภายในเวลา 30 นาทีได้
.. ฉันเลยเปลี่ยนแผน เป็นการถ่ายภาพมุมสูงของจุดชมวิวพันเกาะ ซึ่งสามารถเก็บภาพของ Diamond Beach และหาดที่อยู่ในโอบกอดของโค้งอ่าวได้อย่างงดงามเช่นกัน
You don’t need to go to the Tree House to get good view and beautiful photos.
You stand here over looking beautiful beaches and sparkling blue water .. is all you hav e to do.
.. ชาย (มาเฟีย) ที่เข้าไปจับจองพื้นที่ขนาดเล็กมาก แต่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของ A thousand islands view point บอกกับฉัน
ภาพท้องทะเลสีคราม ตัดกับน้ำสีมรกต มีภูเขาหินมากมายโผล่ชูชันขึ้นมาจากท้องน้ำ รวมกันมากมาย จนได้ชื่อว่า พันเกาะ .. ด้านหนึ่งเป็นโค้งอ่าว และทรายสีขาวมากของ Diamond Beach นั้นสวยงามเกินคำบรรยาย
จากภาพที่ผ่านสายตาในมุมสูง .. ฉันไม่แปลกใจที่มีผู้คนมากมายเลือกที่จะมาเล่นน้ำที่ใสมากๆ บนชายหาดไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ที่มีชายหาดสีขาวๆ ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสมากๆ
.. เป็นหนึ่งในชายหาดสุดป๊อบปูล่าของเกาะ ท่ามกลางกลางเกลียวคลื่นแบบอลังการ และแรงแบบเกรี้ยวกราดยามกระทบชายฝั่ง คลอเคลียไปกับเสียงลมที่กระทบผิว
ภาพแล้วภาพเล่า นับไม่ถ้วนที่ฉันกดชัตเตอร์กล้องรัวๆ เพื่อเก็บความประทับใจไว้ดู และนำมาแชร์ที่นี่ .. บอกได้ถึงเสน่ห์มากมายของ หาดสวรรค์ แห่งบาหลี ที่จับต้อง มองเห็นได้จริงๆ
จากด้านบน ณ จุดที่ฉันยืน สามารถมองเห็นด้านล่าง อันเป็นจุดชมวิวพันเกาะได้ แต่จะมองไม่เห็นบ้านต้นไม้ และวิวที่ถ่ายจากที่นั่น .. ภาพที่นำมาให้ชม มาจาก Internet ค่ะ
ทราบมาว่า .. บ้านหลังนี้เดิมเป็นบ้านพักปกตินี่แหละ แต่เนื่องจากภาพจากจุดบันไดไม้ที่มีคนไปยืนนี้ปังมาก ตอนนี้ เจ้าของพื้นที่เเลยเปลี่ยนบ้านนี้ ให้กลายมาเป็นจุดถ่ายรูปและทำเงินแทน และให้ถ่ายภาพคนละ 2 นาทีเท่านั้น
Photo : Internet
ในแต่ละวันมีคนไปต่อคิวถ่ายภาพเยอะมากๆ .. หากลงไปถึงจริงๆ ก็ต้องคิดล่วงหน้าว่าจะโพสท่าถ่ายรูปอย่างไร เพื่อให้ได้ภาพสวยๆ หลายๆภาพนะคะ รวมถึงกล้องต้องพร้อม คนที่จะถ่ายรูปให้ก็ต้องเร็วด้วย
หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach)
วิวสันเขาชื่อดังตรงหาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) มีชื่อนิคเนมว่า T-Rex ‘หน้าผาทีเร็กซ์’ ที่มีลักษณะเป็นหน้าผาหินยื่นออกไปในทะเล ที่มองผิวเผินจากวิวมุมสูงหน้าตาเหมือนเจ้าไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ซะด้วย
ที่นี่ เป็นจุดสุดท้ายที่เราจะไปเก็บภาพ ซึ่งสันเขาและชายหาดนี้เปรียบเป็นไอคอนิกประจำของเกาะไปเป็นที่เรียบร้อย
เราไม่มีเวลาพอที่จะลงไปที่หาด ซึ่งต้องเดินลงไปตามทางชันและไกลเอาเรื่องเลยทีเดียว ต้องใช้เวลาขึ้น-ลงมาก เราจึงเลือกที่จะเก็บภาพสวยๆจากด้านบนแทน
โดยรวมแล้ว หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach) หรือ หน้าผาทีเร็กซ์ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ถือเป็นไฮไลท์ของเกาะนูซา เปอนีดา (Nusa Penida) .. ว่ากันว่า หากคุณมีเวลาพอ ที่นี่ยังเหมาะกับการมานั่งดูพระอาทิตย์ตกเช่นกัน เพื่อดื่มด่ำกับท้องฟ้า ยามเปลี่ยนจากสีส้ม ค่อยๆ กลายเป็นสีแดง และมืดมิดหลังจากที่พระอาทิตย์ตกจมหายไปกับเส้นขอบของทะเลและท้องฟ้าตรงหน้า การันตีได้ว่า บรรยากาศโรแมนติกมากๆแน่นอน
หลังจากที่จบการเยี่ยมชมหาด T-Rex แล้ว เราเดินทางกลับมาที่บาหลี แล้วเดินทางกลับบ้าน .. แต่มีอีกบางสถานที่ที่สวยงามบนเกาะ ที่อยากพูดถึงเล็กน้อย แม้จะไม่ได้ไปเยือนมาด้วยตัวเอง โดยใช้ภาพประกอบจาก Internet
Photo : Internet
Angel Billabong
Angel Billabong .. คือเวิ้งสระน้ำธรรมชาติที่ซ่อนตัวริมด้านในของริมชายฝั่ง เป็นสระน้ำแบบ Infinity Pool ตามธรรมชาติที่ริมฝั่งหันหน้าเข้าหาทะเลราวกับว่าเรากำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเล เป็นผลงานของธรรมชาติที่สวยงามน่ามองเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมองออกไปเห็นมหาสมุทรอินเดียอันกว้างใหญ่ .. ล้อมรอบด้วยผาหิน โขดหินและห้อยออกไปเหนือมหาสมุทรที่น้ำทะเลเฉดสีมรกตนั้นใสราวคริสตัล และสามารถมองเห็นหาด Manta Point ได้
สระน้ำธรรมชาตินี้ มีช่องว่างที่สามารถเชื่อมต่อกับน้ำทะเลด้านนอกได้ .. ในยามที่คลื่นสงบและน้ำลง น้ำในสระจะใสเหมือนคริสตัลเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่น้ำขึ้นและลมแรงมีคลื่นซัด ตรงนี้จะน่ากลัวมาก เพราะคลื่นทั้งหมดจะถาโถมเข้ามาในสระ และกวาดทุกอย่างพัดออกไปยังทะเลเลย
มีชิงช้าที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า Angel's Billabong Sunset Point .. ซึ่งสามารถแกว่งได้ในขณะที่เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจ นับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะนูซาเปนิดา
โบรคเก้น บีช (Broken Beach)
Broken Beach เป็นสถานที่ชมวิวที่มีชื่อเสียงมากบนเกาะ Nusa Penida .. เป็นชายหาดที่หลบซ่อนตัวอยู่ในหลุมผาอีกแห่งหนึ่ง ใกล้ๆกับ Angel Billabong คือ Broken Beach หรืออีกชื่อที่คนอินโดเค้าเรียกกันว่า ‘Pasih Uug’ ..
.. เป็นชายหาดที่เป็นแอ่งขนาดใหญ่ ลึกลงไปด้านล่างและโอบล้อมด้วยผาหินสูง ซึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทางธรณีวิทยาที่เราเห็นนี้ เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะเรื่อยๆ จนทะลุเข้ามาเป็นรูกว้างจนคล้ายเหมือนมีสะพานหินข้ามช่องน้ำ และน้ำทะเลเองได้เคลื่อนตัวและก่อนเกิดเป็นชายหาดบริเวณด้านใน
เวิ้งน้ำโค้งรูปเกือกม้าของทะเลสีคราม ซึ่งก่อตัวขึ้นในโขดหิน พร้อมด้วยส่วนโค้งที่เหลือและน้ำทะเลสีฟ้าใส .. สร้างมุมมองแบบพสโนรามิควิวที่สวยงามมาก สมบูรณ์แบบสำหรับช่างภาพ ..คลื่นที่สาดซัดเข้ามาจากมหาสมุทรอินเดีย อาจจะนำปลากระเบนขนาดใหญ่ลอยอยู่ในทะเลใกล้ๆ ให้คุณดกชัตเตอร์กล้อง .. หากคุณโชคดี
ว่ากันว่า .. เวลาที่สวยที่สุดนั้นจะเป็นช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตก เพราะเราจะได้เห็นแสงของพระอาทิตย์ลอดผ่านช่องโหว่ตรงนี้ได้อีกด้วย
แม้ว่าในปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้ปีนลงไปยังทะเลด้านล่าง .. แต่เพียงแค่การเดินวนรอบเวิ้งจากด้านบน แล้วมองลงไปยังน้ำทะเลด้านล่าง ก็สามารถชื่นชมกับความงามมหัศจรรย์ของของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้ คุ้มค่ากับการมาเยือนแล้ว
บันทึก
1
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย