Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นานาสาระ
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2023 เวลา 14:38 • หนังสือ
พูดจาภาษาดอกไม้ ดอกไม้มีภาษาด้วยเหรอ แล้วพูดยังไงล่ะ มาดูตัวอย่างกัน
ภาษาดอกไม้ คือ การใช้ดอกไม้สื่อสาร อารมณ์ ความรู้สึก แทนการใช้คำพูดโดยตรง บางคนโผงผางมาก มีอะไรก็พูดออกไปเลย บางคนแสดงออกทางสีหน้าแทน การใช้ดอกไม้พูดแทน ดูเหมือนจะเป็นทางที่ซอฟต์ที่สุด แต่ก็อ้อมโลกสุดๆ ไปเลย อีกอย่าง ถ้าคนเราจะสื่อสารกันด้วยดอกไม้ ก็ต้องมีความเข้าใจตรงกันก่อนว่าดอกไม้ชนิดไหนหมายถึงอะไร นี่เองจึงมี พจนานุกรมภาษาดอกไม้ออกมาให้เป็นReference กันด้วย
แล้วภาษาดอกไม้เริ่มต้นเมื่อไหร่กันล่ะ เรื่องนี้มีหลายทฤษฎีค่ะ ทฤษฎีแรกุว่ากันว่ามนุษย์เราใช้ดอกไม้สื่อความหมายกันมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์โน่นเลย โดยวางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพ พัฒนามาเรื่อยจนถึงยุคกรีกโบราณที่นิยมใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า
อีกทฤษฎีก็ว่าเริ่มต้นใช้ที่อียิปต์โบราณ เพราะพบข้าวของเครื่องใช้และภาพวาดที่มีรูปดอกไม้ในสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน
ลวดลายดอกไม้ในอียิปต์โบราณ
อีกทฤษฎีก็ว่ากันว่าเริ่มที่ตุรกีต่างหาก เมื่อมีการศึกษาของ Lady Mary Wortley Montaguพบว่าสาวๆ ในฮาเร็มใช้กันเพราะจะได้เลี่ยงไม่ให้ทหารจับความในใจได้
บางทฤษฎีก็เชื่อมโยงไปถึงวิลเลียม เช็คสเปียร์ เพราะเช็คสเปียร์มักจะใช้ดอกไม้เปรียบเปรยในงานเขียนตัวเองเสมอ อย่างเช่น เปรียบเทียบดอกกุหลาบในเรื่องโรมิโอ จูเลียต
ไม่เป็นที่แน่นอนว่าภาษาดอกไม้เริ่มมีมาเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ มารุ่งเรืองสุดขีดในสมัยวิคตอเรียน (คศ.1837-1901) คนในยุคนั้นจะมีพจนานุกรมภาษาดอกไม้ไว้ประจำบ้านเลย และก็จะปลูกดอกไม้เยอะแยะในสวนตัวเองเพื่อใช้ในการสื่อสาร เราจึงมักเห็นในภาพยนตร์อังกฤษเสมอที่ผู้คนจะชอบทำสวน ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ เข้าใจว่า นี่ก็เป็นอิทธิพลอย่างหนึ่ง
บางบ้านที่ร่ำรวยก็จะทำเป็นเรือนเพาะชำหรือเรือนกระจก เพราะต้นไม้ดอกไม้บางชนิดบานแค่ในฤดูร้อน แล้วถ้าต้องใช้ในฤดูหนาวล่ะ ทำไง ทางแก้คือมีเรือนเพาะชำเป็นของตัวเอง เพราะสมัยนั้นแรงงานราคาถูก จึงสามารถมีได้ ตัวอย่างเช่น ต้านเฟิร์น Moonwort เป็นต้นไม้เฉพาะหน้าร้อน มีความหมายว่า "การลืมแบบไม่ได้ตั้งใจ" ดังนั้นการจะบอกใครสักคนว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจลืมวันเกิดเธอ คงเป็นเรื่องใหญ่ถ้าเกิดลืมในหน้าหนาวและไม่มีเรือนเพาะชำ
แล้วทำไมการใช้ดอกไม้ในการสื่อสารถึงได้รับความนิยมขนาดนั้นล่ะ เพราะควีนวิคตอเรียเป็น Trend Setter ไงคะ ราชินีทำ ประชาชนก็อยากทำตาม ประกอบกับในสังคมชั้นสูงสมัยนั้น เค้าแอ๊บใส่กันค่ะ จะไม่พูดตรงๆ เพราะคิดไปเองว่า การพูดตรง=ความไม่สุภาพ (ห๊ะ ตรรกะ) ภาษาดอกไม้เลยตอบโจทย์ตรงนี้
ทีนี้ปัญหาคือ ทุกคนต้องเข้าใจให้ตรงกันว่าดอกนี้ๆ หมายถึงอะไรใช่มั้ยคะ จึงจัดพิมพ์พจนานุกรมภาษาดอกไม้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรามาดูกันนิดนึงนะคะว่าดอกไม้อะไรหมายถึงอะไร
ดอกลิลลี่ : หมายถึงผู้หญิงในอุดมคติ ความบริสุทธิ์ หลังๆ มักจะหลีกเลี่ยงการให้ดอกลิลลี่กับใคร เพราะคนรับอาจมองว่าเป็นการแช่งให้ตาย เพราะดอกลิลลี่เป็นตัวแทนของพระแม่มารีที่สื่อถึงความสงบ โศกเศร้าในงานศพ
Lily
กุหลาบแดง : สื่อถึงความรักที่โรแมนติก ร้อนแรง รักยืนยง ดังที่มีเพลง ปลูกกุหลาบแดง9999 ดอกไงคะ
Red Rose
ลาเวนเดอร์: หมายถึงการเฉลิมฉลอง เราจึงมักเห็นในพิธีมงคลต่างๆ
หมายถึง ความเวียบสงบ ดังจะเห็นได้จากกลิ่นในน้ำมันหอมระเหย
หมายถึง ความจงรักภักดี ดังจะแสดงถึงความรักที่จริงจังและจริงใจ
Lavender
ดอกเดซี่ : หมายถึง ความไร้เดียงสา การเริ่มต้นใหม่ กำลังใจ หรือ รักแท้ บางคนจึงหันมาใช้ดอกเดซี่แทนกุหลาบแดงในการแสดงออกถึงความรักแล้วยังแฝงนัยถึงความห่วงใยและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
Daisy
ดอกคาร์เนชั่นขาว : นิยมใช้ในการแสดงความยินดี เช่น การรับปริญญา
หมายถึงความรักที่บริสุทธิ์ อ่อนโยน เช่น ในญี่ปุ่นใช้เป็นดอกไม้ในวันแม่
White Carnation
กล้วยไม้ : หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ แสดงออกในเชิงอวยพรให้มีลูก หรือถ้าพูดในเช่ิวความรักก็จะหมายถึง ฉันไม่อาจห้ามใจไม่ให้คิดถึงเธอได้ และใช้เป็นดอกไม้ในวันครูด้วย เพราะกว่าที่กล้วยไม้จะเติบโตให้เชยชมได้ ต้องใช้เวลาบ่มเพาะนาน เปรียบเสมือนครูเคี่ยวกรำศิษย์
Orchid
ดอกฟอร์เก็ตมีน็อต หรือ Forget Me Not อย่าลืมฉัน เป็นสัญลักษณ์ของรักแท้
Forget Me Not
นอกจากนี้ มือข้างที่ใช้ก็มีความหมายนะคะ ถ้าใช่้มือขวา หมายถึง Yes มือซ้าย หมายถึง No
สีของดอกไม้ที่ต่างกัน ความหมายก็ต่างกันค่ะ อย่างกุหลาบแดง กุหลาบขาว กุหลาบชมพู กุหลาบเหลือง ก็มีความหมายต่างกันค่ะ
วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ดอกไม้นั้นๆ ก็มีความหมายต่างกัน เช่น ดอกลิลลี่ ถ้าเป็นอียิปต์โบราณจะหมายถึง ผู้หญิงในอุดมคติ แต่ถ้าเป็นในยุคโรมันจะหมายถึงความรัก ศาสนาคริสต์ถือเป็นตัวแทนของ Virgin Mary หมายถึงความสงบ โศกเศร้า จึงใช้ในงานศพ
จำนวนของดอกไม้ก็มีความหมายค่ะ
1 ดอก = รักแรกพบ
2 ดอก = แสดงความยินดี
3 ดอก = ผมรักคุณ
12 ดอก = ขอให้เราคู่กัน
108 ดอก = Will you marry me?
แล้วถ้าให้เป็นช่อดอกไม้ล่ะ ก็คงต้องแยกตีความตามแต่ละดอกนะคะ ที่เด่นเลยคือ ช่อดอกไม้ในงานแต่งงานของ Kate Middleton ในปี2011 ค่ะ ที่ประกอบด้วยดอก Myrtle,Ivy ที่หมายถึงความรักและความผูกพัน ดอก Hyacinth หมายถึงกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะทั้งสองรักการกีฬา และดอก Sweet William ที่ชื่อพ้องกับเจ้าชายวิลเลียม หมายถึง วิลเลียมผู้เป็นที่รัก
โห ยาวพอสมควรเลยนะเนี่ย ยังมีอีกนะคะ แต่เล่าในบทความเดียวไม่ไหวจริงๆ เอาเป็นว่าจบแค่นี้ละกันค่ะ
cr:web adaymagazine
web kaidee
ภาษาไทย
ความรู้รอบตัว
ไลฟ์สไตล์
2 บันทึก
2
1
2
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย