13 ส.ค. 2023 เวลา 05:42 • ท่องเที่ยว
ลาว

สมบุกสมบันที่ลาว

ด้วยความที่อยากไปเที่ยวลาว แต่ทุกคน (4 คน) ว่างแค่วันหยุดยาวเท่านั้นก็เลยจำเป็นต้องนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพไปลงที่อุดร (ค่าตั๋วเครื่องบินเลือดตาแทบกระเด็น) แล้วนั่งรถทัวร์จากอุดรไปเวียงจันท์ต่อ รวมๆแล้วนั่งรถประมาณ 10 กว่าชั่วโมงกว่าจะถึงเวียงจันท์ ถึงที่พักในเวียงจันท์ปุ๊บอาบน้ำนอนแล้วหลับเลย เพราะไม่ได้หลับมาทั้งคืน
หลังจากงีบกันไป ก็เรียกรถไปสถานีรถไฟความเร็วสูงเพื่อซื้อตั๋วไปยังเมืองถัดไป แล้วก็ไปเดินเล่นกันที่ ประตูชัย ตรงนั้นมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมาเดินเล่นถ่ายรูปกัน ช่วงเย็นๆบรรยากาศดี ไม่ร้อน แต่เสียดายที่เค้าไม่ได้เปิดน้ำพุตรงด้านหน้าประตู หลังจากนั้นพวกเราก็เรียกตุ๊กๆไปถนนคนเดินหาข้าวกินกันที่นั่น
สายๆวันที่ 2 นั่งรถไฟความเร็วสูงไป หลวงพระบาง เกือบ 2 ชั่วโมง พวกเรานั่งชั้น 2 ราคาไม่เกิน 500 บาท ซึ่งก็สะดวกสบายมาก ในโบกี้ที่นั่งจะเป็นแบบ 3-2 และมีตู้เสบียงไว้คอยบริการ แอร์เย็น มีที่ชาร์จแบตด้านล่างที่นั่ง ห้องน้ำสะอาด แต่เสียอยู่อย่างคือประกาศเสียงตามสายไม่หยุด พอถึงหลวงพระบางแล้วก็ไปกินข้าวที่ ร้านตำหมากหุ่งเจ๊ติ๋ม ซึ่งเป็นร้านดังที่นั่น รอคิวนานหน่อยแต่อาหารอร่อยก็โอเคและราคาไม่แรงด้วย
หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไปเช่ามอไซค์แล้วแว๊นไป วัดเชียงทอง ในอุณหภูมิ 40 องศา 🔥 มีค่าเข้าชมคนละ 30,000 กีบ
ถัดมาก็ไปน้ำตกตาดกวางสี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวเมือง หากใครกลัวหิวทางเข้าก็จะมีพวกส้มตำของกินขาย ฟีลน้ำตกบ้านเรา ระหว่างทางเดินไปน้ำตกจะเจอศูนย์อนุรักษ์หมีก่อน และในส่วนของน้ำตกนั้น พวกเราเล่นแถวๆด้านล่างแทน แต่น้ำก็ยังใสและเย็นเจี๊ยบ (สาย ฝ ไม่ควรพลาดสำหรับสถานที่นี้) ก่อนจะแว๊นกลับมาในเมืองเพื่อนั่งรถตู้ไปสถานีรถไฟเพื่อเดินทางไปยังวังเวียงต่อในเย็นวันนั้น
สายๆวันที่ 3 ที่วังเวียง เปิดมาที่ ถ้ำจัง GPS ขยันพาหลงสุดๆ ทั้งที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หลังจากหาเจอแล้วก็ไปเดินเล่น ตอนแรกพวกเราคิดว่าคงชิลๆแหละไม่น่าเหนื่อย แต่มาถึงแล้วต้องเดินขึ้นบันไดอีก 147 ที่ชันกว่าจะถึงด้านบน ในถ้ำจะติดไฟไว้เพื่อให้เห็นความสวยงามของหินงอกหินย้อย พวกเราไม่อยากออกจากถ้ำเลยเพราะด้านในเย็นเหมือนติดแอร์ไว้ 555 ด้านล่างของถ้ำจังจะมีบ่อน้ำเล็กๆธรรมชาติที่ใสมากๆ สามารถลงเล่นได้
หลังจากพักกินข้าวที่ริมน้ำจน 4 โมงกว่าๆก็ไปที่ ผาหนามไซ เพื่อไปดูวิวยามเย็นกันด้านบน ระยะทางในการเดินขึ้นประมาณ 300 เมตรแต่ใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะชันและมีดิน & หินที่ลื่น 30 เมตรสุดท้ายก่อนจะถึงจุดชมวิวจะต้องปีนหินขึ้นไป เมื่อไปถึงแล้วบรรยากาศดีมากๆๆ ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นนักท่องเที่ยว ถ่ายรูปเล่นกันสักพักก็ลงมา ตอนลงน่ากลัวกว่าตอนขึ้นเยอะเพราะมันค่อนข้างชันและลื่นต้องระวังกันให้ดี
หลังจากกลับมาที่พักเพื่ออาบน้ำพักผ่อน ตอนดึกๆก่อนจะปิดค่ำคืนนี้ เราก็ไปนั่งฟังเพลงที่บาร์เล็กๆคนเดียวที่ Indy Mini Bar ตอนแรกจะไป Sakura Bar แต่คนแออัดเกินเลยมาที่นี่แทน เครื่องดื่มร้านนี้รสชาติมาเต็ม 😵💫 ก่อนจะเดินไปอีกร้านเพื่อไปรับเพื่อและเดินกลับที่พักด้วยกัน
ส่วนวันสุดท้ายเป็นวันซิ้อของ พวกเรานั่งรถไฟจากวังเวียงกลับมายังเวียงจันทน์ เพื่อเดินทางกลับ กทม ด้วยรถทัวร์อีกเช่นเคย หากใครจะไม่ใช้รถยนต์เดินทางก็สามารถขึ้นบัสที่สถานีรถไฟเพื่อเข้ามายังในเมืองเวียงจันทน์ได้เลย เป็นรถมีแอร์แต่อาจไม่ได้ฉ่ำแบบบ้านเรา
สรุปทริปลาว
1. ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างไม่เกินคนละ 5,000 บาท
2. คนลาวน่ารัก อาหารอร่อย
3. น้ำใสมากๆๆๆ ทุกที่ที่ไป
4. ตอนกลางวันอากาศร้อนมาก นั่งมอไซค์จากที่เปียกคือแห้งเลยทั้งเสื้อและกางเกง
5. ฝ. เยอะทุกเมืองที่ไป มีทุกวัย
6. เตรียมรองเท้าและร่างกายให้พร้อมในการเดินขึ้นผา
7. ขอบคุณคนที่บาร์ที่เอ็นดูเลี้ยง drink 🙏
8. ขอบคุณโค้ชที่แนะนำวิธีไม่ให้บาดเจ็บจากการปีนเขา 😉
9. เป็นประเทศที่อาจจะไม่แสงสีเสียงมาก แต่หากใครเป็นสาย adventure และธรรมชาติแนะนำว่าต้องไป แต่บินไปเถอะอย่าหาทำแบบพวกเราเลย 🐼
โฆษณา