1 ส.ค. 2023 เวลา 10:31 • ท่องเที่ยว
ภูกระดึง

ภูกระดึงครั้งแรก ที่แลกกับหน้าที่การงาน

มีประโยคที่พูดว่า “ถ้าลางานมันยาก ก็ลาออกไปเลย” แต่จะมีสักกี่คนที่ทำอย่างที่พูด เมื่อเกือบสองปีก่อน เราเป็นเด็กจบใหม่ในช่วงวิกฤตโรคระบาดโควิด เราจึงไม่มีโอกาสเลือกงานมากนัก จบมาก็ทำงานที่ห้างใกล้บ้าน
2
ใบเมเปิลสีแดง ที่น้ำตกถ้ำใหญ่
อย่างที่หลายคนรู้ พนักงานห้างหยุดได้แค่อาทิตย์ละหนึ่งวัน ส่วนวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ต้องลาแข่งกันกับเพื่อนร่วมงานถึงจะมีโอกาสได้หยุด แต่อย่างมากก็หยุดต่อกันได้ไม่เกินสองวัน
เกือบปีที่ทำงานเราแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย วันหยุดแค่ทำงานบ้านก็หมดวันแล้ว เราเก็บเงินได้หนึ่งก้อน เราจึงตัดสินใจลาออก เป็นการกระทำที่ตัดสินใจหลายอาทิตย์แต่ทุกวันนี้ก็ไม่รู้สึกเสียใจที่ทำอย่างนั้น
ถ่ายเซลฟี่สักหน่อย ขับมานานในที่สุดก็ถึงสักที่
⛰️ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง⛰️
การไปที่ถือว่าชาเล้นจ์ตัวเองพอสมควร อาจไม่ใช่การไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรก แต่ทุกอย่างก็รู้สึกแปลกใหม่ไปหมด เพราะนี่คือการเดินป่าครั้งแรกของเรา
เอาสายคาดอิรุงตุงนังสุดๆ แม่ทำให้ แม่ซัพพอร์ตลูกเสมอ
เราเลือกที่จะขับมอไซค์ไปกับระยะทางประมาณ 260 กิโลเมตร หลายคนบอกว่าเราเก่ง แต่ระหว่างที่ขับมอไซค์ไปบนถนนก็ได้มีเวลาคิดและกังวลหลายอย่างกับตัวเอง ทั้งอนาคตหลังจากนี้ รวมถึงการเดินทางในครั้งนี้ด้วย
ชาเย็นมันฮีลใจสุดๆแล้ว พักหน่อยหน่อย แล้วค่อยไปสู้ต่อ ฮึบ!!!
เก้าโมงเช้าเราขับรถออกจากบ้าน ขับรถถึงภูกระดึงประมาณบ่ายสาม ระหว่างทางพักทานข้าวและร้านกาแฟสองจุด
ราคา 200 พร้อมเครื่องนอน ตอนไปถึงเหลือหลังสุดท้ายพอดี
ภูกระดึง ปิดให้ขึ้นตั้งแต่บ่ายโมงทำให้เราต้องนอนที่ลานศรีฐานก่อนในวันแรก โดยเช่าเต็นท์และอุปกรณ์จากเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อรอเดินขึ้นในเช้าวันถัดไป
ตรวจโควิดก่อนขึ้น ผ่าน!!!
เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง เราตื่นตั้งแต่ตีห้ากว่าเพื่อลงทะเบียนและจองลูกหาบ สามารถจองวันเข้าอุทยานผ่านแอพพลิเคชั่น Queq ก่อนล่วงหน้าได้ เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นช่วงโควิด จึงต้องนำผลตรวจโควิทมายื่นก่อนขึ้น ส่วนใครที่ไม่มี ก็สามารถซื้อและตรวจก่อนขึ้นได้เช่นกัน
1
4 ชั่วโมงกว่าถึงหลังแป นี่เราก็เก่งเหมือนกันนะ
ระยะทาง 5.5 กิโลเมตรถึงหลังแป เราใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าก็ถึง ระหว่างทางทางมีของขายตลอด แต่จะเด่นก็ต้องกินแตงโมที่ ซำแฮก นี่แหล่ะ ไม่รู้ทำไมมันอร่อยกว่าทานข้างล่าง อาจเพราะมันต้องใช้ความพยายามมาทานมากกว่าปกติ
ไม่มีอะไรชื่นใจเท่าแตงโมที่ซำแฮกแล้ว
หลังแป พอมาถึงเราก็มาถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตสักหน่อย โดยพี่ที่อยู่แถวนั้นเป็นคนถ่ายให้ หลังจากนั้นก็เดินไปอีก 4.5 กิโลเมตร ถึงลานวังกวาง พอถึงเราก็จัดการเช่าเต็นท์ และอุปกรณ์การนอนให้เรียบร้อย หากใครพกเต็นท์มาเองก็มาจ่ายแค่ค่าพื้นที่กางเต็นท์แล้วจากนั้นก็ไปหาพื้นที่กางเอาตามชอบ ส่วนบ้านพักมีให้บริการแต่ต้องจองล่วงหน้าหลายเดือน แย่งชิงกันสุดๆ
ผ่านสนเดียวดาย
เรียกว่าถ้ามาภูกระดึง ไม่ต้องเอาอะไรมาก็ได้แค่มีเงินก็พอ เพราะที่นี่มีทุกอย่างให้แล้ว ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ ร้านขายของฝาก หลังจากเราทานข้าวพักผ่อนไปสักพัก ก็ถึงเวลาของการไปดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหมากดูก โดยเดินจากลานวังกวางไปประมาณ 2 กิโลเมตร พอไปถึงก็จะเห็นเหล่านักท่องเที่ยวต่างมารอดูพระอาทิตย์ตกกันหลายกลุ่ม
หลังจากกลับมาถึงเต็นท์ เราต้องรีบไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพราะห้องน้ำมันจำนวนจำกัด หากไปช้าคิวที่รอก็นานตามไปด้วย
อาหารมื้อดึก
เข้าสู่วันที่ 3 ของทริปนี้ เช้านี้เราตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น ทางที่ไปเป็นทางที่ช้างป่าออกหากิน จึงต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง โดยจะมีการรวมตัวกันที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
การเที่ยวบนภูกระดึง มี 2 แบบคือเดิน และปั่นจักรยาน หากปั่นจักรยานบางสถานที่อาจจะไม่สามารถปั่นเข้าไปได้ แต่ก็สะดวกเพราะทุ่นแรงได้เยอะ สถานที่ที่จักรยานเจ้าไม่ถึงส่วนมากจะเป็นน้ำตก แต่สามารถจอดไว้ทางลงไปน้ำตกถ้ำใหญ่แล้วเดินลงไปเที่ยวได้
ชอบผานกแอ่นที่สุดแล้ว
หลังจากกลับมาและทานอาหารเช้าเรียบร้อย เรามีแผนว่าจะเดินเที่ยวเส้นริมผา แต่แผนนั้นก็ต้องพับเก็บไป เพราะเราพบกับ น้องนัทและคุณลุง ซึ่งเราเจอกันหลายครั้ง ตั้งแต่เริ่มเดินขึ้นเมื่อวานแล้ว โดยเขาชวนเราไปเที่ยวด้วยกัน วันนี้จึงมีเพื่อนเที่ยวแล้ว
มาทั้งที เดินให้คุ้ม
แผนของวันนี้คือ เดินเก็บเส้นทางตามแผนที่ให้ครบ แล้วจบด้วยการดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหล่มสัก ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ ระยะทางทั้งหมด 22 กิโลเมตร เราเริ่มเดินจากน้ำตกวังกวาง ผ่านน้ำตกสอเหนือ น้ำตกถ้ำใหญ่ พอขึ้นมาจากน้ำตกถ้ำใหญ่ เราก็จะเจอแยกวัดใจว่าจะไปต่อหรือกลับแคมป์ แต่เราก็เลือกที่จะไปต่อ เดินไปสักพักเจอสระอโนดาต และในเวลาบ่ายสามกว่าเราก็มาถึงผาหล่มสักและพักทานข้าว ร้านอาหารจะมีเสื่อให้เรายืมฟรี สามารถยืมมาปูนั่งรอเวลาดดูพระอาทิตย์ตกได้
ถ้าเดินสับผ่านทุกผาตอนสองทุ่มคือการเก็บครบ เราว่าเราก็เก็บที่เที่ยวครบ เป็นการเที่ยวที่เหนื่อย แต่ก็สนุกมากเช่นกัน ถือเป็นความทรงจำที่ดีในการเดินป่าครั้งแรก
หญ้า ป่า น้ำตก มันฮีลใจ
รอดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก มันคือไฮไลท์
วันสุดท้ายของการเดินทางในทริปนี้ เนื่องจากเมื่อวานใช้ร่างกายหนักเกินไป ตื่นมาเช้านี้เลยปวดไปทั้งร่าง แต่ก็ยังดีก็เราพกยาคลายกล้ามเนื้อมาด้วย วันนี้ภาระกิจที่ต้องทำจึงมีแค่เอากระเป๋าไปฝากลูกหาบแล้วเดินลง หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้านเป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจ
กระเป๋า 4 โล สมัยยังเป็นเด็กใหม่วงการเดินป่า
📌 ค่าลูกหาบกิโลละ 30 บาท
📌 ค่าอาหารด้านบนไม่แพง เพราะเขาต้องจ้างลูกหาบแบกขึ้นไปอีก
📌 ด้านบนจะมีการดับไฟฟ้าตอน 4 ทุ่ม
📌 สัญญาณโทรศัพท์มีปกติภายในบริเวณแคมป์
📌 การเที่ยวด้านบนมีทั้งเดินและเช่าจักรยานปั่น
ถ่ายเป็นที่ระลึกหน่อย เรียลมาก รูปก็ไม่ปรับ
การเจอผู้คนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ ลองอยู่กับตัวเองสักพัก ให้เวลากับตัวเองสักหน่อย ลองคุยกับเพื่อนใหม่ให้มากขึ้น มันก็เป็นการเปิดโลกให้ตัวเอง ออกจากกรอบที่เคยมีมาตลอด อย่างน้อยช่วงเวลาสั้นๆก็ไม่ต้องกังวลกับงาน ไม่ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อไปแสกนนิ้วให้ทัน มันก็ดีนะ สุดท้ายนี้ก็ "ยินดีที่ไม่รู้จัก"
ปล. รูปถ่ายจาก Iphone 7 ไม่ปรับสีอะไรทั้งนั้น ช่วงค้นพบว่าชอบเที่ยวยังไม่มีขาตั้งโทรศัพท์ เน้นถ่ายรูปตามมีตามเกิด 😆
อ่านจบแล้วชอบก็อย่าลืมกดไลค์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ 🤩
โฆษณา