1 ส.ค. 2023 เวลา 11:19 • สัตว์เลี้ยง

กระต่ายเลี้ยงง่ายจริงหรือไม่

หลายคนมักเข้าใจว่ากระต่ายเลี้ยงไม่ยาก
บ้านลาแปงเคยถูกตั้งคำถามด้วยประโยคที่ว่า “กระต่ายเลี้ยงง่ายไหมนะ” และคำตอบที่ได้จากหลายๆ คนก็มักจะคิดว่า “เลี้ยงไม่ยากหรอก” ซึ่งความคิดเห็นในหลายๆ แง่มุมไม่ผิดที่จะคิดว่ากระต่ายนั้นดูผิวเผินแล้วน่าจะเลี้ยงไม่ยาก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่คิดว่า การจะเลี้ยงกระต่ายสักตัว เป็นเรื่องยาก แต่ลึกๆ ก็อยากเลี้ยงมากๆ ซึ่งหลายคนคิดแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ (จากที่ได้พบมานะคะ)
ภาพลักษณ์ของกระต่ายโดยทีั่วไปเรามักจะเห็็นแล้วรู้สึกหลงรักในทันที เพราะความน่ารัก ตัวเล็ก น่ากอด ทำให้รู้สึกว่าอยากเลี้ยง
แต่หลายคนมักจะลืมไปในชั่วขณะหนึ่งว่า “กระต่ายคือสัตว์พิเศษ” ที่ควรอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนรับเลี้ยงอย่างจริงจัง เพราะกระต่ายแท้จริงแล้ว ภายนอกอาจดูบอบบาง แต่ก็แฝงความกล้าหาญอยู่ในตัวเอง ยามป่วยจะทำให้เราถึงกับหดหู่ เศร้าใจ กินข้าวกินปลาไม่ลงกันเลยทีเดียว แต่ถ้ายามที่เค้ามีสุขภาพดี แข็งแรงไม่ป่วย กระต่ายสามารถทำให้เรามีเรี่ยวแรง อยากเคลื่อนไหว สดชื่น ยิ้มและหัวเราะแบบไม่รู้ตัวอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน
ในทางการแพทย์กระต่ายจัดอยู่ในสัตว์ของกลุ่ม “นักบำบัดหรือนักฟื้นฟูสภาพจิตใจของมนุษย์” เห็็นแบบนี้ สามารถช่วยให้เรามีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อยู่ให้ดีขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ
การเลี้ยงกระต่าย ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ถ้าศึกษาข้อมูลการรับเลี้ยง
ถ้าเป็นคนช่างสังเกตุ
ถ้ามีเวลาให้ในทุกๆวัน
ถ้าเป็นคนอยู่ติดบ้าน
ถ้าเป็นคนมีเพื่อนน้อย
ถ้าชอบอยู่กับธรรมชาติ
ถ้าเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว
ถ้าเห็นเค้าเป็นสมาชิกในครอบครัว
ถ้าคุณมีข้อต่างๆ ที่บอกมาข้างต้น คุณก็ผ่านเงื่อนไขมาได้ขั้นหนึ่งแล้วนะคะ แต่ยังมีอีกหลายขั้นที่ยังต้องผ่านด่านต่อไป อาทิเช่่น เมื่อกระต่ายป่วย ต้องพบแพทย์เฉพาะทาง บอกเลยว่าค่าใช้จ่ายนั้นหนักเอาเรื่องพอสมควร และการรักษากระต่าย แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแล้วจบไป
แต่ยังมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งค่าใช้จ่ายก็สูงตามครั้งที่รักษาไปด้วย แต่ถ้าหากกระต่ายสุขภาพแข็งแรงดีล่ะ จะเสียค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนั้นไหม? ตอบได้เลยว่า ไม่ค่ะ เพราะถ้าหากศึกษาข้อมูลก่อนเลี้ยงกระต่าย จะรู้ว่าการรับกระต่ายที่หย่านมแล้วนั้น มีชัยไปกว่าครึ่งเลยนะคะ เพราะกระต่ายได้รับสารอาหารจากนมแม่ นั่นหมายความว่าภูมิคุ้มกันจากนมแม่ ทำให้ลูกกระต่ายที่หย่านมตามธรรมชาตินั้น จะมีสุขภาพที่ค่อนข้างแข็งแรงและไม่ป่วยง่ายนั่นเองค่ะ
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ากระต่ายหย่านมแล้วหรือยัง?
การรับกระต่ายมาเลี้ยงนั้น ควรหาข้อมูลจากฟาร์มที่น่าเชื่อถือจะดีที่สุดนะคะ เพราะเค้าจะมีการันตีสายเลือด และผ่านการดูแลอย่างถูกวิธีก่อนที่ลูกกระต่ายจะย้ายบ้านใหม่ นั่นแปลว่ากระต่ายที่เกิดใหม่จะถูกดูแลอย่างถูกวิธีจากฟาร์มที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และเมื่อลูกกระต่ายมีอายุครบ 2 เดือนก็สามารถย้ายบ้านใหม่ได้แล้ว เท่ากับลูกกระต่ายที่หย่านมแล้วนั้น ต้องมีอายุครบ 2 เดือนขึ้นไปนะคะ
รับลูกกระต่ายมาแล้วต้องตรวจสุขภาพหรือไม่?
กระต่ายที่มีอายุครบ 2 เดือนแล้วสามารถพาเข้าไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจสุขภาพได้ตามปกติเลยนะคะ ซึ่งคุณหมอเค้าจะมีวิธีตรวจสุขภาพอย่างละเอียดเลย อันนี้หายห่วงนะคะ แต่แนะนำว่าควรต้องเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลสำหรับสีัตว์ Exotic จะดีกว่าเพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Exotic ดังนั้นแนะนำว่า ควรพบแพทย์เฉพาะทางจะตรงกลุ่มเลยค่ะ
หลังรับกระต่ายมาแล้วควรต้องเตรียมที่อยู่ยังไง?
หลายคนยังไม่ค่อยรู้ว่ากระต่ายกินอยู่ ใช้ชีวิตอย่างไร มาค่ะ! จะเล่าให้ฟัง กระต่ายเค้าเป็นสัตว์ที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่มากมายสำหรับการใช้ชีวิตนะคะ เพราะเนื่องจากตัวเล็ก อุปกรณ์สำคัญจะมีกรง รางหญ้า รางเม็ดหรือถ้วยเม็ดตามสะดวก และห้องน้ำค่ะ
กระต่ายใช้ห้องน้ำเป็นนะคะ ถ้าเราฝึกเค้า ส่วนใหญ่จะก็ฝึกได้ แต่ก็มีหลายบ้านที่ฝึกไม่ได้จนต้องยอมแพ้ แต่สำหรับบ้านลาแปง เราฝึกให้กระต่ายของเราเข้าห้องน้ำได้ทั้งคู่เลยค่ะ ไว้จะบอกวิธีการฝึกกระต่ายเข้าห้องน้ำในตอนต่อไปนะคะ
อุปกรณ์จำเป็นหลักๆ ของกระต่ายจะมีเท่านึ้เองนะคะ ส่วนคอกที่หลายคนอาจเคยเห็นนั้น เป็นสิ่งจำเป็นรองลงมา ซึ่งถ้าบ้านไหนมีพื้นที่ในบ้านที่ค่อนข้างมิดชิด สามารถปล่อยกระต่ายวิ่งเล่นได้โดยไม่มีอันตรายจากน้องแมวหรือพี่หมา ก็ไม่จำเป็นต้องมีคอกนะคะ แต่ถ้าบ้านไหนต้องการจำกัดพื้นที่ สามารถใช้คอกเพื่อจำกัดพื้นที่ให้กระต่ายวิ่งเล่นได้เช่นกันค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติคร่าวๆ ถ้าคุณมี ก็สามารถเลี้ยงกระต่ายได้ไม่ยากเลยค่ะ ดูเหมือนเงื่อนไขจะเยอะ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้ารับมาเลี้ยงแล้ว คุณจะกลายเป็็นคนที่ได้รับการสนใจ ใส่ใจ และจะไม่เหงาอีกต่อไป เพราะคุณจะกลายเป็นโลกทั้งใบของหางปุยตัวเล็กๆ อย่างคาดไม่ถึงเลยค่ะ
ประสบการณ์นอกตำราโดย
Lapincute Stories
โฆษณา