ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับนักเรียนในระดับมัธยม ทั้งในและนอกห้องเรียน มีผลอย่างไร
1. ขณะครูสอน นักเรียนขาดความสนใจ ไม่คิดตามเรื่องที่ได้ฟังจากครู ไม่มีปฏืสัมพันธ์ใดๆ กับครูผู้สอน ใจจะจดจ่ออยู่กับเมื่อไรจะได้ใช้โทรศัพท์ อยากดูยูทูป อยากแช็ทกับเพื่อน กับคนที่กำลังคบหาดูใจกัน บางครั้งถ้ามีวิชาใดที่ห้ามใช้มือถือ นักเรียนก็จะคอยห่วง ก้มดูใต้โต๊ะที่เก็บโทรศัพทืไว้
2. ขณะกำลังเรียน นักเรียนบางคน ขอรับโทรศัพท์จากพอ แม่ ซึ่งครูไม่สามารถทราบได้ว่าบุคคลที่โทรฯมาตามที่นักเรียนกล่าวอ้าง เป็น พ่อ แม่ จริงหรือไม่ และสาเหตุที่ต้องโทรมาตอนที่กำลังเรียนคืออะไร ทำให้นักเรียนไม่สนใจที่จะเรียน
ไม่รับรู้สิ่งใด ใจจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์
3. สิ่งที่นักเรียนดูหรืออ่านในโทรศัพท์ 80 เปอร์เซ็นต์ จะไม่ใช่ความรู้ ที่ทำให้ประเทืองปัญญา แต่ส่วนใหญ่จากการที่สังเกต หรือพูดคุยกับนักเรียน พวกเขาจะ
ติดเกมส์ หรือดูเรื่องราวที่ไม่มีสาระเท่าที่ควรจะเป็น
4. นักเรียนจะไม่ทำงานในชั่วโมงเรียน แต่ชอบให้เหตุผลว่า เดี๋ยวถ่ายรูปไว้ไปทำที่บ้าน สุดท้ายนักเรียนตนนั้นก็ไม่มีงานส่งครู เพราะลืมเป็นเหตุผลยอดนิยม แต่ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆกำลังทำงาน นักเรียนที่ถ่ายไปทำที่บ้าน ก็จะหาโอกาสหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาใช้ทำสิ่งอื่นๆพร้อมด้วย
5. นักเรียนส่วนใหญ่จะนอนดึก สาเหตุที่พบส่วนใหญ่ จะบอกว่าแช็ทกับเพื่อนดึก
หรือในเด็กชายส่วนใหญ่จะมีการเล่นเกมส์จนดึก ทำให้สุขภาพไม่ดี มีอาการง่วงนอน
ใจลอย หรือหลับในเวลาเรียน ตลอดจนทำให้ไม่สามารถจะรับรู้สิ่งที่ครูสอนได้
6. นักเรียนหลายคนเกิดข้อพิพาทกัน เนื่องจากขัดแย้งกันในโลกโซเชียล ซึ่งบางครั้งบางคนอาจไม่เคยพบ ไม่เคยรู้จักกัน แต่ทะเลาะ ขัดแย้งกันจากการสื่อสารกันในโลกโซเชียล
7. นักเรียนจะไม่อ่านหนังสือ นักเรียนจะดู จะฟัง เรื่องราวในโลกโซเชียลเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความรวดเร็ว จนทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ ไม่มีสมาธิในการเรียน
การใช้สมาร์ทโฟนของเด็กในวัยมัธยม ทำให้เกิดผลเสียต่อเด็กและระบบการเรียนของเด็ก หรืออาจกล่าวได้ว่ามีผลเสีย มากกว่าผลดี ส่งผลไปถึงความสามารถในการเรียนรู้ ระดับสติปัญญาที่แย่ลง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
