1 ส.ค. 2023 เวลา 18:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ซื้อหุ้น Google ลงทุนในธุรกิจที่แตกต่างและเติบโตของ Cloud และ AI

การลงทุนในบริษัท Google ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย Google เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจมากมาย เช่น Google Search Engine, Gmail, Google Maps, YouTube เป็นต้น บริษัท Google อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทแม่คือ Alphabet
ความน่าสนใจของ Google คือ เป็นอันดับ 1 ในธุรกิจ Search Engine ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 93% ทั่วโลก มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีผู้ใช้งานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ทำให้มีโอกาสเติบโตในธุรกิจใหม่ เช่น Cloud และ AI เป็นต้น
นักลงทุนไทยสามารถซื้อหุ้น Google ได้แล้วผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทยด้วยตัวเลือกทางการเงินใหม่ ที่ยืดหยุ่น คือ DRx ที่ให้ผู้ลงทุนมีโอกาสลงทุนด้วยเงินน้อย สามารถส่งคำสั่งเป็นเงินบาทซื้อขายหุ้นได้ตามเวลาตลาดหุ้นสหรัฐฯ และลงทุนง่ายด้วยแอปพลิเคชัน Streaming
การลงทุนในบริษัท Google เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่สนใจในธุรกิจเทคโนโลยีและความเป็นเลิศทางด้านนวัตกรรม ด้วยสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยม และโอกาสในการเติบโตในธุรกิจใหม่เช่น Cloud และ AI นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้น Google ยังสามารถทำได้ผ่านการซื้อขาย DRx ในตลาดหลักทรัพย์ไทยซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกและยืดหยุ่น สำหรับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนน้อย ความน่าสนใจของบริษัท Google และโอกาสที่สามารถลงทุนในนั้นสร้างความน่าสนใจในตลาดการลงทุนในประเทศไทย
Alphabet ทำธุรกิจอะไรบ้าง?
หากอ้างอิงจากงบการเงินปี 2022 จะสามารถแบ่งตามประเภทธุรกิจได้ดังนี้
ที่มา : Bloomberg(ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2023)
**รายได้ของบริษัท Alphabet ปีงบการเงิน 2022: การครองตลาดด้านดิจิทัลและก้าวสู่ภูมิภาคคลาวด์**
ปี 2022 เป็นปีที่สำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับบริษัท Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ที่มีบทบาทที่สำคัญในอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีของโลก บริษัท Alphabet ตั้งอยู่ภายใต้บริหารงานของผู้ก่อตั้งเช่นเดิม คือ Larry Page และ Sergey Brin ที่ตัดสินใจจัดตั้ง Alphabet ขึ้นเพื่อเป็นโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและทำให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
**1. Google Services & Other (90%)**
สัดส่วนรายได้ในส่วนนี้ทำให้บริษัท Alphabet ครองตำแหน่งเป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลที่มีรายได้สูงสุด ซึ่งมาจากสามส่วนหลัก ดังนี้:
**1.1 รายได้จากค่าโฆษณาบนเว็บไซต์ของ Google**
ส่วนใหญ่ของรายได้ในส่วนนี้มาจากธุรกิจการค้นหาของ Google ซึ่งกลุ่มคนที่ใช้บริการนี้มีจำนวนมาก โดยค่าโฆษณาที่ปรากฏบนผลการค้นหาทำให้ผู้ลงโฆษณาต้องชำระค่าบริการเพื่อให้ปรากฏตัวอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของ Google ซึ่งมีการกำหนดราคาโฆษณาตามคำค้นหาที่มีความนิยม นอกจากนี้ยังรวมถึงโฆษณาใน YouTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ชมหน้ากว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งทำให้มีการลงโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
**1.2 รายได้จากค่าโฆษณาในบริการ Adsense Network**
รายได้ในส่วนนี้มาจากค่าโฆษณาที่ปรากฏในเว็บไซต์ที่เป็นพาร์เนอร์กับ Google การโฆษณาที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของพาร์เนอร์นั้นส่วนใหญ่จะแสดงโฆษณาแบบเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับบริษัท Alphabet
**1.3 รายได้อื่น ๆ**
นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น ๆ ที่มาจากผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล อาทิเช่น รายได้จากค่าสมาชิก Premium ใน YouTube ที่มีความสามารถในการติดตามและดูเนื้อหาที่ไม่มีโฆษณา รายได้จากการขาย Application ใน Google Play รวมถึงรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือ Pixel ที่ผลิตโดยบริษัท Alphabet
**2. Google Cloud (9%)**
บริษัท Alphabet ยังมีส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเซิร์ฟเวอร์และการให้บริการคลาวด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว Google Cloud Platform (GCP) ที่เป็นพื้น
ที่คลาวด์เพื่อให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการฐานข้อมูล สำหรับธุรกิจและผู้ใช้งานที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการข้อมูล นอกจากนี้ยังมีบริการควบคู่อย่าง Google Workspace (เดิมคือ G Suite) ซึ่งให้บริการในด้านการทำงานแบบคลาวด์ให้กับธุรกิจและองค์กร ซึ่งทำให้กลุ่มสินค้าและบริการในส่วนนี้มีความน่าสนใจในท้องตลาดและสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัท
**3. Other (1%)**
ส่วนนี้รายได้มาจากธุรกิจอื่นๆ และกำไร/ขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อาจเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่อยู่ภายใต้บริษัท Alphabet ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดิจิทัลและกลุ่มสินค้าคลาวด์ที่กล่าวถึงข้างต้น
**สรุป**
บทความนี้ได้วิเคราะห์สัดส่วนรายได้ของบริษัท Alphabet ปีงบการเงิน 2022 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจดิจิทัลของ Google ที่ครองตลาดด้านค้นหา และมีรายได้จากธุรกิจคลาวด์ที่ก่อตั้งในบริษัท Alphabet เพื่อให้มีความคล่องตัวและความเป็นอิสระในการจัดการกับธุรกิจ รวมถึงสามารถทำกิจกรรมในธุรกิจอื่นๆ ได้ ซึ่งทำให้บริษัท Alphabet กลายเป็นบริษัทดังและเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของดิจิทัลและเทคโนโลยีนั้นเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว การแข่งขันในตลาดดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง บริษัท Alphabet ต้องทำการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียดและพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในยุคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การสร้างรายได้จากธุรกิจคลาวด์ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญในการส่งเสริมให้บริษัท Alphabet คงความน่าสนใจและเป็นที่นิยมต่อองค์กรและนักลงทุนในอนาคต
ที่มา : Bloomberg(ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2023)
การวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัท Alphabet ในปี 2023 และแนวโน้มในปี 2024 จำเป็นต้องพิจารณาความเปลี่ยนแปลงและปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทในอนาคต:
ในปี 2023:
1. แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก: ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มการชะลอตัวหรือไม่เติบโตอย่างเร่งด่วน อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่ให้บริการโฆษณาและคลาวด์ โดยอาจทำให้ลูกค้าลดการใช้จ่ายในการโฆษณาและการเปิดใช้บริการคลาวด์ เนื่องจากการลดรายจ่ายในธุรกิจ
2. แข่งขันในธุรกิจสตรีมมิ่ง: บริษัท YouTube อาจเจอกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจสตรีมมิ่งจากแอพพลิเคชันอื่น ๆ เช่น TikTok ซึ่งมีความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้ที่สามารถกระทำการสตรีมมิ่งสด
ในปี 2024:
1. ธุรกิจการค้นหาและ YouTube ฟื้นตัว: ธุรกิจการค้นหาของ Google และบริการ YouTube อาจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมั่นคง เนื่องจากมีฐานผู้ใช้ที่กว้างขวางและยังคงมีความนิยมในการใช้บริการนี้ โดยอาจเสริมสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปี 2024
2. นวัตกรรม Generative AI: คาดว่าบริษัท Alphabet อาจนำเทคโนโลยี Generative AI เข้าไปใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพและสร้างการน่าสนใจให้กับบริการของพวกเขา อาจสร้างรายได้ใหม่จากการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในธุรกิจของพวกเขา
**สรุป**
การวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัท Alphabet ในปี 2023 และแนวโน้มในปี 2024 นั้นแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ชะลอตัวในปี 2023 เนื่องจากแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจสตรีมมิ่ง อย่างไรก็ดี มีโอกาสที่ผลประกอบการของ Alphabet จะฟื้นตัวในปี 2024 ด้วยแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจการค้นหาและ YouTube ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังคงมีความนิยมและความสำเร็จในกลุ่มผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่เทคโนโลยี Generative AI อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับบริษัทในอนาคต
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจของบริษัท Alphabet
1. คือความเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจ Search Engine ที่มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 93% ทั่วโลก ซึ่งสร้างรายได้และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมีโครงข่ายผู้ใช้งานขนาดใหญ่และมีฐานข้อมูลที่มีข้อมูลจำนวนมาก ที่สามารถนำมาใช้พัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีในการเผยแพร่โฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้า
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ การมีฐานข้อมูลที่ใหญ่และครอบคลุมยิ่งให้โอกาสในการนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเข้ามาใช้ อย่างเช่น การนำเทคโนโลยี Generative AI เข้าไปใช้เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและความสามารถในการให้บริการของพวกเขา
นอกจากนี้ ตัว Alphabet ยังคงความนิยมของผู้ใช้งานที่สูงอยู่ ดังโครงข่ายการค้นหาของ Google Search Engine ที่มีผู้ใช้ค้นหาข้อมูลจำนวนมากถึง 99,000 ครั้งต่อวินาทีหรือ 8,500 ล้านครั้งต่อวัน ความนิยมในบริการ YouTube ที่ยังคงมีกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้ที่กว้างขวางและความนิยมในการสตรีมมิ่งก็ยังคงคงไว้ซึ่งเป็นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในบริษัทนี้
แต่ควรระมัดระวังในเรื่องของแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจสตรีมมิ่ง ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ YouTube ซึ่งอาจทำให้ต้องใช้กลยุทธ์เพิ่มเติมในการดึงดูดผู้ชมและรักษาลูกค้า เพื่อให้ยังคงควบคุมตลาดในส่วนนี้ นอกจากนี้ควรคำนึงถึงสภาพความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในธุรกิจโฆษณาและคลาวด์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความผันผวนในรายได้ของบริษัทในช่วงเวลาที่มา
สรุปคือ การลงทุนในบริษัท Alphabet มีโอกาสที่ดีในการเติบโตในธุรกิจการค้นหาและ YouTube ซึ่งมีความนิยมและมีโครงข่ายผู้ใช้งานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี ควรระมัดระวังในเรื่องของแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจสตรีมมิ่งและปัจจัยเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ในช่วงเวลาที่มา และควรตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมสร้างประสิทธิภาพและความสามารถในการให้บริการของบริษัทในอนาคต
ที่มา : Bloomberg(ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2023)
2. การมี Ecosystem หลากหลายของบริษัท Alphabet
เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโฆษณาของพวกเขา โดยการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีผู้ใช้งานจำนวนมาก เช่น Gmail, Google Maps, YouTube เป็นต้น ช่วยสร้างความผูกพันของลูกค้า และทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งานได้เป็นจำนวนมาก เช่น พฤติกรรมการค้นหา การตั้งค่าวิดีโอ ความสนใจเนื้อหา เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณาและเพิ่มรายได้ของบริษัทได้
นอกจากนี้ การมีฐานข้อมูลจำนวนมากเมื่อต้องการขยายกิจการไปยังอุตสาหกรรมใหม่เป็นประโยชน์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเตรียมพร้อมและมีแนวทางที่เหมาะสมในการขยายธุรกิจ ยิ่งในช่วงที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาด และยังช่วยเป็นเกราะป้องกันบริษัทจากคู่แข่งที่จะเข้ามาทำธุรกิจคล้ายกัน นั่นคือการสร้าง Barriers to Entry ในตลาด
ซึ่งทำให้คู่แข่งที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจต้องใช้เงินลงทุนมากๆ และยากที่จะเข้าถึงลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ของบริษัท Alphabet ทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งการตลาดโฆษณาแบบดิจิทัลเป็นอันดับ 1 ของโลกที่สัดส่วน 28% ในปี 2022
การคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus ที่เผยว่ารายได้จากค่าโฆษณาของ Google จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 9.5% ในช่วงปี 2023 – 2026 ยังเป็นสัญญาณที่ดีในการลงทุนในบริษัทนี้ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลาที่คาดการณ์ว่าตลาดโฆษณาและคลาวด์จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าบริษัท Alphabet มีโอกาสในการนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเข้ามาใช้ อาจทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมีความสำเร็จในอนาคต ในสิ่งนี้สามารถเป็นแนวทางที่น่าสนใจในการลงทุนในบริษัท Alphabet ในช่วงเวลาที่กำลังจะเข้าสู่ปี 2023
ที่มา : Bloomberg(ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2023)
3. นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นแนวหน้าของอุตสาหกรรม
บริษัท Alphabet เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนาในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ตัวอย่างที่มีนักลงทุนในอุตสาหกรรมต้องให้ความสำคัญคือ "Waymo" ซึ่งเป็นธุรกิจเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และ "Generative AI" หรือชื่อที่เรียกว่า "Bard" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสร้าง AI ที่สามารถสร้างข้อมูลและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ได้
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัวโมเดล AI ชื่อ "PALM 2" ที่มีความสามารถในด้านภาษาและได้รับการอัปเดต ความคืบหน้าของ Bard AI ที่จะเพิ่มการใช้งานใน 180 ประเทศทั่วโลก และนำมาประยุกต์ใช้ใน Search Engine, Gmail, Docs ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังคงเสริมสร้างโอกาสในการเติบโตของบริษัทในอนาคต
4. โอกาสเติบโตของธุรกิจ Cloud ในตลาดเกิดใหม่
บริษัท Google มีโอกาสเติบโตในตลาดเกิดใหม่ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากมีการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานจากหลายประเทศซึ่งสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ Cloud ของตัวเองในตลาดที่กำลังเติบโต ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลจากตลาดต่างประเทศช่วยสร้างโอกาสในการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในประเทศนั้นๆ ซึ่งอาจทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการ Cloud อื่นๆ ที่อาจต้องใช้งบประมาณในการสำรวจตลาดก่อนที่จะขยายธุรกิจในแต่ละประเทศ
คาดการณ์จาก Bloomberg Consensus เผยว่ารายได้ธุรกิจ Cloud ของ Google จะเติบโตเฉลี่ย 21.6% ในช่วงปี 2023 - 2026 ที่มีโอกาสสร้างความเป็นเลิศในธุรกิจ Cloud และเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต
5. โอกาสลงทุนหุ้น Alphabet ผ่านตลาดหุ้นไทย
การลงทุนในหุ้น Alphabet ผ่านตลาดหุ้นไทยสามารถทำได้ผ่านการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DRx) ที่ธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยนำเสนอ โดย DRx จะเป็นสิทธิในการลงทุนในหุ้น Alphabet และนักลงทุนสา
มารถซื้อขาย DRx ในตลาดหุ้นไทย โดยไม่ต้องลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศโดยตรง มีความสะดวกสบายและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทในต่างประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถซื้อขาย DRx ตามเวลาทำการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งจะสอดคล้องกับการซื้อขายหุ้น Alphabet ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แนสแด็ก (Nasdaq) สหรัฐอเมริกา ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน DRx ได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน Streaming และไม่ต้องยุ่งยากในกระบวนการเปิดบัญชีย่อยเพิ่มเติม การลงทุนใน DRx นั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนในบริษัท Alphabet ผ่านตลาดหุ้นไทย
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
โฆษณา