- MUJI เพิ่มสัดส่วนสินค้าราคาไม่เกิน 300 บาทเป็น 53% ของร้าน -
1) แบรนด์ MUJI (มูจิ) มี ‘pain point’ อย่างหนึ่งที่พยายามแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง คือการเป็นแบรนด์ที่มีภาพจำว่า “แพง” ทำให้แบรนด์เริ่มปรับลดราคาสินค้ามาตั้งแต่ปี 2563
2) จนปี 2565 ร้านเริ่มมีการจัดโซนสินค้า “ราคาไม่เกิน 300 บาท” ในบางสาขา เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า ของราคาจับต้องได้ก็มีใน MUJI และประเมินว่าร้านมีสินค้าราคาจับต้องได้นี้ประมาณ 50%
3) ปีนี้ “มาซาชิ โอกะ” ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายจัดซื้อ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศว่าล่าสุด MUJI ขยายจำนวนสินค้าราคาไม่เกิน 300 บาทขึ้นเป็น 1,500 รายการ และคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็น 53% ของร้านแล้ว
4) สินค้าที่อยู่ในกลุ่มราคาไม่เกิน 300 บาท จะเป็นของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน สามารถกลับมาซื้อซ้ำได้อีก เพราะ MUJI ต้องการให้ร้านเป็นเหมือนร้านประจำของการซื้อของใช้ทั่วไป
5) สำหรับกลุ่มที่มีสัดส่วนสินค้าราคาไม่เกิน 300 บาทมากที่สุด ได้แก่
- เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน (82%) เช่น ปากกา สมุด
- เครื่องครัว (70%) เช่น ตะหลิว ทัพพี
- สุขภาพและความงาม (65%) เช่น สำลี ที่ดัดขนตา
- เสื้อยืด ถุงเท้า ชุดชั้นใน ชุดนอน (40%)
- เครื่องนอน (22%) เช่น ปลอกหมอน
- อุปกรณ์จัดระเบียบ (8%)
นอกจากนี้ สินค้าใน MUJI Food และ Coffee Corner จะมีราคาไม่เกิน 300 บาททั้งหมด
6) ตัวอย่างสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันที่มีราคาจับต้องได้ และลูกค้าชื่นชอบซื้อซ้ำบ่อย เช่น ที่ดัดขนตาพกพา (150 บาท), สำลีฝ้ายออร์แกนิก (99 บาท), ถุงเท้า (119 บาท), ขนมบามคูเฮน (69 บาท), ขวดน้ำพลาสติกไททัน (190 บาท) เป็นต้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
