Blockdit Logo (Mobile)
Legal Vibes
•
4 ส.ค. 2023 เวลา 00:30 • ประวัติศาสตร์

The Dreyfus Affair ความยุติธรรมที่ถูกแย้งชิง ของ Alfred Dreyfus

The Dreyfus Affair คือ เรื่องราวของความอยุติธรรมที่ชายคนหนึ่งต้องเผชิญ อันมีที่มาจากการถูกกลั่นแกล้งและการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นำมาซึ่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมและการเมืองของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
1
ขอเชิญทุกท่านพบกับเรื่องราวของ Alfred Dreyfus ผ่านคำบรรยายและรูปภาพต่างๆ ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
นาย Alfred Dreyfus เกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ.1859 ที่เมือง Mulhouse ประเทศฝรั่งเศส ในครอบครัวชาวยิวที่ร่ำรวยจากการทำธุรกิจสิ่งทอ หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนทหาร École Polytechnique ในปารีส Dreyfus ได้เริ่มทำงานในกองทัพแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 และไต่เต้าเรื่อยมาจนได้ประดับยศร้อยเอก
รูปภาพ : เมือง Mulhouse ในปัจจุบัน
แต่แล้วอนาคตทางการงานที่ดูจะสดใสของ Dreyfus ก็ต้องดับวูบลง เมื่อแม่บ้านชาวฝรั่งเศสที่ทำงานอยู่ในสถานเอกอัครราชทูตเยอรมันประจำฝรั่งเศสได้พบเข้ากับเศษกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีลายมือเขียนข้อความซึ่งเป็นความลับทางการทหารของฝรั่งเศส ถูกทิ้งลงในถังขยะของสถานทูต
เศษกระดาษดังกล่าวถูกส่งต่อไปให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองฝรั่งเศส เป็นเหตุให้เกิดการสืบสวนจนนำไปสู่การกล่าวหา Dreyfus ว่า เป็นผู้ที่ขายความลับของกองทัพฝรั่งเศสให้กับเยอรมัน
รูปภาพ : Alfred Dreyfus ในเครื่องแบบทหารกองทัพแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3
Dreyfus ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ.1889 และถูกนำตัวมาขึ้นศาลในเวลาต่อมา โดยในการพิจารณาคดี Dreyfus ได้ให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการดังที่ถูกกล่าวหา ในที่สุดภายในเวลาเพียง 3 เดือนเศษหลังจากที่ Dreyfus ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.1889 ศาลก็ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก Dreyfus ตลอดชีวิต และส่ง Dreyfus ไปจำคุกที่เกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่ง French Guiana
นอกจากนี้ ตามธรรมเนียมของกองทัพฝรั่งเศสในขณะนั้น Dreyfus ต้องเข้าสู่พิธีการถอดยศ ที่ซึ่งเขาถูกดึงเอาเครื่องหมายและเหรียญตราต่างๆ ที่เคยได้รับมาออกจากเครื่องแบบ และดาบประจำตัวของเขาถูกนำมาหักออกเป็น 2 ท่อน ต่อหน้าฝูงชนชาวฝรั่งเศสจำนวนมากที่ได้ตะโกนสาปแช่งเขาต่างๆ นาๆ โดยในขณะที่มีการดำเนินพิธีการดังกล่าว Dreyfus ได้ตะโกนขึ้นว่า “ข้าพเจ้าคือผู้บริสุทธิ์ ฝรั่งเศสจงเจริญ กองทัพจงเจริญ”
ซ้ำร้าย Dreyfus ยังถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการโฆษณาชวนเชื่อของนักหนังสือพิมพ์ที่มีแนวความคิดต่อต้านชาวยิว ด้วยการเปรียบ Dreyfus ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความไม่จงรักภักดีของชาวยิวฝรั่งเศสอีกด้วย
1
รูปภาพ : การพิจารณาคดีของ Alfred Dreyfus
แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่อาจจบลงได้ง่ายๆ เนื่องจากในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1896 พันโท Georges Picquart หัวหน้าหน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสในขณะนั้น ได้พบหลักฐานใหม่ที่เชื่อได้ว่า พันเอก Ferdinand Walsin-Esterhazy มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยความลับทางการทหารของกองทัพฝรั่งเศสไปขายให้เยอรมัน ทั้งยังพบว่าเจ้าของลายมือบนเศากระดาษที่นำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับ Dreyfus นั้น แท้จริงแล้วก็คือ พันเอก Esterhazy นั่นเอง รัฐบาลฝรั่งเศสจึงได้ตอบแทนความดีความชอบของพันโท Picquart ด้วยการย้ายเขาออกไปให้พ้นๆ จากตำแหน่งเดิม
แม้พันโท Picquart จะถูกย้ายตำแหน่งไปแล้ว แต่ข่าวคราวการค้นพบหลักฐานชิ้นใหม่นี้ก็มิอาจถูกปิดไว้ได้มิด ข่าวการค้นพบหลักฐานดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไปจนถึงหูของสื่อมวลชนและถึงหูของประชาชนในเวลาต่อมา เป็นเหตุให้เกิดกลุ่มผู้สนับสนุนซึ่งเชื่อในความบริสุทธิ์ของ Dreyfus
รูปภาพ : พันโท Georges Picquart
เมื่อเวลาผ่านไปโดยที่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลฝรั่งเศส ก็ยิ่งทำให้กลุ่มผู้สนับสนุน Dreyfus ขยายตัวขึ้นอย่างมากก และหนึ่งในนั้น คือ นักเขียนชื่อดัง Émile Zola
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 1898 Zola ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิปดีฝรั่งเศส ตีพิมพ์ลงในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ L’Aurore กล่าวหาว่า กองทัพฝรั่งเศสมีส่วนเกี่ยวข้องในการปกปิดความผิดพลาดในการสืบสวนคดีของ Dreyfus ด้วยเหตุนี้เองจึงเรื่องราวของ Dreyfus เป็นที่รับรู้และวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชนในวงกว้างมากขึ้นไปอีก
รูปภาพ : จดหมายเปิดผนึกของ Émile Zola ในหนังสือพิมพ์ L’Aurore
ด้วยแรงกดดันจากประชาชนชาวฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1899 Dreyfus จึงถูกนำตัวกลับมาขึ้นศาลเพื่อทำการพิจารณาคดีของเขาใหม่อีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นศาลก็ยังคงมีคำพิพากษาว่าเขามีความผิดอยู่เช่นเดิม อย่างไรก็ดีในคราวนี้ Dreyfus ได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดี จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1906 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาว่า Dreyfus เป็นผู้บริสุทธิ์
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด Dreyfus ได้กลับเข้ารับราชการในกองทัพฝรั่งเศสอีกครั้ง จนกระทั่งเขาเกษียณอายุด้วยยศพันเอก ก่อนจะถูกเรียกตัวให้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
หลังสิ้นสุดสงคราม Dreyfus ได้กลับไปใช้ชีวิตที่เหลือกับครอบครัวอย่างสงบ และเสียชีวิตลงในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ.1935
รูปภาพ : Alfred Dreyfus และครอบครัว
โฆษณา