3 ส.ค. 2023 เวลา 15:39 • ท่องเที่ยว
Fuji Motor Sports Museum

FUJI MOTORSPORTS MUSEUM สวรรค์ของคนรักมอเตอร์สปอร์ต

Fuji Motorsports Museum สวรรค์ของคนรักมอเตอร์สปอร์ต ถ้าเราถามว่า ถ้าให้คิดถึงประเทศญี่ปุ่น คุณจะคิดถึงอะไร เชื่อว่าหลายท่านคงจะคิดถึง อาหารอันแสนอร่อย อากาศที่เย็นสบาย ย่านช็อปปิ้งสุดมันส์ ธรรมชาติที่งดงาม แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักอีกหนึ่งสถานที่ ที่สำหรับคนรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะการแข่งขันรถยนต์ไม่ควรพลาด ผมว่าต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต Fuji Motorsports Museum เพราะคุณจะได้เห็นรถโมเดลที่คุณสะสม กลายเป็นคันจริงๆอยู่ตรงหน้าคุณ
พิพิธภัณฑ์ Fuji Motorsports Museum เป็นสถานที่รวบรวมเอาประวัติศาสตร์แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกยาวนานกว่า 130 ปีมาไว้ที่นี้
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ภายในโรงแรม Fuji Speed Way เริ่มเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เป็นพิพิธภัณฑ์ และโรงแรมแห่งแรกแห่งเดียวอยู่ติดกับสนามแข่ง ฟูจิ อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์
การเดินทาง ไม่ยากอย่างที่คิดสามารถขึ้นไฮเวย์บัสจากสถานีชินจุกุ หรือสถานีโตเกียวได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง มาลงที่ JR Gotemba แล้วเดินไปที่ชานชลา 5 ของรถบัสเป็น Fujikyuu Bus ลงที่ป้ายรถประจำทาง Fuji Speedway West Gate ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
พิพิธภัณฑ์ ฟูจิ มอเตอร์สปอร์ต เปิดทำการทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (เฉพาะช่วง 1 ปีแรกนับจากเริ่มเปิดให้เข้าชม) โดยผู้สนใจสามารถจองบัตรเข้าชมล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ https://fuji-motorsports-museum.jp/en/ อัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) วันธรรมดาอยู่ที่ 1,800 เยน (จองล่วงหน้าเหลือ 1,600 เยน)
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์อยู่ที่ 2,000 เยน (จองล่วงหน้าเหลือ 1,800 เยน) รวมถึงมีอัตราพิเศษสำหรับนักเรียนประถม-มัธยม, ผู้พิการ และผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์
Toyota 7
Motorsports Museum
เขามาที่ภายในต้อนรับโดยรถแข่ง Toyota 7 โครงการความรวมมือระหว่างโตโยต้ากับยามาฮ่าในช่วงกลางทศวรรษ 1960 เพื่อแข่งขันรายการ Japan Grand Prix และ Can-Am ซีรีส์ เสร็จสิ้นเป็นรถแข่งคันจริงในปี 1970 มีกำลัง 800 แรงม้า สแกนตั๋วเดินเข้าด้านในมีการแบ่งยุคสมัยต่างๆรถแข่งตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของมอเตอร์สปอร์ต รถแข่งประเภทต่างๆที่แบ่งไว้อย่างชัดเจนให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด ภายในพิพิธภัณฑ์ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นการจัดแสดงรถแข่งในยุคเริ่มต้นรถเด่นๆในชั้นนี้มีมากมายหลากหลายรุ่น อาทิ
PANHARD ET LEVASSOR TYPE B2 ปี 1899
รถแข่งสัญชาติฝรั่งเศสคันแรกที่ชนะการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ที่ใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบ 3,562 ซีซี 12 แรงม้า ที่ 750 รอบต่อนาที Panhard et Levassor เป็นบริษัทรถที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส เปิดตัวระบบ FR ครั้งแรกในปี 1981 FR หรือ Front-Engine, Rear-Drive จัดเรียงคลัตช์และระบบถ่ายทอดกำลังไว้ด้านหลังเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยโซ่ และระบบดิฟเฟอเรนเชียลแบบกลไก นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนารถยนต์ยุคใหม่
THOMAS FLYER MODEL L ปี 1909
รถยนต์สัญชาติอเมริกันที่มีความโดดเด่นเรื่องความเชื่อถือได้และความทนทาน ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4,377 ซีซี 40 แรงม้า Thomas Flyer พิสูจน์ความทนทานด้วยการคว้าชัยชนะจากการแข่งขันแรลลี่ที่ขับจาก New York ถึง Paris ซึ่งกลายเป็นการจุดชนวนให้รถยนต์มีความแพร่หลายอย่างกว้างขวาง
FORD 999
เฮนรี่ ฟอร์ด ระดมทุนเพื่อพัฒนารถรุ่น 999 โดยเลือกจะใช้กลยุทธ์ใหม่ในกระตุ้นการขายรถยนต์ ด้วยการจัดทดสอบรถแข่งของ Ford Motor และนัดนักข่าวจากสำนักใหญ่ ๆ ไปชมการเปิดตัวรถรุ่น Ford 999 ที่ทะเลสาบน้ำแข็ง St. Clair การทดสอบรถครั้งนี้รถสามารถทำความเร็วสูงถึง 1.6 กิโลเมตรในเวลาเพียง 39.4 วินาที ทำลายสถิติรถยนต์ที่มีความเร็วที่สุดของโลก ณ เวลานั้น
การทดสอบครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สร้างชื่อเสียงให้กับ Ford Motor อย่างมาก เขายังใช้กลยุทธ์การตลาดในการเดินสายแนะนำและสาธิตรถรุ่น Ford 999 ไปตามที่ต่าง ๆ จนคนทั่วไปรู้จักบริษัท Ford Motor มากขึ้น
TOYOPET RACER
คันนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งคันครับ เพราะคันจริงพังจนไม่สามารถก็กลับมาได้แล้ว แต่คันนี้ทางวิศวกรถอดแบบออกมาจากพิมพ์เขียวที่อยู่ในโกดังเหมือนกับรถคันจริงทุกชิ้นส่วน มร.คิอิจิโระ โตโยดะ (Kiichiro Toyoda) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทโตโยต้า มีแผนบุกเบิกอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นด้วยการเข้าร่วมในกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยโตโยต้ามีส่วนร่วมในการแข่งขัน Round Australia Rally ในปี 1957 แต่ว่าก่อนหน้านั้น Kiichiro มีโครงการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอยู่ในใจ
นั่นคือ Toyopet Racer รถแข่งแฮนด์เมดใช้แชสซีส์แบบบันไดและเกียร์ของรถเก๋ง Toyopet รุ่น SD ปี 1949 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Type S สี่สูบ 995 ซีซี 27 แรงม้า การถือกำเนิดของรถแข่งคันแรกในยามที่แบรนด์มีความลำบาก การรวบรวมหลักฐานที่มีอยู่และที่ตีพิมพ์ใหม่ มีการเปิดเผยว่า รถแข่ง Toyopet Racer เป็นรถแข่งหนึ่งเดียวที่ท่านประธาน Kiichiro Toyoda มีส่วนร่วมในการพัฒนา
JAPAN GRAND PRIX
JAPAN GRAND PRIX
อีกหนึ่งไฮไลท์นั้นก็คือรถแข่งรายการ Japan Grand Prix ที่จัดแข่งในช่วงปี 1963-1969 รถที่ลงแข่งขันในช่วงท้ายของรายการนี้มีกำลังมากกว่า 600 แรงม้า เป็นรถแข่งที่ทรงพลังที่สุดและเร็วที่สุดในโลกในเวลานั้น นิสสันครองตำแหน่งสูงสุดในสมัยนั้น โดย R380, R381 และ R382 คว้าแชมป์รายการนี้ในปี 1966, 1968 และ 1969 ตามลำดับ ส่วนโตโยต้ามีรถแข่ง Toyota 7 เปิดตัวในปี 1970 ส่วนนิสสัน พัฒนารถแข่งรุ่นใหม่ R383 เทอร์โบคู่ ระบุว่ามีกำลัง 900 แรงม้า น้ำหนัก 600 กิโลกรัม
ขึ้นลิฟท์มาต่อกันที่ชั้น 2
ชั้นนี้เป็นการจัดแสดงรถแข่งในยุคที่ทันสมัยขึ้น โดยส่วนมากจะเป็นรถแข่งแรลลี WRC, Le Mans, Formula 1, Indycar, Super GT, Drift อาทิ Porsche 904 GTS, Pennzoil Nissan GTR R33 GT 500,A73 Lancer 1600 GSR, Toyota 2000GT เป็นต้น
ในส่วนของบริเวณชั้น 3
จะเป็นคาเฟ่ขายเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก และมีจุดนั่งชิลล์ชมวิวสนาม Fuji Speedway อีกต่างหาก
นี่ยังไม่หมดนะครับรถเยอะมากจริงๆ เอาเป็นว่าต้องบอกเลยครับว่าที่นี่ทำเอาผม flashback ย้อนกลับไปในยุค 90 ภาพโมเดลรถแข่งที่ตอนนั้นอยากได้มาโชว์ในตู้นั้นลอยขึ้นในมา คุณลองคิดดูวันนี้ผมได้เห็นคันจริงๆที่ไม่ใช่โมเดล ความรู้สึกมันเกินคำบรรยายเลยครับ ผมว่าใครชอบรถยนต์ รถแข่ง ชื่นชอบการแข่งขันรถยนต์ คุณต้องมาเห็นด้วยตาครับว่าไอ้รถโมเดลที่เราสะสมตอนเด็กมันกลายเป็นของจริงที่อยู่ตรงหน้าคุณแบบใกล้ชิดมันเป็นอย่างไร อยากรู้คุณต้องมาชมสักครั้งครับ
โฆษณา