เมื่อตะวันตกพบตะวันออก: “วัดนิเวศธรรมประวัติ” อลังการวัดไทยสไตล์กอธิค
หากจะกล่าวถึงสถาปัตยกรรมของวัดไทยแล้ว เชื่อเถิดว่าท่านผู้อ่านทั้งหลายคงจะนึกถึงภาพจำของวัดไทยที่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ มีจิตรกรรมฝาผนังรายรอบด้วยภาพทศชาติ เบื้องหลังพระประธานเป็นภาพไตรภูมิและเบื้องหน้าเป็นภาพมารผจญตามลักษณะทางประติมานวิทยา แต่ในขณะเดียวกันก็มีวัดไทยอยู่หลายวัดที่สร้างขึ้นมาสมัยหลังและรับเอาสถาปัตยกรรมตะวันตกมาประยุกต์เข้ากับสถาปัตยกรรมตะวันออกได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ซึ่งวัดที่ #ที่โปรด จะมาพูดถึงในวันนี้เป็นวัดไทยที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่ชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นโบสถ์คริสต์ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาในอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นาม “วัดนิเวศธรรมประวัติ” ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่เคยไป รับรองเลยว่าจะต้องหลงรักในครั้งแรกที่ไปเห็นของจริงอย่างแน่แท้
ประวัติความเป็นมา
วัดนิเวศธรรมประวัติเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นราชวรวิหารในสายธรรมยุติกนิกาย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2421 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อยามที่เสด็จฯแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยู่และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของบางปะอิน
สถาปัตยกรรม
วัดนิเวศธรรมประวัติเป็นผลงานการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยนายโยอาคิม กรัสซี่ สถาปนิกชาวอิตาเลียน/ออสโตร-ฮังการี เจ้าของผลงานสถาปัตยกรรมอื่น ๆ อย่าง วังท่าพระ วังบูรพาภิรมย์ กระทรวงกลาโหม ศุลกสถาน เป็นต้น
ตัวพระอุโบสถสร้างขึ้นมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิคมีหอคอยยอดแหลมสูง ทาสีเหลืองทั้งหลัง มีซุ้มหน้าต่างวงโค้งปลายแหลมซึ่งมีจุดเด่นในการใช้กระจกสีเพื่อเล่นกับความงามของแสงแดดในตอนกลางวัน ให้เกิดความรู้สึกตระการตาตระการใจแก่ผู้พบเห็น ซึ่งลักษณะการใช้สถาปัตยกรรมตะวันตกกับพระอุโบสถทั้งหลังแบบนี้สามารถพบเห็นได้แค่ที่วัดนิเวศธรรมประวัติเท่านั้น
พระอุโบสถ
ภายในพระอุโบสถมีลักษณะเป็นโถงยาวเหมือนกับโบสถ์ แต่คานด้านบนกลับมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมคล้ายกับหลังคาวัด ตัวเพดานลาดลงมาสอดประสานกับลักษณะของคานรองรับเพดาน และมีลักษณะที่คล้ายกับการเซาะร่องเพดานให้เป็นช่องสี่เหลี่ยมเพื่อลดน้ำหนักเพดานให้คานรับไหว ที่บริเวณด้านในสุดมีลักษณะเป็นแท่นบูชาสีดำขลิบทองตัดกันกับสีพื้นหลังที่ออกขาวชมพูได้อย่างลงตัว บนแท่นบูชาประดิษฐาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” ซึ่งเป็นพระประธานของวัดที่หล่อโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษญวรการ
ด้านข้างพระประธานขนาบข้างด้วยพระอัครสาวกคือพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ นอกจากนี้ยังมีพระสาวกพระองค์อื่น ๆ อีก 6 องค์ตั้งอยู่ตามแนวเสา โดยจะมีจารึกอักษรขอมไทยบอกชื่อ และคำนมัสการพระสาวกเอาไว้ด้วย
ที่ฝั่งตรงข้ามกับพระประธานจะเห็นกระจกสีอยู่ด้านบน ที่อยู่ใต้กระจกสีทรงกลมด้านบนสุด เป็นภาพกระจกสีในซุ้มโค้งยอดแหลมเป็นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ มีจารึกภาษาละตินกำกับไว้ว่า Chulalongkorn Rex Siamensis
หน้าต่างของพระอุโบสถมีลักษณะเป็นหน้าต่างสองชั้น เป็นชั้นกระจกสีชั้นหนึ่ง และชั้นหน้าต่างไม้อีกชั้นหนึ่ง ที่ด้านบนสุดของซุ้มหน้าต่างวงโค้งปลายแหลมเองก็มีกระจกสีประดับอยู่ด้วย ซึ่งตามลักษณะของโบสถ์กอธิคในยุคแรกนั้นมักจะเป็นโบสถ์ทึบและมืด ซึ่งในสมัยหลังก็ได้มีการเพิ่มกระจกสีเข้ามาเพื่อสร้างความสว่างเข้ามาในตัวโถงโบสถ์
โดยมีความเชื่อทางประติมานวิทยาว่าแสงคือสัญลักษณ์ของพระเจ้า แต่เมื่อมาอยู่ในบริบทของวัดไทย สัญญะของแสงนี้อาจจะยังคงอยู่ในฐานะความสว่างไสวของปัญญาที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับการตีความของผู้ชม
ทัศนียภาพโดยรอบ
นอกจากพระอุโบสถแล้ว พื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของวัดก็ยังคงแฝงความเป็นตะวันตกอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นหมู่กุฏิพระสีชมพูพาสเทล นาฬิกาแดดที่สั่งตรงมาจากเมืองมิลานประเทศอิตาลี มีหอพระพุทธรูปศิลาซึ่งเป็นพระปางนาคปรกแบบศิลปะลพบุรีหรือศิลปะเขมรในประเทศไทยซึ่งอัญเชิญมาจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเมืองลพบุรี
นอกจากนี้ที่วัดนิเวศธรรมประวัติก็มีหลายจุดที่น่าสนใจ อาทิ พระตำหนักสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นพระตำหนักสีเหลืองสองชั้น หน้าจั่วมีการฉลุลายสวยงาม ซึ่งพระองค์ท่านเคยประทับเมื่อครั้งทรงผนวชและจำพรรษาที่นี่ รวมไปถึงยังมีสุสานหลวงดิศกุลอนุสรณ์ซึ่งเป็นสุสานสวนหินของราชสกุล “ดิศกุล” อีกด้วย
#วัด #สถาปัตยกรรม #ที่เที่ยวอยุธยา #อยุธยา #ที่โปรด #ท่องเที่ยว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
