ถ้าซื้อไม่เยอะก็ปล่อยไว้ครับ ไว้เตือนใจตัวเองว่าเราเข้าซื้อเพราะอะไรแล้วความคิดตอนนี้ที่ซื้อมันผิดหรือถูกอย่างไรต้องดูในระยะ3-5ปีขึ้นไปครับเพราะระยะสั้นปัจจัยต่างๆ ข่าว ส่งผลทำให้หุ้นผันผวนครับ ถ้าเราดูมันบ่อยๆก็จะตัดใจขายก่อนที่ทุกๆอย่างจะดีก็ได้
ยกเว้นจะซื้อตามเขาว่ามา อันนี้ควรพิจารณาคัททิ้งครับแล้วลองใหม่จากความเข้าใจของตัวเราเองครับ
ส่วนตัวผมพอร์ตก็ติดลบนะครับ 55555
ทุกวันนี้มันติดลบอยู่ราวๆ13-15%ของหุ้นทั้งหมดในพอร์ต
แต่คิดเป็น5-6%ของพอร์ต ซึ่งปีนึงผมทำผลตอบแทนได้มากกว่าหรือเท่ากับประมาณนั้นอยู่แล้ว และด้วยการกระจายความเสี่ยง ผมจึงยังพอใจเย็นในสถานการณ์แบบนี่ได้ครับ
ขอออกตัวก่อนว่าผมเพิ่งเรียนจบได้3ปีก็ศึกษาก่อนเรียนจบจนถึงปัจจุบันซึ่งมันแค่ไม่กี่ปีเอง ผมยอมรับว่าผมเก่งน้อยกว่าคนส่วนใหญ่ในตลาดนะครับ ตอนนี้เพิ่งสร้างพอร์ตได้7หลักเองแต่ก็พยายามศึกษาและลงทุนไปเรื่อยๆ บวกกับกระจายความเสี่ยงครับ เพื่อหวังว่าสักวันนึงจะมีความรู้มากพอจะบริหารและจัดการเงินได้เก่งพอที่จะบริหารเงินก้อนใหญ่กว่านี้ได้
ช่วงเรียนจบมาผมว่าน่าเสียดายมากครับตอนนั้นที่คนรุ่นผมเขาเข้าซื้อหุ้นช่วงโควิดแล้วรวยขึ้นมากเยอะเลยเพราะจังหวะนั้นให้แมวเลือกหุ้นสัก5ตัวมันก็ขึ้นทุกตัวอยู่แล้วด้วยสภาวะตลาด ส่วนผมเข้าหลังจากนั้นเน้นๆเลยครับเป็นช่วงที่นักวิเคราะห์ทุกคนบอกว่าใครซื้อแล้วไม่ลบคืออัฉริยะเพราะมันแย่ทั้งตลาด(คล้ายๆช่วงนี้เหมือนกัน)
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะผมเข้าไปช่วงตลาดแย่ๆด้วยหรือเปล่าผมเลยไม่มีความคิดที่ว่าฉันมันเก่งเลือกหุ้นอะไรก็ขึ้นไปหมดจนได้ใจเกินไป
เพราะที่สังเกตุคือมีหลายๆคนเป็นแบบนั้น ตอนได้ก็โอ้อวดว่าเปลี่ยนเงินแสนเป็นเงินล้านได้ภายในไม่นาน แต่ผ่านไปอีกไม่นานก็รักษาเงินล้านก้อนนั้นไว้ไม่ได้เช่นกัน
เรื่องการกระจายความเสี่ยงมันทำให้พอร์ตโตช้าแต่ค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆครับ แนะนำว่าควรมีเงินสำรอง หุ้น กองทุน พันธบัตร/หุ้นกู้ ตามสัดส่วนที่เรารับได้ครับ
หวังว่าจะเป็นแนวทางและกำลังใจได้นะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
