4 ส.ค. 2023 เวลา 11:17 • ท่องเที่ยว
ดอยม่อนจอง

ม่อนจอง ที่ไม่จองก็คง...ไม่ได้ไป

สังคมที่วุ่นวาย เหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่จำเจ จันทร์ถึงศุกร์ ที่ไม่สุข กลับกลายเป็นสุกจนใกล้ไหม้ของชีวิตมนุษย์เงินเดือน ที่จำใจต้องทำ มันเป็นแบบนี้ซ้ำๆมานานเท่าไหร่แล้ว? เมื่อไหร่จะจบสิ้นชีวิตแบบนี้? สังคมที่ไม่ได้เอื้อให้ชนชั้นกลางได้มีโอกาศลืมตาอ้าปากอย่างแท้จริง ทุนนิยมที่สร้างคำถามว่าใช่แล้วหรือ? กับชีวิตความเป็นอยู่ ได้แต่ดิ้นรนกระเสือกกระสน ตะกุยตะกายในทุกวันของชีวิตให้ดีขึ้น ชีวิตแบบนี้วนเวียนไม่เปลี่ยนไปมานานเท่าไหร่แล้ว? เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อยู่ในภาวะ "จำใจ" ก้มหน้าก้มตาทำต่อไป...
แต่เดี๋ยวนะ...การไปพักซะบ้างมันน่าจะทำให้อะไร อะไรดีขึ้นได้ พักผ่อนออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ การท้าทายตัวเองให้หลุด และลืมจากวังวนเดิมๆ น่าจะเติมพลังได้บ้าง หลายคนเลือกจะพักแบบสบายๆ หลายคนเลือกพักแบบนิ่งเฉยดูโลกที่หมุนไป หลายคนเลือกพักผ่อนแบบโครตเหนื่อย เรียกว่าพักรึป่าวไม่แน่ใจ ชอบแบบไหน? เป็นสายไหน? ก็เลือกเอา
ม่อนแจ่ม ม่อนจอย ม่อนจอง ต้องจองถึงได้ไป
ดรรชนีย์ คีย์บอร์ด
การพัก เพื่อสะสมพลังงานดี ๆ กลับไปสู้กับชีวิตคนชั้นกลางแบบเราๆ เราเลือกได้จะเป็นทะเล ที่โดนเธอเทมานักต่อนัก จะเป็นภูเขาที่เราแคร์ จะนอนหรูอยู่สบาย หรือจะนอนกลางดินดูดาาวเต็มฟ้าในคืนเดือนมืด ก็สุดแต่รสนิยมของแต่ละคน อยากจะเลือกพักแบบไหนก็เลือกเอา ทริปนี้เราเลือกพักแบบลำบาก ให้หัวใจทำงานอยู่บนความสูง สองเท้าตะกุยดินเดินไปตามป่าเขา ได้นอนกลางดิน กินกลางทรายสมใจ เรามาถึงจุดหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอแต่เช้า เข้าห้องน้ำเพื่อบอกลาสุขา เป็นครั้งสุดท้ายเพราะรู้มาว่าข้างบนดอยนั้น เรียกว่าอยู่ในขั้นโหดเหี้ยม
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อจากการจองเข้ามาของเราแล้วอนุญาตให้ไปรอได้ที่หมู่บ้านมูเซอ ที่นี่เราพบชาวบ้านที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ได้สัมผัสกับ "วิถี" ที่ให้ความรู้สึกที่แปลกและแตกต่างออกไป ดีใจที่ได้เข้าไปช่วยชาวบ้านปักหมุดทำร้านใน Google Map ไม่รู้ถึงตอนนี้จะสำเร็จรึยัง? เพราะอนุภาพพลัง 4G และ 5G ทะลุทะลวงมาที่นี่แบบอ่อนด๋อยมาก ร้านกาแฟของชาวมูเซอเป็นสินค้าชุมชนที่น่าสนใจฝากไปถึงคนที่จะไปต่ออย่าลืมไปอุดหนุนชาวบ้าน
หมู่บ้านมูเซอ
พอได้เวลาก็ขึ้นรถกระบะยืนนั่งกันตามสะดวก ตลอดเส้นทางที่ต้อนรับเราต้องบอกว่าเป็นการ สั่น กระแทก และฝึกกำลังขาตลอดเส้นทาง เสียงแตรรถส่งสัญญาณว่าอย่าสวนมาดังขึ้นกับโค้งแคบๆ ซึ่งมันแคบและชันในทุกโค้ง ตอนรถต้องสวนกันผ่านไปได้แบบต้องมีคันนึงเสียสละลงข้างทาง ถ้านักการเมืองบ้านเรายอมเสียสละกันบ้างเหมือนรถกระบะชาวบ้านก็คงจะดีไม่น้อย
เสียงหัวเราะ ความกลัว ความเสียวสะท้านกับถนนที่ไม่คิดว่าจะผ่านมาได้ ต้องขอบคุณพลขับชาวมูเซอที่ผู้ใบขับขี่แบบเราๆ อย่าริอาจขับในเส้นทางมหาโหดนี้
เส้นทางนั่งรถกระบะมหาสนุก
ถึงสุดทางที่รถกระบะจอดเรียงราย นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นม่อนจอง เราเลือกให้เงินทำงานในแบบของมัน จ้างลูกหาบขนของให้กับเส้นทางที่ต้องเดินชันพอควร นี่เป็นการเดินป่าที่เต็มไปด้วยความสุขกับการไม่ต้องแบกของ และไปเสพกลิ่นป่า เพลิดเพลินไปกับต้นไม้ จุดแรกที่ไปถึงคือ ภูหินช่อ เราพักกินข้าวกลางวันดูวิวกันสักพัก เราก็ลุยต่อกันไปจนถึงจุดที่เรียกว่า เนินหมาหอบ ถือเป็นอีกจุดที่สร้างความประทับใจกับแรงขาและชีพจรได้ดีทีเดียว เนินหมาหอบ ชื่อตรงตัวคือ หมาหอบ ส่วนคนนะหรอ? ถ้าไม่ฟิตไม่แข็งแรงก็นั่งพักได้
เนินหมาหอบ
จุดต่อมาคือสนามกอล์ฟช้าง ทุ่งหญ้าสีทองผ่องอำไพ เป็นอีกหนึ่งจุดที่เรียกว่าสวยจัด ที่นี่เราพบคู่รักวัยรุ่นมาถ่ายรูปกัน บางคนทุ่มทุนแต่งตัวโคฟเป็นยอดมนุษย์กันขึ้นมา มาถ่ายพรีเว้ดดิ้งก็มี ยอมใจเพราะเหงื่อที่ไหลตามร่องแขน ร่องขา ร่องก้น ลำพังชุดปกติก็หนักพอละ พวกคอสเพลย์นี่ อืม....
ยังมีต่อที่จุดสูงสุดกับหัวสิงห์ที่ต้องเดินต่อไปอีก เดินไปแล้วอย่าลืมเก็บแรงไว้เดินกลับเพราะเราไม่ได้นอนที่หัวสิงห์ การไปถึงหัวสิงห์ เป็นการ Check-in ว่าเราถึงม่อนจองอย่างเป็นทางการเรียบร้อย
ธรรมชาติงดงามเสมอ
เหลือบดูนาฬิกาที่จับระยะวันนี้ไว้สิริรวม 8.5 กิโล กว่า 4 ชั่วโมงกับธรรมชาติ 1 คืนที่ดาวเต็มฟ้า นอนหนาวแบบกำลังดี ที่ม่อนจอง ทำให้ได้พลังงานดี ๆ จากธรรมชาติ ได้พบเจอผู้คนที่หลากหลายพร้อมกับความประทับใจที่ไม่ได้เก็บผ่านกล้อง แต่เป็นการเก็นไว้ในความทรงจำ ทุกย่างก้าวที่เดินมันมีความหมายเพราะจะเฮงซวยยังไง? ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป
"ม่อนจอง ต้องมาลอง"
จำไว้ ก่อนไปม่อนจอง
ม่อนจอง นั้น คำว่า ม่อน เป็นภาษาคำเมืองที่แปลว่า ดอยหรือเนินเขา ส่วนคำว่า จอง ก็เป็นภาษาคำเมือง แต่จะออกเสียงว่า จ๋อง หมายถึง ลักษณะจั่ว สามเหลี่ยมที่อยู่สูงที่สุด
"ม่อนจอง ต้องจอง" จะเปิดให้ขึ้นประมาณวันที่ 1 พฤศจิกายน - 28 กุมภาพันธ์
เวลาที่ใช้ในการเดินทางขึ้นดอยม่อนจอง คือ 2 วัน 1 คืน มากกว่านี้ไม่รู้จะทำอะไรละ
3
ม่อนจอง อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล1,929 เมตร
เตือนไว้ ถ้าจะถ่ายหนัก แล้วใจไม่เด็ดเดี่ยวพอ อั้นครับ เย็นวันแรกสภาพพอไปได้ แต่ตื่นเช้ามานี่เรียกโศกนาฏกรรม ใจไม่ถึงอั้นลงมาสบายใจกว่าเยอะ ภาพไม่ติดตา
โฆษณา