5 ส.ค. 2023 เวลา 02:27 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

รีวิว Oppenheimer

คุ้มค่าทุกวินาที คุ้มค่าแก่การรอยคอย
ตั้งแต่โนแลนประกาศทำหนังเรื่องนี้ออกมาผมเต้นตื่นมากที่จะได้ดู
แม้ผมอาจจะไม่ใช่แฟนหนังโนแลน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
โนแลนทำหนังน่าดูจริง ทั้งพล็อตแปลก ๆ (Inception, Tenet)
หนังซุปเปอร์ฮีโร่ไตรภาคที่ผมโคตรรัก (คุณก็น่าจะรู้)
หนังโนแลนอาจจะดูยาก ซับซ้อน และคงน่าเบื่อ(น่าเบื่อในแบบหนังสนุก)
ผมคิดว่าตัวเองคงไปนั่งหลับแน่ ๆ แต่ไม่ใช่เลย
ผมตื่นตะลึง ไม่มีฉากไหนทำผมหลับลง ไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำ
(โชคดีที่ไม่ปวดท้องเลย) 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
โนแลนเอาคนที่เบื่ออะไรง่ายแบบผมได้อยู่หมัด
Cillian Murphy แสดงออกมาได้ดีมาก สายตาเอกลักษณ์ของเขาที่ผมได้เห็นตั้งแต่ Batman ในบท Scarecrow ดวงตาที่ซ่อนอะไรไว้มากมาย ลึกลับ น่าค้นหา
Robert Downey Jr. สลัดภาพโทนี่ สตาร์คได้หมดจด โดนทับด้วยบท Lewis Strauss อยากเห็นแกในบทแนว ๆ นี้อีก แกแสดงได้ดี ผมชอบโดยส่วนตัวด้วย
และอีกตัวละคร MVP. สำหรับผมคือ Jason Clarke ในบท Roger Robb พี่แกโคตรเดือด โคตรดี ซีนปะทะอารมณ์กับออฟฟี้นี้ โคตรสุด ฮ่า
ส่วนตัวละครอื่น ๆ ผมไม่ติเลย แสดงดีได้มาตรฐาน(ผม)
บททุกตัวละครก็เด่น ๆ ทั้งนั้น นักแสดงมืออาชีพไว้วางใจ
และเซอร์ไพร์มากกับเอดดี้ของผม Rami Malek มาน้อยต่อยหนักมาก
ฉากในหนังผมรู้สึกทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไร
เพราะหนังเน้นไปที่การพูดคุยกันมากกว่า
ฉากส่วนใหญ่ก็อยู่ใน ลอส อลามอส
กับฉากสอบสวนในห้องเล็ก บ้าน
และจริง ๆ อยากเห็นระเบิดในมุมกว้างแบบที่เห็นกันบ่อย ๆ ในภาพ
อันนี้เหมือนจะซูมเข้าไปหน่อย ถ้าเห็นภาพเต็ม ๆ อาจจะอึ้งมากกว่านี้
บทหนังกระจายบทดี แต่บางเรื่องอาจจะตามไม่ทันบ้าง
แม้จะศึกษาชีวประวัติมา ต้องคิดเร็ว ๆ ไปตามหนังถึงจะทันและสนุก
ซีนบทพูดที่ดีที่สุดคือ ฉากสุดท้ายระหว่างออฟฟี่กับไอส์ไตน์
ภาพรวมแล้วผมชอบหนังเรื่องนี้ ชวนให้ติดตาม การแสดงสุดยอดทำให้ลืมภาพจำเก่า ๆ ของนักแสดงได้
โทนขาวดำสลับไปมาก็ดูดี ไม่แย่
ดนตรีประกอบเร้าในเราตื่นเต้นไปถึงจุดที่ระเบิด หมายถึงซีนระเบิดอารมณ์
สิ่งที่ไม่ชอบสุด ๆ คือ การตัดภาพไปมาด้วยความรวดเร็ว ตามไม่ทัน
ผมว่าหลายคนอาจจะเป็น บางทีตัดไปตาแทบหลุด
และอยากเห็นซีนระเบิดเต็มภาพจริง ๆ
ผมคิดว่าโนแลนอาจจะเลี่ยงไม่ได้ให้ภาพการระเบิดเป็นจุดสำคัญของหนัง
เพราะมัน Sensitive กับผู้คน (ผมไม่แน่ใจ)
ท้ายที่สุดแล้ว หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมาเพื่อความสะใจของผู้ชนะในสงคราม
อย่างน้อยผมคิดว่าโนแลนก็คิดแบบนี้
ผมมองมันเป็นงานศิลปะที่สะท้อนภาพความจริงในมุมมองของ Oppenheimer มนุษย์ธรรมดาที่มีกิเลศ ทำสิ่งที่อยากทำโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมา เป็นผลที่คาดไม่ถึง(ทั้งเรื่องครอบครัว การเมือง วิทยาศาสตร์)
"ถ้าความทะเยอทะยานพอ ก็ไม่มีอะไรที่จะหยุดมนุษย์เดินสองเท้า"
หนังเรื่องนี้ไม่มีพระเอก มีเพียงผู้คนที่ยืนบนหลักการของตนเอง
ไม่มีตัวร้าย มีเพียงการกระทำที่บ่งบอกตัวตน
การแบกรับความทุกข์ใจของออพเฟ่นไฮเมอร์ นั้นไม่ได้แปลว่าเขาสำนึกผิด ผมกลับมองว่ามันเป็นสิ่งที่เขารู้ว่าจะเจออยู่แล้ว
ไม่มีใครต้องการสงคราม ไม่มีใครต้องการความสูญเสีย
มนุษย์ทะเยอทะยาน เปลี่ยนไปตามอารมณ์ และยึดอยู่บนหลักของตนเอง
ของพวกพ้อง ชาตินิยม
เราไปตัดสินใครทั้งหมดเพียงเรื่องเดียวที่เขากระทำไม่ได้
แม้เราอยากจะทำแบบนั้นก็ตาม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา