ร้านมิชลินไกด์ แห่งตลาดร้อยปีระแหง ที่อากงวัย 81 ปี ทำอาหารอร่อยมากมากให้เราทาน
หลังจากไปรอนแรมทั้งต่างประเทศและต่างจังหวัดต่อเนื่องมานานนับเดือน
Lofoten นอร์เวย์
ตั้งแต่นอร์เวย์ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี และจีน
ปราสาทนอยฯ เยอรมนี
ส่วนในเมืองไทย ได้แก่ เกาะช้าง แม่กลอง และปราจีนบุรี
Innsbruck ออสเตรีย
ทำให้ช่วงนี้เลยอยู่ติดบ้านที่ประชาชื่นมากหน่อย แต่พอถึงวันเสาร์ ก็อยากออกไปเปิดหูเปิดตา หาแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ พร้อมกับไปหาอะไรที่อร่อยและบรรยากาศดีทานอยู่บ้างเหมือนกัน
Dolomite อิตาลี
พอดีมีคนแนะนำว่า มีร้านอาหารอร่อยมากแบบบ้านบ้าน แต่ได้มิชลินไกด์ ขับรถไปเพียง 40 นาทีเอง
เชียงรุ้ง สิบสองปันนา
ก็เลยตัดสินใจว่า ต้องแวะไปเที่ยวและลองทานอาหารดู คือ ร้านแปโภชนา แห่งตลาดระแหง ตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ของอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
ร้านนี้ได้รับคำบอกเล่ามาว่า รสชาติอร่อยมากมาก ที่สำคัญคือ ผู้ที่ทำอาหารให้เราทานนั้น เป็นอากง-อาม่า วัย 80 ปีอีกด้วย
จึงเดินทางไปตามที่เพื่อนบอก ว่าให้ตั้ง Google ไปที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอลาดหลุมแก้ว
อย่าตั้งว่าจะไปร้านแปโภชนา หรือตลาดระแหง โดยตรง เพราะจะทำให้ถูกพาไปด้วยเส้นทางที่วกวน เสียเวลา และจากที่จอดรถยังต้องเดินมาที่ตลาดโดยใช้เวลานานอีกด้วย
แต่ให้ตั้งเป็นสำนักงานสาธารณสุขอำเภอลาดหลุมแก้วแทน ซึ่งอยู่ติดกับตลาดระแหงและร้านอาหาร เพียงมีคลองกั้นเท่านั้น และมีสะพานเดินจากสำนักงานสาธารณสุขข้ามไปร้านอาหารได้เลย ใกล้มาก
จอดรถแล้ว เห็นป้ายนี้ เดินข้ามสะพานได้เลย
แล้วก็เป็นจริงตามที่มีผู้แนะนำไว้ทุกประการ เพียงเราจอดรถที่บริเวณสำนักงานสาธารณสุข เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถึงสะพานไม้น่ารัก ที่เดินข้ามไปก็จะถึงตัวตลาดและร้านอาหารแล้ว
บรรยากาศทั่วไปของตลาด บ่งบอกลักษณะของตลาดสมัยก่อน สมกับมีอายุ 100 ปี
ตลาดระแหงไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก จึงค่อนข้างสะดวกสบายมากในการเดินชมตลาด ไม่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดเหมือนตลาดชื่อดังบางแห่ง
คลองธรรมชาติที่ตลาดระแหง
ลำคลองเล็กๆที่ไม่มีน้ำเสียหรือมลพิษ จึงให้อารมณ์ชนบทของไทย ธรรมชาติยังดีอยู่ จนสามารถเก็บภาพนกกินปลาได้ถึง 2 สายพันธุ์ด้วยกัน
นกกินปลา
บ้านช่อง และร้านรวงต่างๆตลอดแนวสองฝั่งคลองนั้น เก่าแก่สมกับอายุ 100 ปีของตลาดระแหง
มีข้าวของขายหลากหลายสารพัดชนิด ทั้งของกิน ของใช้ สำหรับตลาดขนาดเล็กกระทัดรัด ในส่วนของกิน ก็จะมีทั้งข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมชนิดต่างๆ ไปจนถึง น้ำแข็งใส ไอศครีม และเครื่องดื่มนานาชนิด
ร้านรวงของตลาดระแหง
เราไปถึงร้านแปโภชนาเป้าหมาย ในช่วงประมาณเที่ยงเศษ โต๊ะนั่งทานอาหารที่ดีที่สุดบริเวณหน้าร้านที่ติดริมคลองเต็มหมดแล้วทุกโต๊ะ
แต่ยังมีโต๊ะว่างทั้งในส่วนที่อยู่ด้านข้าง และด้านในของร้าน แต่ไม่ติดกับคลอง
ถึงแล้ว แปโภชนา
ในขณะที่กำลังยืนลังเลอยู่นั้นเอง โชคก็เข้าข้างเรา ผู้ที่ทานโต๊ะติดริมคลองและเป็นโต๊ะแรกที่ติดสะพานข้ามคลองด้วย ลุกขึ้นพอดี เราจึงได้นั่งโต๊ะที่ทำเลดีที่สุดของร้านเลยทีเดียว
เมื่อได้ที่นั่งแล้ว ก็เริ่มสั่งอาหารที่เป็นไฮไลท์ตามที่ศึกษามาล่วงหน้าแล้ว ได้แก่ กุ้งและปลาหมึกทอดกระเทียม
จานนี้เมื่อมาจริงๆแล้ว กลิ่นหอมของกระเทียมและพริกไทยก็โชยขึ้นมาเเตะจมูก และเมื่อได้ลิ้มรสกุ้งและปลาหมึก ก็พบว่าสดมาก รสชาติกลมกล่อมอร่อยกำลังดี สมคำร่ำลือ (260 บาท)
กุ้งปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย
ถัดจากนั้น เราก็สั่งปลากรายผัดขี้เมา ทีแรกก็กังวลอยู่ว่าน่าจะเผ็ดมาก โดยเฉพาะสีสันของพริกที่มากับปลา แต่เมื่อทานจริงๆ รสชาติก็ทานได้สบายไม่ได้เผ็ดมากมายอะไรนัก
ปลากรายผัดขี้เมา
เนื้อปลากรายนี้เหนียวหนึบกำลังดี อร่อยจริงๆ ทราบภายหลังว่าเป็นเนื้อปลาฉลาด เพราะปลากรายนั้นหายากขึ้นทุกวัน
หมูทรงเครื่อง เมนูที่ต้องสั่ง
จานที่สาม เราสั่งหมูทรงเครื่อง ซึ่งเป็นเดอะมัสต์ (The Must) ที่ต้องสั่งเลย
ได้มีโอกาสไปยืนชมการห่อหมูด้วยฟองเต้าหู้ที่ข้างในร้านด้วยตัวเอง
ได้ชมการทอดหมูทรงเครื่องหน้ากระทะ ที่ทำให้ฟองเต้าหู้ กรอบนอกแต่นุ่มใน ด้วยเนื้อหมูที่รสชาติลงตัวมากมาก
ไข่เจียวธรรมดา ที่รสชาติไม่ธรรมดา
อาหารสามอย่าง พร้อมข้าวสวยสองจาน หมดในเวลาอันรวดเร็ว แต่ยังรู้สึกอยากทานอีก แม้จะหายหิวแล้ว จึงสั่งข้าวสวยมาอีกหนึ่งจาน พร้อมสั่งไข่เจียวหมูสับมาด้วยเพื่อความต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว อร่อยยอดเยี่ยมไปเลย
ในระหว่างที่รอกับข้าว ได้เดินไปที่ร้านข้างข้าง ถัดไปประมาณสองสามห้อง เป็นร้านขายน้ำแข็งใสและไอศครีม
ร้านน้ำแข็งใส ที่ทำทองม้วนขายด้วย
แต่ขณะที่เดินไปถึงนั้น เห็นคนขายกำลังทำทองม้วน ท่าทางน่าจะอร่อย ก็เลยอุดหนุนซื้อมาหนึ่งถุง (25 บาท)
พอรับถุงทองม้วนมาวางบนโต๊ะ และกำลังจะหยิบกระเป๋าสตางค์ ลมก็พัดถุงล้มลง ทองม้วนที่กรอบและบอบบาง ก็หล่นลงพื้นไปสองสามชิ้น
แม่ค้าเห็นดังนั้น ก็รีบกุลีกุจอมาช่วยเก็บทองม้วนไปทิ้ง แล้วยังใจดีหยิบทองม้วนใหม่มาใส่เพิ่มให้อีกหลายชิ้น มากกว่าจำนวนที่ร่วงหล่นไปด้วยซ้ำ
เป็นความโอบอ้อมอารี มีน้ำใจมากมากของแม่ค้า เพราะทองม้วนที่หล่นไปนั้น เกิดจากเราเป็นต้นเหตุคือวางไม่ดีเอง
นี่แหละครับ น้ำใจของคนไทย ถึงแม้จะเป็นแม่ค้าแม่ขาย ก็ยังมีจิตใจที่ดีงามมาก
นำทองม้วนมานั่งทานรองท้องก่อนอาหารจริงจะมาเสิร์ฟ ปรากฏว่าอร่อยมากอีกแล้วครับท่าน จนทานเกือบหมดถุงเลยทีเดียว
ตบท้ายด้วยไอศครีมกะทิ หวานมันอร่อย
ส่วนอาหารหลัก จากร้านแปโภชนา เมื่อทานเสร็จแล้ว เรียกเก็บเงิน ก็เกิดอยากทานไอศครีมขึ้นมา จึงเดินไปที่ร้านเดิมที่ซื้อทองม้วนมาทาน สั่งไอศครีมมาทั้งแบบใส่ถ้วยและแบบใส่ขนมปัง ( 2 อย่าง ราคารวม 60 บาท) แม่ค้าคนเดิมที่ทำทองม้วน ก็ใจดีเหมือนเดิม
บอกว่าเดี๋ยวจะตักไอศครีมให้ แล้วเลือกตักเครื่องทุกอย่างตามใจชอบ จะมากอย่างไร กี่ชนิด ได้หมด โอ้โหใจกว้างเป็นแม่น้ำเลย
ก็เลยตักมาแต่ข้าวเหนียวมูน ตักปริมาณมากและหลายชนิดไม่ลง เกรงใจคนดีดี
นำไอศครีมมานั่งทานที่โต๊ะของร้านแปโภชนา ซึ่งแสนใจดีอีกเช่นกัน
คือไม่ว่าอะไร ถึงแม้เราจะทานข้าวเสร็จ จ่ายเงินแล้ว เขาก็ปล่อยให้เรานั่งทานไอศครีมต่อไป
จนโต๊ะข้างข้างเหลือบเห็นการทานของเรา คงเห็นท่าทางการทานว่าอร่อยดี พอทานข้าวเสร็จ ก็เลยเดินไปสั่งไอศครีมมาบ้าง คนละถ้วยสองถ้วยกันทุกคน
น่าดีใจแทนร้านไอศครีมที่ขายดีขึ้นมาทันที เพราะเราก็ชอบนิสัยแม่ค้าเจ้านี้ ที่ใจดีจริงๆ
ภาพวาดบนกำแพง
บรรยากาศร้านรวงต่างๆสวยสดงดงาม ใน บรรยากาศชนบทของไทยในยุคสมัย 100 ปีก่อน บางจุดก็มีภาพวาดบนกำแพงที่สวยงามอีกด้วย
ร้านตัดผมโบราณ
สังเกตพบว่ามีร้านตัดผมแบบโบราณมากถึง 3 ร้าน แปลกดี ตลาดเล็กๆแค่นี้ มีร้านตัดผมมากขนาดนี้
เมื่อทานไอศครีมหมด ก็รู้สึกอยากทานน้ำ แต่น้ำและน้ำแข็งหมดแล้ว
ก็เลยสั่งร้านแปโภชนาว่า ขอน้ำแข็งเปล่าสองแก้ว และน้ำหนึ่งขวด ปรากฏว่าน้ำแข็งเปล่าไม่ยอมคิดเงิน ขอคิดเฉพาะน้ำ 1 ขวด (10บาท) นี่ก็ใจดีสุดสุดอีกเช่นกัน
อากงวัย 81 ปี ที่หน้าตาใจดีมากๆ
อากงเจ้าของร้านและเป็นพ่อครัวด้วย ได้เดินออกมาพูดคุยทักทาย ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว เพราะตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ลูกค้าเริ่มเบาบางลงแล้ว
ชอบใจอากงมาก ที่หน้าตาใจดี มีใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา ยิ้มโดยธรรมชาติ บ่งบอกถึงความใจดี
ถามอากงว่า ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว
อากงตอบว่า 81 ปีแล้ว
โอ้โห ไม่น่าเชื่อ เพราะยังดูแข็งแรงมาก และหน้าตาอ่อนกว่าวัยอีกด้วย
ทราบว่าเป็นจีนแต้จิ๋ว และได้ทำร้านอาหารนี้มาต่อเนื่องหลายสิบปี สามารถส่งเสียเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ แยกครอบครัวออกไปหมดแล้ว
ลูกลูกอยากให้พ่อแม่พักผ่อน ไม่ต้องทำงานหนักชนิดไม่มีวันหยุด ในการทำร้านอาหารอีก
แต่อากงบอกว่า การพักผ่อนอยู่เฉยๆ ไม่ทำงานอะไรนั้น เป็นความทุกข์ เพราะน่าเบื่อหน่าย และยังทำให้ปวดเมื่อยเนื้อตัวอีกด้วย
พอได้ลุกขึ้นมาทำงาน มาทำอาหารทุกวัน วันละ 5-6 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีความสุขมาก จึงทำมาเรื่อยเรื่อย จนเข้าสู่อายุ 81 ปีแล้ว
เวลาไปหาหมอตรวจสุขภาพ เมื่อคุณหมอทราบว่ายังทำงานทุกวันและยืนด้วย จึงบอกลูกว่า ที่คุณพ่อทำงานแบบนี้ ดีมากเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาออกกำลังกายแต่อย่างใด
มุมงดงามของตลาด
หลังจากเสร็จทั้งอาหารคาวหวานแล้ว ก็เดินชมตลาดระแหงไปจนสุดตลาดทั้งสองด้าน ด้วยความที่ตลาดแห่งนี้มีผู้คนมาเที่ยวไม่ค่อยมากนัก
เราจึงพยายามอุดหนุนซื้อข้าวของของชาวบ้าน ที่อยู่อาศัยจริงและขายของไปด้วย ได้ซื้อสวิงสำหรับช้อนใบไม้ในสระว่ายน้ำ
ได้ซื้อหมูกรอบซึ่งหน้าตาน่าทาน แม้เรายังไม่ทราบเลยว่าอร่อยหรือไม่ ติดมือกลับมาบ้านด้วย
หมูกรอบที่หน้าตาน่าทานมาก
เป็นความรู้สึกดีดี ที่ได้มาเดินเที่ยวตลาดของเค้า แล้วก็ได้อุดหนุนให้ชาวบ้านเค้ามีรายได้ด้วย
โดยรวมแล้ว ทริปมาเที่ยวตลาดระแหง อายุร้อยปี และทานอาหารมิชลินไกด์ ในวันนี้ นอกจากอาหารจะอร่อยมากแบบไม่เสียเที่ยวแล้ว
ยังได้ความรู้สึกดีดี จากอากงวัย 81 ปี ที่รักจะทำอาหารด้วยความใจเย็น มีอารมณ์ดี ทัศนคติคิดบวกในทุกเรื่อง ตามที่เราได้มีโอกาสพูดคุยด้วย หน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ทำให้ผู้พบเห็นหรือลูกค้ามีความสุขไปด้วย
แถมยังมีน้ำใจ ไม่คิดเงินค่าน้ำแข็งเปล่าเราด้วย
และร้านทองม้วน น้ำแข็งใส ก็ใจดีมาก ใส่ทองม้วนเพิ่มให้ จากที่เราทำทองม้วนหก และยังให้เติมเครื่องเคียง สำหรับไอศครีมตามใจชอบอีกด้วย
นี่แหละครับ ประเทศไทยของเรา ในสังคมต่างจังหวัด ยังคงมีความโอบอ้อมอารี มีจิตใจที่กว้างขวาง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แม้ทำมาค้าขาย ก็ไม่ได้โลภหวังทำกำไรสูงสุดแบบทุนนิยม
อยากให้ประเทศไทยของเรา มีคนแบบนี้มากมาก มีวัฒนธรรมแบบนี้ต่อไปนานนานครับ
หมายเหตุ :
ร้านแปโภชนา เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด
ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 14.30 น.
โทรสอบถามได้ที่
02-599-1398
02-976-3160
- 218
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
