8 ส.ค. 2023 เวลา 06:33 • ไลฟ์สไตล์

154.. ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่ง (ถึงใครหลายคน) The way we were

วันก่อนไปประชุมเตรียมงานเลี้ยงรุ่น แล้วตกลงกันว่า ต่อไปเราจะมีเลี้ยงรุ่นปีละสองหน และควรจะหาโอกาสพบปะ คุยกัน ร้องเพลงกันไปเที่ยวด้วยกัน ทำอะไรก็ได้ที่จะให้เพื่อนได้แฮปปี้มีความสุข
ทุกคนเห็นด้วยไม่มีใครคัดค้าน เพราะจากงานเลี้ยงรุ่นครั้งที่แล้วเมื่อต้นปี ผ่านไปหกเดืิอนถึงบัดนี้มีเพื่อนโบกมือลาไปสวรรค์แล้ว 4 คน ก็รู้ว่าวัยนี้แล้ว ก็ anytime soon แต่ก็นะ คิดถึงวันดีๆที่เคยมีด้วยกัน ฉะนั้น ถ้ายังอยู่บนโลกใบนี้ ก็ใช้เวลาให้มีคุณค่ากับตัวเองและผองเพื่อนเข้าไว้ พอเราจากไปเค้าจะได้คิดถึงเราไง
ขอบคุณเจ้าของวิดีโอและภาพสวยๆ ไว้ ณ ที่นี้
เพลง The way we were เป็นเพลงยอดฮิตของวัยรุ่นยุค 1980’s ไม่มีใครไม่รู้จัก Barbra Streisand เจ้าของเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยิ่งบุคลิกเชิดๆของเธอกับผมม้าปัดเป๋เก๋ไก๋นั้น ยิ่งไม่มีใครเหมือน เค้าว่ากันว่าเธอเป็นหญิงทรงอิทธิพลในสหรัฐอเมริกา ยิ่งเวลาหาเสียงเลือกประธานาธิบดี สายตาจะจับจ้องว่าเธอเป็นแบ๊คให้ใคร คนนั้นก็ได้คะแนนไป
ตอนวัยรุ่นฟังเพลงนี้ก็นึกถึงแต่เรื่องรักๆใคร่ๆ แต่พอมาฟังตอนนี้โอ้โห มันเป็นสัจธรรมโดยแท้ ช่างเข้ากั๊นเข้ากันกับวัยดึกวัยที่เริ่มจะร่วงโรย
Scattered pictures of the smiles we left behind
Smiles we gave to one another
For the way we were
Can it be that it was all so simple then?
Or has time rewritten every line?
If we had the chance to do it all again
Tell me, would we? Could we?
ถ้ามีโอกาสจะแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปในชีวิต จะแก้ตรงไหน จะแก้อย่างไร ถ้าถามดิฉันนะ อยากแก้ตอนเดียว คือ ช่วงอยู่มหาลัยน่ะแหละ ช่วงนั้นมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเรียน เรียน เรียน กิจกรรมก็ทำเท่าที่จำเป็น เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง มนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นยุคนี้เค้าต้องเรียกว่า เป็นพวก introvert อะไรแบบนั้น คือรู้จักคนยาก เริ่มบทสนทนาก่อนไม่เป็น
1
ตอนนี้พอมางานเลี้ยงรุ่น เค้าพูดกันถึงเรื่องโดดเรียนไปกินเหล้าหลังคณะ หรือ ไปดูหนังแถวสยามแล้วกลับมาเช็คชื่อไม่ทัน หรือ นั่งเล่นเลี้ยบตุ่ยจนอาจารย์มาเทกระจาด อะไรแบบนี้ก็นึกไม่ค่อยออก ไม่มีอารมณ์ร่วม ฉะนั้น ถ้ากลับไปแก้ไขได้ จะแก้ตรงนี้แหละ อยากจะทำกิจกรรมสนุกๆให้มากกว่าเดิม ไม่ต้องเรียนมากก็ได้ อยากอยู่ในมหาลัยนานๆ 5-6 ปี น่าจะดีกว่า 4 ปี ช่วงเป็นนิสิตนักศึกษามันดูมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ทำอะไรผิดนิดผิดหน่อยก็ไม่ค่อยมีใครถือสา
กลับมาพูดถึงงานเลี้ยงรุ่น ครั้งแรกที่ดิฉันร่วมเป็นผู้จัดก็เตรียมรายการไว้เพียบ กลัวเพื่อนจะเหงา กลัวงานจะเงียบจะเซ็ง เตรียมนักดนตรี นักร้องไว้เต็มสูตรของงาน พอเอาเข้าจริง นักร้องนั่งเหงาเลยค่ะ เพราะโดนเพื่อนๆแย่งไมค์ไปแล้วไม่ยอมวาง ปีต่อๆมาเลยขอแต่ดนตรี นักร้องไม่ต้อง จะร้องเอง .. แต่ไฮไลต์ที่สุดของงาน คือ การชมวีดีทัศน์รวบรวมเรื่องราวของชีวิตในมหาวิทยาลัย เริ่มตั้งแต่เป็นน้องใหม่จนเรียนจบ ทุกคนกรี๊ดกร๊าด “นั่นชั้นเหรอ.. นั่นเธอเหรอ ..นั่นใครล่ะจำไม่ได้เลย …” นั่นแหละ The way we were ของจริง
สรุปว่า เลี้ยงรุ่นครั้งต่อๆไปไม่ต้องมีระเบียบวาระ ปล่อยไปตามสบายใจอิสระ ใครอยากคุย-คุย ใครอยากร้อง-ร้อง ใครอยากเต้น-เต้น ใครอยากแชร์ปัญหาสุขภาพก็เชิญจับกลุ่ม’เพื่อนยา’ได้เลย ใครอยากส่งยื้มสานความสัมพันธ์ที่พลาดไปเมื่อห้าสิบปี-ก็เชิญ ไม่ต้องกลัวเก้อ เพราะเพื่ิอนลืมไปแล้วว่ารุ่นเราเค้าจีบกันยังไง 5555 ที่พอจำได้ก็ตอนดูรูปขาวดำที่สีซีดจาง .. นึกถึงภาพรอยยิ้มอันลางเลือน scattered pictures of the smiles we left behind
ที่แปลกไปและเปลี่ยนไป ก็คือ พฤติกรรมของเพื่อนๆ อย่างตัวเองนี่จากคน introvert หน้าตาบึ้งตึงเมื่อตอนวัยรุ่น กลายมาเป็นคนยิ้มง่ายทักทายใครก่อนก็ได้ไม่มีปัญหา ตบบ่าเพื่อนชายได้สบายๆไม่ต้องกลัวใครเข้าใจผิด ก็เพื่อนน่ะ มีอะไรเหรอ เรื่องแบบนี้เมื่อสี่ทศวรรษที่แล้วอย่าว่าแต่จะทำ แค่คิดก็สยองแล้ว เชื่อหรือไม่ว่าจากคนที่ไม่พูดกับใครตอนนี้ดิฉันมาอยู่ในทีมกิจกรรม คือหาเรื่องให้เพื่อนได้ออกมาเฮฮาปาร์ตี้กัน เวลาเหลือน้อยต้องใช้สอยให้คุ้มค่า ชดเชยที่พลาดไปไม่ได้ทำตอนเด็กๆ
นกพวกนี้ น่าจะกำลังประชุมเรื่องงานเลี้ยงรุ่น
เพื่อนหลายคนเริ่มมีความเสื่อมถอยของสุขภาพในหลายๆเรื่อง ทั้ง ฟิสิคัล และ เมนตัล บางคนพูดไม่หยุด เล่าเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก พอเพื่อนคนเดิมลุกหนีไป ก็เริ่มเรื่องเก่ากับเพื่อนคนใหม่ที่บังเอิญหลุดเข้ามาในวงสนทนา แบบนี้ก็ถือเป็นความสุขของคนพูดแต่จะเป็นความทุกข์ของคนฟังรึเปล่า ก็แล้วแต่จะพิจารณา
บางคน ลืม ทุกสิ่ง ลืมโทรศัพท์ ลืมกุญแจรถ ลืมกระเป๋าสตางค์ ลืมวันนัด ลืมว่านัดกับใคร แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดี ไม่พูดเยอะ เพราะพอจะพูดก็ลืมซะแล้วว่าจะพูดอะไร
1
บางคนชอบร้องเพลง ร้องไม่หยุด ไม่สนใจว่าใครจะฟังหรือไม่ฟัง ไม่สนใจว่าจะร้องผิดจังหวะผิดคีย์ ประเภทร้องคลายเครียด เพราะความเครียดจะเปลี่ยนมาอยู่ที่คนฟัง
แต่โดยรวมแล้วเพื่อนๆน่ารักทุกคนในแบบของตนเอง ยิ่งมาเจอกันตอนแก่ที่ถอดหัวโขนออกแล้ว เราก็กลับไปเท่ากันเหมือนตอนที่เข้ามาเป็นน้องใหม่ปีแรกในมหาวิทยาลัย ใครจะเคยเป็น CEO เป็นอธิบดี เป็นปลัด เป็นเลขาธิการ เป็นเถ้าแก่ เป็นนักลงทุน ก็ so what .. แล้วไง
สำคัญที่สุดคือ ทุกคนมีสปิริต เห็นความสำคัญของความเป็นเพื่อน เราจึงมารวมตัวกัน ย้อนอดีตถึงความผูกพันแต่เก่าก่อน The way we were …
ขอบคุณเจ้าของภาพนะคะ ใครเคยผ่านแถวนี้คงจำได้
#thewaywewere
#memorieslingeron
#friendsever
#เพื่อนกันตลอดกาล
โฆษณา