คุณสมบัติของนักการเมืองเมืองกะลาแลนด์ของประเทศกูมี (ประชด)
สิ่งดีๆ ที่พ่อแม่ ครูอาจารย์ หรืออ่านเจอในหนังสือดีๆเล่มไหน ลืมไปให้หมด ท่องไว้ว่า
1 ต้องหน้าหนา ลืมเก่ง อะไรที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ท้าพนันตำแหน่ง ลืมไปให้หมดว่าเคยพูด แค่ลมปาก ไม่ได้มีความหมาย ประชาชนนั่นแหละดันไปหลงเชื่อ ศรัทธาเอง จะว่านักการเมืองตระบัดสัตย์หรือประชาชนใสซื่อก็ไม่รู้นะ
2 ต้องตระบัดสัตย์ โดยอ้างสวยๆ ว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" ตอนนี้คนก็ถามต่อว่าเพื่อชาติหรือเพื่อตัวเอง การตระบัดสัตย์เพื่อผลประโยชน์ตัวเองเป็นสิ่งที่"ล้ำลึก" ใครๆ ก็ทำ ถึงจะตระบัดสัตย์ช็อกหัวใจประชาชนก็ทำได้ มีข้ออ้างสวยๆ แล้วนี่ว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" "ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน"
3 ต้องสร้างคำพูดสวยๆ เก่ง เมื่อทำสิ่งผิด ต้องมีความคิดสร้างสรรค์โดยการสร้างวาทกรรมสวยๆ มาหลอกประชาชนให้การกระทำไม่ดีของตัวเองดูดี มีคำพูดสวยๆ ออกมาเยอะแยะ ล้วนแต่พูดให้ตัวเองดูดีทั้งนั้น เช่น "เสียสัตย์เพื่อชาติ" พอได้แล้วมั้งคำพูดสวยๆแต่ไร้สาระแบบนี้ เสียสัตย์=ตระบัดสัตย์ เป็นคนก็เสียคน เป็นหมาก็...
อ้อ แล้วก็ "ก้าวข้ามความขัดแย้ง" คำพูดซ้วยสวย แต่ดันใช้ผิดคน คนที่จะพูดคำนี้ได้ต้องเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายมากๆแล้วต้องเก็บซากตัวเองขึ้นมาเพื่อเริ่มต้นใหม่ ต้องเป็นคนพูด ต่างหาก ไม่ใช่คนที่ไปรังแกเค้า แกล้งเค้าซะหนำใจแล้วมาพูด เพื่อให้คนอื่น"ลืม" การกระทำที่เลวร้ายของตัวเอง
4 ต้องตรรกะวิบัติ หรือภาษาอังกฤษคือ Fallacy อะไรที่ถูกต้องดีงามแต่ถ้าเราเสียประโยชน์ มันต้องผิด ความรูสึกประชาชนหรือจะสำคัญเท่าความรู้สึกเรา เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำสิ่งผิดให้เป็นถูกให้ได้ อย่าง เสียงรวมกันหลายอัน188 มากกว่าเสียงโดดๆอันเดียว 151 เนอะ แล้วก็อีกอันคลาสสิคมากเลย เหมือนหนูเปล่านา เขามาเอง เหมือน เราไม่ได้ข้ามขั้วนะ ฝ่ายนั้นข้ามมาเอง (แล้วเราก็รับข้าม) แต่เราไม่ได้ข้ามนะ เราแค่รับข้อเสนอฝ่ายที่เข้ามาหาเรา
5 ต้องเห็นแก่ตัว ผลประโยชน์ที่ตัวเองจะคอรัปชั่นได้สำคัญกว่าความถูกต้องใดๆ แล้วก็ต้องไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนอีกต่อไป เหมือนที่แป๊ะแก่คนนึงพูดในทำนองว่า เสียงของประชาชนจะมีความหมายก็แค่ตอนลงคะแนนเลือกตั้ง พอเลือกตั้งเสร็จ ผลออกแล้ว ประชาชนก็หมดความหมาย ปล่อยให้คนที่ถูกเลือกเข้ามาไปโซโล่ผลประโยชน์กันเอง ประชาชนไม่ต้องยุ่ง อืม... แต่มัน ประเทศกูนะ
6 ต้องทำดีลเป็น รู้ว่าต้องดีลกับใคร ดีลยังไง ยิ่งถ้าออกสื่อว่าเป็นดีลลับ ยิ่งขลัง
7 ต้องมีเพื่อนที่คอรัปชั่นด้วยกันมาเยอะๆ แล้วเรียกคนที่จะไม่คอรัปชั่นว่า ไอ้พวกไม่มีเพื่อน อืม มีเพื่อนไม่ดี อย่ามีดีกว่ามั้ย ปราชญ์จะอยู่ในหมู่เปรคได้เหรอ ถ้าปราชญ์อยู่กับเปรตได้ ปราชญ์ก็จะกลายเป็นเปรตด้วย เหมือน คบคนพาลพานพาไปหาผิด
แล้วถ้าจะทำงานกับประเทศกะลาแลนด์ เป็นสิ่งที่เรียกว่า "ข้าราชกะลา" ต้องแกล้งโง่ ถึงแม้การจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งสำคัญๆได้ ต้องฉลาดมาก ใช้ความสามารถสุดๆ แต่พอได้ตำแหน่งแล้ว และต้องออกสื่อ ต้องแกล้งโง่ ใช้เหตุผลผิดๆ บิดได้บิด พูดดำให้เป็นขาวให้ได้
นอกจากนี้ ตอนนี้ เพลงเข้ามามีบทบาทในการเมืองกะลาแลนด์มาก ประเทศอื่น แค่อยากรู้ไม่รู้ แต่ประเทศนี้ไม่ค่อยมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เดี๋ยวโดนฟ้อง ยัดข้อหาโน่นนี่ เลยไม่ค่อยมีใครพูดตรงๆ ทำให้คนในประเทศกะลาแลนด์เก่งการถอดรหัสไปโดยปริยาย เป็นข้อพิสูจน์อีกอย่างว่า คนฉลาดนะ คนกินข้าวนะ กินแพงด้วย แถมกินวิตามินเสริมอีก คนฉลาดค่ะถอดรหัสเก่ง สร้างรหัสเป็น
เพลงที่มีการพูดถึงก็เช่น "แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ" "วิชามาร" เพลงธรรมดาที่เนื้อหาเกี่ยวกับความรักนี่แหละ แต่มันเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ได้ดี และที่ฮิตสุดๆ ตอนนี้ก็ต้อง "ไม่เป็นรอง" เป็นเพลงให้กำลังใจ
เครื่องดื่ม ก็เป็นที่กล่าวถึง ที่คนเค้าน่าจะไม่ชอบคือ มิ้นต์ช็อก หากินยากเพราะไม่กล้าสั่ง กลัวโดนมองแรง เลี่ยงไปกินกาแฟส้มดีกว่า
ประชาชนรอดูจุดจบของคนที่ตระบัดสัตย์ ไม่มีหลักการอยู่ ที่อิหลักอิเหลื่ออยู่นี่ ก็เพราะทำตัวเองทั้งนั้น ว่าไปคนที่คิดตระบัดสัตย์นี่ เสริมวิตามินหน่อยมั้ย มัน "คิดได้ยังไง" หักหลังเพื่อน ถีบเพื่อนออก แล้วตัวเองจะได้ดีเหรอ ยุค 5G แล้ว ไม่มีหรอก
อีกครั้งนะคะ นี่เป็นความเห็นต่อประเทศกะลาแลนด์เท่านั้น ถ้ามันดันไปเหมือนกับประเทศอื่น มันแค่ Mere Incident ค่ะ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
