6 ส.ค. 2023 เวลา 06:00 • ประวัติศาสตร์
รัสเซีย

Wind Of Change โดย Scorpions

สายลม...ก่อกำเนิดจากที่ใด...คงไม่มีใครรู้
แต่สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 20 ก่อตัวขึ้นที่กรุงมอสโก อันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของสหภาพโซเวียต
หลังจากระเบิดปรมาณูจากสหรัฐอเมริกาถูกทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิม่า และนางาซากิ ในปี 1945 สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ถึงคราวสิ้นสุด ทั้งญี่ปุ่น และเยอรมัน แพ้สงคราม โลกก็ถูกครอบงำจากสองมหาอำนาจอย่าง 'สหรัฐอเมริกา' มหาอำนาจที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายโลกเสรี และ 'สหภาพโซเวียต' มหาอำนาจจากฝั่งคอมมิวนิสต์ ดินแดนที่ถูกขนานนามว่า 'ม่านเหล็ก' นับแต่นั้นทั้งสองประเทศต่างแข่งกันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุค 'สงครามเย็น'
เยอรมันผู้แพ้สงคราม ถูกแบ่งเป็นสองส่วน คือฝั่งตะวันตกที่ปกครองโดยชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐอเมริกา และฝั่งตะวันออกภายใต้การครอบงำของสหภาพโซเวียต ต่อมาเยอรมันตะวันออกได้สร้างกำแพงเป็นพรมแดนกั้นระหว่างเยอรมันตะวันออกกับเยอรมันตะวันตก โดยมีความยาว 155 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้ประชาชนฝั่งตะวันออก ข้ามไปฝั่งตะวันตก ซึ่งเรียกกำแพงนี้ว่า 'กำแพงเบอร์ลิน' กำแพงอันเป็นสัญลักษณ์ของยุคสงครามเย็น
ต่อมาในช่วงปลายยุค '80 สถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามเย็น มีแนวโน้มจะคลี่คลายลง มหาอำนาจทั้งสองต่างยอมลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ลงจำนวนหนึ่ง กระทั่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในสหภาพโซเวียตในยุคของ มิคาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) เป็นประธานาธิบดี
เวลา 19.32 น. ของวันที่ 25 ธันวาคาม ค.ศ.1991 ธงของสหภาพโซเวียตถูกชักลงจากยอดเสา และนั่นคือครั้งสุดท้าย ถือได้ว่าเป็นการสิ้นสุดของสหภาพโซเวียต
คณะสกอร์เปี้ยนส์
Wind Of Change บทเพลงอันทรงพลัง บทเพลงแห่งความหวัง บทเพลงแห่งสันติภาพ บทเพลงที่คนเยอรมันยกย่องให้เป็น 'เพลงแห่งศตวรรษ'
1
1988 สกอร์เปี้ยนส์ (Scorpions) วงดนตรีร็อคสัญชาติเยอรมัน เป็นวงฮาร์ดร็อควงแรกที่ได้มาเปิดการแสดงที่สหภาพโซเวียต วงสกอร์เปี้ยนส์ในขณะนั้น ประกอบไปด้วยสมาชิกห้าคน ได้แก่ เคล้าซ์ ไมน์ (Klaus Meine) นักร้องนำ, แมทเทียส จาบส์ (Matthias Jabs) มือกีต้าร์, รูดอล์ฟ เช็งเกอร์ (Rudolf Schenker) มือกีต้าร์, ฟรานซิส บุคโฮลซ์ (Francis Buchholz) มือเบส และเฮอร์แมน แรร์เบลล์ (Herman Rarebell) มือกลอง
สิงหาคม 1989 สกอร์เปี้ยนส์ เดินทางมาสหภาพโซเวียตอีกครั้ง โดยร่วมแสดงคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรี Moscow Music Peace Festival จัดขึ้นที่กรุงมอสโก มีนักดนตรีจากชาติตะวันตกอีกหลายวง อย่าง Ozzy Osbourne, Mötley Crüe, Cinderella, Skid Row และ Bon Jovi ซึ่งล้วนแต่เป็นวงร็อคที่โด่งดังแห่งยุค เทศกาลดนตรีครั้งนี้มีผู้เข้าชมกว่าแสนคน และยังถ่ายทอดสดไปอีก 59 ประเทศ
แม่น้ำ Moskva
หนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลดนตรีจะเริ่มขึ้น วงสกอร์เปี้ยนส์ ได้ร่วมทริปล่องเรือไปตามลำน้ำ Moskva แม่น้ำสำคัญที่ไหลผ่านกรุงมอสโก
"I follow the Moskva" ประโยคแรกของบทเพลง Wind Of Change ก็เข้ามาในหัว เคล้าซ์ ไมน์ นักร้องนำมือเขียนเพลงของวง และท่วงทำนองของเพลงก็ไหลเข้ามาตามจินตนาการบนผืนน้ำ Moskva
“Down to Gorky Park” ประโยคที่สองของเพลงก็เกิดขึ้น เมื่อเรือล่องมาหยุดที่ Gorky Park สวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำ Moskva
“Listening to the wind of change” ประโยคที่สื่อสารออกมาจากการสัมผัสถึงบรรยากาศของการเปลี่ยนแปลงของสหภาพโซเวียต
ในขณะที่วงสกอร์เปี้ยนส์อยู่ในมอสโก เสียงผิวปากทำนองเพลง Wind Of Change จากเคล้าซ์ ไมน์ ก็ดังขึ้นตลอดเวลา เมื่อวงสกอร์ปี้ยนส์ทำการแสดงคอนเสิร์ตเสร็จสิ้น เนื้อเพลง Wind Of Change ก็ถูกเขียนต่อจนจบ ท่ามกลางบรรยากาศการล่มสลายของสหภาพโซเวียตที่กำลังใกล้จะมาถึง
กำแพงเบอร์ลิน
กระทั่ง การเปลี่ยนแปลงของสหภาพโซเวียตนำไปสู่การล่มสลาย '9 พฤศจิกายน 1989' กำแพงเบอร์ลิน กำแพงที่แบ่งเยอรมันออกเป็นสองประเทศก็ถูกทำลายลง สัญลักษณ์ของยุคสงครามเย็นพังทลาย เยอรมันจึงเป็นเยอรมันเพียงหนึ่งเดียว
 
3 ตุลาคม 1990 วันแห่งการรวมชาติเยอรมันอย่างเป็นทางการ และถือเอาวันที่ 3 ตุลาคม เป็นวันชาติเยอรมัน 'เพลง Wind Of Change ถูกใช้เป็นเพลงแห่งการรวมชาติเยอรมัน'
อัลบั้ม Crazy World ของ สกอร์เปี้ยนส์
ในปี 1990 บทเพลง Wind Of Change ถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้ม Crazy World สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 11 ของสกอร์เปี้ยนส์ และเพลง Wind Of Change ทะยานขึ้นสู่อันดับ 4 The Billboard Hot 100 ในปี 1990
วงสกอร์เปี้ยนส์ ไม่ใช่วงดนตรีที่ร้องเพลงเพื่อสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวเหล่านั้น
เคล้าซ์ ไมน์
1
Wind of Change : Scorpions
โฆษณา