The Meg 2: The Trench
วางเหตุผลไว้หน้าโรงหนังก่อนเข้าไปดู เพราะที่เหลือคือความสนุกแบบโม้สุดจัด
หนังภาคต่อของโคตรฉลามดึกดำบรรพ์ที่บัดนี้โลกได้รู้จักพวกมันเป็นอย่างดีแล้ว เมื่อทีมสำรวจลงไปใต้ร่องน้ำลึก และพบกับบางสิ่งที่ส่งผลให้ฉลามยักษ์หลุดขึ้นมายังโลกด้านบน และเหมือนเช่นเคย พวกเขาต้องหาทางหยุดยั้งภัยร้ายจากฉลามเหล่านี้
พล็อตมันมีเท่านี้ ที่เหลือก็คือแอ็คชั่นที่อัดเข้ามาให้ดูเป็นระยะ ๆ ภายใต้บทหนังที่มีตัวละครประเภท พระเอกสายบู๊เก่งโคตร, ตัวละครสร้างภาระตลอดเรื่อง, , นักธุรกิจจอมละโมบ, ตัวละครสมควรตาย
หนังเพิ่มทั้งขนาดและจำนวนของฉลามดึกดำบรรพ์ แต่ดันไม่เหมือนกับชื่อเรื่อง เพราะฉลามเหล่านี้ทำหน้าที่ออกมาล่าเหยื่อ และถูกกำจัด โดยไม่เห็นว่ามันจะยากลำบากอะไรสำหรับการกำจัดพวกมัน
ส่วนหนึ่งก็คงมาจากการอัพสกิลของตัวพระเอกจากภาคแรก เฮียเถิก เจสัน สเตแธม กลับมารับบท โจนัส ไทเลอร์ ที่ครั้งนี้อัพเลเวลจนเสมือนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ (ก็ดูสิใช้ฝ่าเท้ายันโคตรฉลามได้) เพราะแบบนี้เวลาสู้กับฉลามเลยหมดลุ้น เฮียเขาเก่งเกิ๊น
หนังเพิ่มตัวละครใหม่ อู๋จิง มารับบทเป็น จิวหมิง ซาง น้องชายของนางเอกในภาคที่แล้ว ในขณะที่ ฟ่าน ปิงปิง ไม่ได้กลับมานะครับ
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โลเคชั่นภูเก็ตถูกนำมาใช้ในฉากสำคัญของเรื่อง น่าจะมีส่วนช่วยทำให้กองถ่ายหนังต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในบ้านเราและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนมากขึ้น
หนังมีความย้วยในช่วงครึ่งแรกเพราะเสียเวลาไปเล่า และไปเพิ่มประเด็นเรื่องความละโมบของมนุษย์จนทำให้มันมาตีคู่กับฉลาม ทำให้หนังหลุดโฟกัส หรือบางทีหนังอาจต้องการสื่อให้คนดูเห็นว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก ไม่ใช่เจ้าฉลามเม็ก แต่เป็น มนุษย์เราเองนี่ล่ะ
เป็นหนังที่ดูสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย แต่โดยส่วนตัวมีความรู้สึกว่าภาคแรกมันได้ลุ้นมากกว่า ส่วนความสนุกต้องดำลงไปในร่องน้ำลึกถึงจะเจอ
มนุษย์น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ทรงภูมิปัญญา และสามารถทำลายล้างทุกอย่างได้เพียงเพื่อสนองความต้องการของตนเอง นั่นมาจากความละโมบไม่มีที่สิ้นสุด ลึกสุดหยั่งเกินก้นมหาสมุทร
The Meg 2: The Trench (2023)
Directed: Ben Wheatley/Starring: Jason Statham. Wu Jing, Cliff Curtis, Sophia Cai
ขอบคุณที่มาข้อมูล/ภาพประกอบ: IMDb, Wikipedia, Youtube, Rotten Tomatoes, Warner Bros, Major Cineplex
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
