7 ส.ค. 2023 เวลา 06:43 • ประวัติศาสตร์

รัสเซีย ญี่ปุ่น เหยื่อสงครามโลก! จากเพชรฆาตเยอรมนี สหรัฐ

.....ปี 2457 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝ่ายเยอรมัน ทำการปิดล้อมเมือง Osovets โปแลนด์ ต่อเบลารุส ที่ขณะนั้นยังเป็นดินแดนรัสเซีย โดยใช้ปืนใหญ่ลำกล้องยักษ์ 420 มม.จำนวนหลายระบบ ใช้กระสุน 800 กก. เจาะเหล็กและคอนกรีตหนา 2 เมตร สร้างหลุมอุกกาบาตจากการระเบิดลึก 5 เมตร
การปิดล้อมระดมยิงถล่มป้อมปราการกระทำตลอดเวลา 24 ชม. และยังใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดร่วมด้วย แต่ป้อมปราการดังกล่าวยืนหยัดอยู่ได้นานถึง 6 เดือน
9
วันที่ 6 ส.ค.2458 กองทัพเยอรมัน ใช้ก๊าซพิษ ยิงจากกระบอกสูบหลายพันกระบอก เกิดหมอกพิษสีเขียวเข้มที่มีส่วนผสมของแก๊สคลอรีนและโบรมีน คลื่นแก๊สสูง 12-15 เมตร กว้าง 8 กม. ไกลไปในป้อมปราการ 20 กม.
ทหารรัสเซีย ไม่มีหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดภายในป้อมปราการถูกรมแก๊สพิษจนเสียชีวิต ใบไม้บนต้นไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองร่วงหล่น หญ้าเปลี่ยนเป็นสีดำตายสิ้น
5
ทุกอย่างเงียบงัน แม้แต่นกที่บินอยู่บนท้องฟ้าเหนือป้อมดังกล่าวก็ตกลงมาตาย ทหารรัสเซีย 40 นาย เสียชีวิตทันที ต่อมาทหารเยอรมัน กว่า 7,000 นาย ใส่หน้ากากกันแก๊สพิษ เคลื่อนพลยึดป้อมปราการ Osovets แต่เมื่อเข้าใกล้ร่องสนามเพลาะ
กลับมีทหารรัสเซียที่ยังรอดชีวิตจากแก๊สพิษอีก 60 นาย โผล่ออกจากหมอกคลอรีนสีเขียวหนาหุ้มใบหน้าด้วยผ้า ตัวสั่นเทาไออย่างรุนแรง เสื้อที่เปื้อนเลือดเดินโซเซเหมือนซอมบี้ถือดาบปลายปืน กระโจนใส่ทหารเยอรมนีแทงอุตลุตสยดสยอง
8
ทหารเยอรมัน ทั้ง 7,000 คน ตื่นตระหนก สู้ไม่ไหวรีบวิ่งหนีกลับเหยียบย่ำกันและแขวนร่างไว้บนลวดหนาม จากนั้นปืนใหญ่รัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลับไปที่ทหารเยอรมนี จนทัพแตกในที่สุด
การต่อสู้ของทหารรัสเซียครั้งนั้นจารึกประวัติศาสตร์โลกไว้อย่างน่าทึ่ง เรียกวันครบรอบ 6 ส.ค. ทุกปีเป็นวันครบรอบ "Attack of the Dead" ในการป้องกันป้อมปราการ Osovets ขนาดเล็กของรัสเซีย ตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำบีเวอร์
8
วันที่ 6 ส.ค.2488 ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินรบของสหรัฐ ทิ้งระเบิดปรมาณูอย่างโหดเหี้ยมที่เมืองฮิโรชิมา พลเรือนญี่ปุ่น ในเมืองนี้มีผู้เสียชีวิต 80,000 ราย สูญหายกว่า 12,000 ราย และบาดเจ็บกว่า 40,000 ราย
รวมผู้เสียชีวิตทันทีจากอีกเมืองคือ นางาซากิ ในวันนั้นกว่า 140,000 ราย จากอดีตถึงปัจจุบันนี้ สหรัฐ เป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ใช้อาวุธทำลายล้างสูงทุกประเภท ไม่เคยมีชาติใดใช้มาก่อน
8
วันที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่น จัดงานรำลึกครบรอบ 78 ปี ถึงเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา และนางาซากิ แต่น่าแปลกใจที่ชาวญี่ปุ่นจำเพชฌฆาตครั้งนั้นไม่ได้ พวกเขารู้สึกขอบคุณสหรัฐ ที่ทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ 2 เมืองในคราวนั้น
โดยนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น แถลงไว้อาลัยชื่นชมสหรัฐ ว่าจำเป็นต้องเลือกใช้ระเบิดนิวเคลียร์สังหารพลเรือน เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการยุติสงครามและป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นเข้ายึดครองญี่ปุ่น
21
เขายังกล่าวหาว่า รัสเซีย สร้างความแตกแยกร้าวลึกในระเบียบโลกเก่าระหว่างประเทศ เป็นภัยคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ , นายฮิเดฮิโกะ ยูซากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดฮิโรชิมา กล่าวสุนทรพจน์ว่า การต่อสู้ในยูเครนเริ่มต้นขึ้นเพราะรัสเซีย มีอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐ จึงไม่ผิด
นาย Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ ส่งสารถึงญี่ปุ่นในวันครบรอบการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา แต่เขาบอกว่าสหรัฐ ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อการเสียชีวิตของชาวญี่ปุ่น 140,000 คน
6
วิเคราะห์ว่า..ทั้งรัสเซีย และญี่ปุ่น ล้วนเป็นเหยื่อสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ตรงกันในวันที่ 6 ส.ค. จากเพชรฆาตเยอรมนี ที่รุกรานดินแดนโดยใช้แก๊สพิษสุดโหดร้าย ส่วนญี่ปุ่นโดนเพชรฆาตสหรัฐ ที่ใช้ระเบิดปรมาณูอย่างโหดเหี้ยมเช่นกัน
ต่างกันที่รัสเซีย จดจำความขมขื่นบรรพบุรุษได้มากกว่าและทนงในชนชาติยืนหยัดต่อสู้ไม่ก้มหัวสวามิภักดิ์ชาติตะวันตก มาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งรัสเซีย ก็ยังไม่เคยใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือแก๊สพิษกับชนชาติใด
12
ส่วนญี่ปุ่นนั้นศิโรราบเป็นทาสทั้งใจและกายต่อสหรัฐไปนานแล้ว แต่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ เยอรมนี กับสหรัฐ ยังคงมุ่งมั่นปั่นสถานการณ์สงครามความขัดแย้งไปทั่วโลก เพื่อทำลายล้างชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
คงไม่มีอะไรจะเปลี่ยนความคิดหรือหยุดพวกเขาได้ จนกว่าจะมีระเบิดนิวเคลียร์ปริศนาปลิวไปลงในดินแดน พวกเขา จนหยุดรุกรานชาติอื่นไปอีกแสนนานแน่นอน 🚀🤭😂
11
⏩🤗 อ่านจบโปรดกดให้กำลังใจให้ทีมงานเลื่อนลงไปล่างสุดขวาล่าง ⤵️
3
World Update
7/ส.ค./2566
👇👇กดรูปหัวใจ/แชร์เก็บไว้อ่าน ⤵️⤵️
1
โฆษณา