Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วินทร์ เลียววาริณ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 ส.ค. 2023 เวลา 05:00 • หนังสือ
เรื่องสั้นชั้นเซียน | ข้าคือมัลติแวก
คุยเรื่องวิทยาศาสตร์ ก็ต่อด้วยนิยายวิทยาศาสตร์ (ไซไฟ) เพราะมีหนังสือแนะนำ บทความนี้ยาวมาก แม้ว่าย่อลงไปแล้ว แต่เชื่อมั่นว่าคุ้มเวลาที่อ่าน
ไอแซค อสิมอฟ เคยเขียนว่าเรื่องสั้นของเขาเองที่เขาชอบที่สุดคือ The Last Question (รองลงไปคือ The Bicentennial Man และ The Ugly Little Boy)
ผมเห็นด้วยว่า The Last Question เป็นเรื่องสั้นนิยายวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดของอสิมอฟ และน่าจะติด top 5 ของโลกด้วย
เรื่องนี้เขียนมาตั้งแต่ปี 1956 แต่ยังไม่ตกสมัย
เรื่องนี้เล่าเป็นท่อน ๆ แต่ละท่อนแทนหนึ่งยุคสมัย ตั้งแต่ท่อนแรกคือปี ค.ศ. 2061 ถึงท่อนสุดท้ายคือจุดจบของจักรวาล เชื่อมเรื่องด้วยตัวละครที่เป็นมหาคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า มัลติแวค
ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2061 มนุษยชาติฉลองการสร้างมัลติแวค เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ยาวหลายไมล์
เครื่องมัลติแวคก็สามารถแปลงพลังงานจากดวงอาทิตย์เข้าสู่สถานีเส้นผ่าศูนย์กลางไมล์เดียว ลำพลังงานนี้ส่งเข้าสู่ทุกจุดของโลกฟรี นานชั่วนิรันดร์ เลิกใช้ถ่านหิน ยูเรเนียม
ทั่วโลกเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่คุมเครื่องสองคนถกกันเรื่องพลังงานที่มนุษย์ใช้ได้ฟรีตลอดกาล ว่ามันจะเป็นนิรันดร์ได้จริงไหม
"ไม่มีพลังงานใดที่ใช้ได้นิรันดร์ ต่อให้นานเป็นพัน ๆ ล้านปี ก็ไม่ใช่นิรันดร์ เพราะในที่สุดแล้ว ในเวลาล้านล้านล้านปี ดวงอาทิตย์ทุกดวงก็ต้องดับหมด เอนโทรปีต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือทุกอย่างต้องไปถึงจุดจบ"
ทั้งคู่ถกกันแล้วไม่มีคำตอบ ก็ป้อนคำถามเข้าไปในเครื่องมัลติแวคว่า เราสามารถสร้างพลังงานคืนกลับให้ดวงอาทิตย์ หลังจากที่มันตายไปแล้วได้หรือไม่ หรือพูดสั้น ๆ ว่า มีวิธีไหนในการลดปริมาณสุทธิของเอนโทรปี
มัลติแวคตอบว่า "ข้อมูลไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
เรื่องตัดไปที่ยุคที่มนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานในต่างดาว เครื่องมัลติแวคเพิ่มจำนวนไปตามโลกต่าง ๆ เรียกชื่อใหม่ว่า เครื่องเอซีระหว่างดาว พัฒนาจนเครื่องมีขนาดเล็กลงมาก และสร้างสถานีพลังงานใหม่ ๆ ทั่วดาราจักร
ครอบครัวเจอร์ร็อดย้ายถิ่นฐานจากโลกไปยังดาว X-23 พ่อบอกลูกสาวว่า "ดวงดาวที่เห็นเบื้องนอกนั้น วันหนึ่งก็ดับไปหมด เพราะเอนโทรปีมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ"
ลูกสาวถามพ่อว่า "อะไรคือ เอนโทรปี คะพ่อ?"
พ่อว่า "คือปริมาณค่าความเสื่อมของจักรวาล สรรพสิ่งต้องเสื่อมลงตามอายุขัย เหมือนหุ่นยนต์ของเล่นของลูกไง"
"ทำไมพ่อไม่ใส่หน่วยพลังงานเข้าไปใหม่ เหมือนที่ทำกับหุ่นยนต์?"
"ดวงดาวนั่นแหละเป็นหน่วยพลังงาน เมื่อมันหมด ก็หมดตลอดไป"
ลูกสาวร้องไห้ บอกว่า "งั้นก็อย่าให้มันดับ"
อีกคนเสริม "บอกมัลติแวคให้ทำให้ดวงดาวไม่ดับ"
เสียงร้องไห้ของเด็กทำให้พ่อไม่มีทางเลือกนอกจากขอคำตอบจากมัลติแวค
พ่ออ่านคำตอบแล้วบอกว่า "เครื่องมัลติแวคตอบว่า มันจะดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่ต้องห่วง"
เด็ก ๆ หลับไปด้วยความสบายใจ แต่คนเป็นพ่ออ่านคำตอบ "ข้อมูลไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
สองหมื่นปีถัดมา มนุษยชาติก้าวใกล้สู่ความเป็นอมตะ และเครื่องเอซีแห่งดาราจักรพัฒนาจนเป็นโลกเล็ก ๆ ของมันเอง เป็นเครือข่าย
มนุษย์สองคนคุยกัน คนหนึ่งชื่อ VJ-23X แห่งลาเมธ อายุ 223 ปี อีกคนคือ MQ-17J แห่งนิครอน อายุไม่ถึงสองร้อยปีดี
MQ-17J ว่า "ดาราจักรนี้จะถูกมนุษย์กลืนในเวลาห้าปี เมื่อดูจากอัตราการขยายตัว"
VJ-23X เห็นว่ายังมีพื้นที่ว่างข้างนอกโน้นอีกมากมาย ดาราจักรกว่าแสนดาราจักร หรืออาจมากกว่านั้น รอมนุษย์ไปครอบครอง
แต่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย บอกว่าแสนดาราจักรก็ไม่พอ
เขาให้เหตุผลว่า "มนุษย์เพิ่งแก้ปัญหาพลังงานได้เมื่อสองหมื่นปีก่อน ไม่กี่ศตวรรษถัดมา การเดินทางข้ามจักรวาลเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ มนุษย์ใช้เวลาหนึ่งล้านปีในการเติมเต็มพื้นที่บนโลก และเพียงหนึ่งหมื่นห้าพันปีในการกลืนพื้นที่ทั้งดาราจักรนี้ ประชากรเพิ่มจำนวนสองเท่าทุกสิบปี..."
เขาว่า เมื่อถึงเวลาที่ดาราจักรนี้เต็ม มนุษย์จะกลืนดาราจักรใหม่ ในเวลาเพียงสิบปี อีกสิบปีจะกลืนอีกสองดาราจักร ในร้อยปีจะกินพันดาราจักร ในพันปีล้านดาราจักร ในหมื่นปีทั้งจักรวาล แล้วยังไงต่อ? และยังมีปัญหาเรื่องหน่วยพลังงานจากดวงอาทิตย์ อัตราการใช้พลังงานสูงกว่าอัตราการขยายตัวของประชากร
"เราจะขาดพลังงานเร็วกว่าขาดดาราจักรที่จะไปอยู่"
ทั้งสองก็ตั้งคำถามต่อเครื่องเอซีแห่งดาราจักร "มีทางไหนที่ทำให้เอนโทรปีย้อนกลับได้ไหม?"
เครื่องเอซีแห่งดาราจักรตอบว่า "ข้อมูลไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
เวลาก็ผ่านไปอีก จนถึงยุคที่มนุษย์พัฒนาพลังจิตถึงจุดสูงสุด ผู้คนกระจายไปทั่วดาราจักรต่าง ๆ แทบไม่มีที่ใดที่ไม่มีคน
2
ตัวละครชื่อ ซี ไพร์ม ถูกปลุกขึ้นจากห้วงคิดเมื่อสัมผัสกับความรู้สึกแผ่วเบาของจิตอีกดวงหนึ่ง เพื่อนใหม่ที่แนะนำตัวเองว่าชื่อ ดี ซับ วัน
เขาถาม ดี ซับ วัน ว่าอาศัยอยู่แกแลกซีไหน อีกฝ่ายว่า "เราเรียกมันว่า แกแลกซี เฉย ๆ คุณล่ะ?"
"เราก็เรียกมันอย่างเดียวกัน ใคร ๆ ก็เรียกดาราจักรของพวกเขาว่า แกแลกซี แต่มันต้องมีดาราจักรนึงที่เผ่าพันธุ์มนุษยชาติถือกำเนิด นั่นทำให้มันพิเศษกว่าที่อื่น"
ซี ไพร์ม เกิดความอยากรู้อยากเห็น จึงถามเครื่องเอซีแห่งจักรวาล "มนุษย์ถือกำเนิดมาจากแกแลกซีไหน?"
เครื่องเอซีแห่งจักรวาลชี้นำจิตของ ซี ไพร์ม ไปยังทะเลแห่งดาราจักร และหนึ่งในนั้นขยายภาพขึ้นเป็นมวลดารา อธิบายแก่เขาด้วยความคิด "นี่คือแกแลกซีต้นกำเนิดของมนุษย์"
1
ดาราจักรนั้นก็เหมือนดาราจักรอื่น ๆ ทั่วไป
เครื่องเอซีแห่งจักรวาลอธิบายว่า ดาวต้นกำเนิดของมนุษย์กลายเป็นซากโนวาไปแล้ว ตอนนี้มันเป็นดาวแคระขาว แต่พวกมนุษย์ที่นั่นไม่ได้ตาย พวกเขาสร้างโลกใหม่ได้ทันเวลา
2
ซี ไพร์ม บอกว่ามวลดารากำลังดับ ช้าหรือเร็วเมื่อพลังงานทั้งหมดหายไป ถึงที่สุดแล้วร่างกายของมนุษย์จะตาย
เขาถามเครื่องเอซีแห่งจักรวาลว่า มีดวงดาวมากแค่ไหนที่สามารถช่วยไว้จากความตาย? พูดง่าย ๆ คือ เอนโทรปีจะย้อนกลับทิศอย่างไร เครื่องเอซีแห่งจักรวาลตอบ "ข้อมูลไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
2
ก็มาถึงยุคที่เครื่องเอซีแห่งเอกภพรายล้อมผู้คน แต่ไม่ใช่อวกาศ ไม่มีชิ้นส่วนใดของมันที่อยู่ในอวกาศ มันอยู่ในอวกาศลึกและถูกสร้างขึ้นจากบางสิ่งที่ไม่ใช่ทั้งสสารหรือพลังงาน ไม่มีใครรู้ว่ามันมีขนาดเท่าใด
'คน' กำลังครุ่นคิดกับตนเอง คน - โดยจิตใจ เป็นหนึ่งเดียว ที่ประกอบด้วยกายที่ไม่เสื่อมนับล้านล้านล้านกาย แต่ละกายอยู่ในที่ของมันเอง
คนมองไปยังดาราจักรที่กำลังโรยแสง ดาวยักษ์จำนวนมากตายจากไปนานแล้ว เขารู้ว่าจักรวาลกำลังตาย
คนเอ่ยขึ้น "ถ้าจัดการดี ๆ โดยการแนะนำจากเครื่องเอซีแห่งเอกภพ พลังงานที่ยังเหลือในจักรวาล จะคงอยู่อีกหลายพันล้านปี แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็จะพบจุดจบ ไม่ว่ามันถูกจัดการอย่างไร ยืดเช่นไร พลังงานที่ใช้ไปแล้วก็จะหมดไป และไม่สามารถเก็บคืนมาอีก เอนโทรปีจะต้องเพิ่มขึ้นนิรันดร์จนถึงจุดสูงสุด"
ดังนั้นคนก็ถามเครื่องเอซีแห่งเอกภพ "เราจะทำให้เอนโทรปีย้อนกลับได้อย่างไร?"
เครื่องเอซีแห่งเอกภพตอบ "ข้อมูลไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
คนเอ่ย "งั้นจงเก็บข้อมูลเพิ่มเติม"
"ข้าฯจะทำเช่นนั้น ข้าฯได้ทำเช่นนั้นมานานหลายหมื่นล้านปี บรรพบุรุษของข้าฯและตัวข้าฯได้รับคำถามนี้มามากครั้งเหลือเกิน ข้อมูลที่ข้าฯเก็บมาก็ยังไม่เพียงพอ"
"จะมีสักเวลาไหมที่ข้อมูลมากพอ หรือว่าปัญหานี้ไม่สามารถแก้ได้ ไม่ว่าในสภานการณ์ใด ๆ ที่คิดออก?"
เครื่องเอซีตอบ "ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ในทุก ๆ สถานการณ์ที่คิดออก"
"งั้นเมื่อไหร่เล่าที่ท่านจะมีข้อมูลมากพอที่จะตอบคำถามนี้?"
"ข้อมูลก็ยังไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
"ท่านจะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ ?"
เครื่องเอซีตอบ "ข้าฯจะทำ"
"งั้นเราจะรอ"
เวลาผ่านไปอีก มวลดาราและดาราจักรตายจากไป และอวกาศดูมืดมนลง หลังจากเวลาเลื่อนไหลไปอีกสิบล้านล้านล้านปี
แล้วคนก็หลอมรวมกับเครื่องเอซีทีละหนึ่ง ๆ แต่ละกายสูญเสียตัวตนทางจิตของมัน ในการทำเพื่อบางสิ่งที่ดีขึ้น
จิตสุดท้ายของคนหยุดชะงักก่อนการหลอมรวม มองไปยังพื้นที่ว่างที่รวมประกายอ่อนล้าของดาวดวงสุดท้าย ไม่มีอะไรข้างเคียงนอกจากสสารบางเหลือเชื่อ ที่เกิดจากความร้อนที่กำลังสูญหายไปในองศาศูนย์สัมบูรณ์
คนเอ่ยกับเครื่องเอซี "นี่คือจุดจบหรือ? ความยุ่งเหยิงทั้งมวลนี้ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นจักรวาลได้อีกครั้งหรือ? ไม่สามารถทำได้จริง ๆ หรือ?"
เครื่องเอซีตอบ "ข้อมูลก็ยังไม่พอสำหรับคำตอบที่มีความหมาย"
จิตสุดท้ายของคนหลอมรวมกับเครื่องเอซีที่เหลือเพียงหนึ่งเดียว ในอวกาศลึกนั้น
ในที่สุดสสารและพลังงานถึงจุดจบ รวมทั้งพื้นที่ว่างและเวลา แม้แต่เครื่องเอซีก็ยังคงอยู่เพียงเพื่อตอบคำถามสุดท้ายนี้ คำถามที่มันไม่สามารถตอบได้มาตั้งแต่มันเกิดเมื่อสิบล้านล้านล้านปีก่อน
คำถามอื่น ๆ ต่างได้รับคำตอบหมดสิ้นแล้ว และจนกว่าคำถามนี้จะได้รับการตอบ เอซียังจะไม่ปลดปล่อยสติรับรู้ของมันเอง
แล้วข้อมูลทั้งหลายก็ถูกเก็บจนถึงที่สุด ไม่มีสิ่งใดเหลือให้เก็บเกี่ยวอีก แต่ข้อมูลที่เก็บมาทั้งหมดยังต้องผ่านการเชื่อมอย่างสมบูรณ์ และหาความสัมพันธ์ในทุกทางที่เป็นไปได้
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งช่วงใหญ่ แลก็ผ่านมาถึงห้วงเวลาที่เครื่องเอซีเรียนรู้ว่า จะย้อนศรเอนโทรปีอย่างไร
แต่ไม่เหลือใครที่เครื่องเอซีจะมอบคำตอบต่อคำถามสุดท้ายอีกแล้ว
ผ่านไปอีกช่วงเวลาใหญ่ เครื่องเอซีคิดออกว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร อย่างระมัดระวัง เครื่องเอซีสร้างโปรแกรมขึ้นมา
สติรับรู้ของเครื่องเอซีจัดการรวมสิ่งที่เคยเป็นจักรวาล และครุ่นคิดเหนือสิ่งที่ปัจจุบันคือความยุ่งเหยิง มันจะสร้างใหม่ทีละขั้น
แลเครื่องเอซีกล่าวว่า "ขอจงมีแสงสว่าง" (Let there be light.)
แลแสงสว่างก็บังเกิด
นี่คือเรื่องวิทยาศาสตร์ที่จบด้วยประโยคสร้างจักรวาลของไบเบิล แรง และแปลก
ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1956 ยังไม่ล้าสมัย
ไอแซค อสิมอฟ ยังเขียนเรื่องสั้นชั้นดีอีกหลายเรื่อง ข่าวดีคือตอนนี้มีการตีพิมพ์รวมเรื่องสั้น 16 เรื่องของ ไอแซค อสิมอฟ ชื่อ 'ข้าคือมัลติแวก'
2
คอไซไฟหรือไม่ไซไฟ ก็น่าจะลองอ่าน เพราะฝีมือของอสิมอฟไม่เคยธรรมดา
(สำนักพิมพ์คลับไซไฟ
http://www.mowojo.com/product/308/ข้าคือมัลติแวก
)
13 บันทึก
37
13
13
37
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย