15 ต.ค. 2023 เวลา 02:00 • การศึกษา

สมรรถนะส่วนบุคคล (Personal Competency)

รูปแบบการทำงานในปัจจุบันนี้มีความซับซ้อนและหลากหลาย ดังนั้น องค์กรต่างๆ ย่อมจะต้องการบุคคลที่มีสมรรถนะในการทำงานที่หลากหลาย และ มีทักษะแก้ไขปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สมรรถนะส่วนบุคคลเป็นเรื่องแรกๆ ที่ถูกพิจารณาในการรับเข้าทำงานและเลื่อนตำแหน่งงาน มากกว่าใบปริญญาและใบประกาศนียบัตรเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเราจึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมรรถนะส่วนบุคคลของตัวเองอยู่สม่ำเสมอ
สมรรถนะส่วนบุคคล (Personal Competency) คือ ความสามารถของมนุษย์ในการเรียนรู้ พัฒนา และ ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ สมรรถนะส่วนบุคคลถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยหลายประการ รวมถึงพันธุกรรม ประสบการณ์ และ สิ่งแวดล้อม สมรรถนะส่วนบุคคลมีความสำคัญต่อความสำเร็จในหลายด้านของชีวิต รวมถึงการศึกษา อาชีพ และ ความสัมพันธ์ส่วนตัว สมรรถนะส่วนบุคคลสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่
1. ความรู้ (Knowledge) หมายถึง ความเข้าใจในข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับงานหรือบทบาท แบ่งออกเป็น
1.1 ความรู้ทั่วไป (General Knowledge) เช่น ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
1.2 ความรู้เฉพาะทาง (Specialized Knowledge) เช่น ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย การแพทย์ และเทคโนโลยี
2. ทักษะ (Skills) หมายถึง ความสามารถในการนำความรู้ไปใช้เพื่อทำงานให้สำเร็จ แบ่งออกเป็น
2.1 ทักษะแข็ง (Hard Skills) เช่น ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ทักษะการเขียน และ ทักษะการพูด
2.2 ทักษะอ่อน (Soft Skills) เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานเป็นทีม และ ทักษะการแก้ปัญหา
3. คุณลักษณะ (Attributes) หมายถึง ลักษณะนิสัยหรือบุคลิกภาพส่วนบุคคล แบ่งออกเป็น
3.1 คุณลักษณะทางบวก Positive Attributes เช่น ความซื่อสัตย์ วินัย และ ทัศนคติเชิงบวก
3.2 คุณลักษณะทางลบ Negative Attributes เช่น ความประมาท ความเกียจคร้าน และ ทัศนคติเชิงลบ
4. ค่านิยม (Values) หมายถึง ความเชื่อและหลักการที่บุคคลยึดถือ แบ่งออกเป็น
4.1 ค่านิยมส่วนบุคคล (Personal Values) เช่น ความสำเร็จ ความอิสระ และ ความสุข
4.2 ค่านิยมทางสังคม (Social Values) เช่น ความยุติธรรม ความเท่าเทียม และ ศักดิ์ศรี
คุณสามารถพัฒนาสมรรถนะส่วนบุคคล สามารถแบ่งได้เป็น 2 วัตถุประสงค์ ได้แก่ (a) การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานปัจจุบันของคุณ (Upskill) และ (b) การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่แตกต่างจากงานปัจจุบันของคุณ (Reskill) โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
1. การศึกษา (Study) เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับสมรรถนะส่วนบุคคลต่างๆ และ วิธีการพัฒนา
2. การฝึกฝน (Training) เป็นฝึกฝนสมรรถนะส่วนบุคคลของคุณเป็นประจำ
3. การปฏิบัติงานจริง (Practical Work) เป็นการสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลที่ได้จากการทำงานจริง
4. การทดลองผิดถูก (Trial and Error) เป็นการลองผิดลองถูกส่วนตัว อาจจะเริ่มต้นจากความสงสัย ตั้งสมมติฐาน และ ทดลองด้วยวิธีต่างๆ เพื่อพิสูจน์สมมติฐาน
5. คำแนะนำ (Guidance) เป็นขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีพัฒนาสมรรถนะส่วนบุคคลของคุณ
ขั้นตอนในการพัฒนาสมรรถนะของมนุษย์ของคุณ ได้แก่
1. ตั้งเป้าหมาย: การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้คุณมีแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะของคุณ เป้าหมายควรมีความเฉพาะเจาะจง ท้าทาย แต่บรรลุได้
2. วางแผน: เมื่อคุณตั้งเป้าหมายแล้ว คุณจำเป็นต้องวางแผนว่าคุณจะบรรลุได้อย่างไร แผนของคุณควรเป็นขั้นตอนที่ชัดเจนและทำได้
3. ดำเนินการ: การดำเนินการเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสมรรถนะของคุณ คุณต้องลงมือทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ
4. ประเมินผล: สิ่งสำคัญคือต้องประเมินความคืบหน้าของคุณเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง
5. ปรับเปลี่ยนแผน: หากแผนของคุณไม่ได้ผล คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนแผนของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องยืดหยุ่นและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อจำเป็น
วิธีการวัดสมรรถนะส่วนบุคคลสามารถแบ่งออกเป็น 6 วิธีหลัก ได้แก่
1. แบบสอบถาม (Survey) เป็นแบบสอบถามที่ใช้ในการประเมินสมรรถนะส่วนบุคคลโดยให้ผู้ตอบแบบสอบถามประเมินตนเองหรือผู้อื่นเกี่ยวกับสมรรถนะส่วนบุคคลในด้านต่าง ๆ
2. การสังเกตพฤติกรรม (Observation) เป็นการสังเกตพฤติกรรมของบุคคลในสถานการณ์จริง โดยผู้สังเกตอาจใช้แบบประเมินพฤติกรรมหรือแบบบันทึกพฤติกรรมเพื่อบันทึกพฤติกรรมที่สังเกตได้
3. การสัมภาษณ์ (Interview) เป็นการสัมภาษณ์บุคคลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ และค่านิยมของตน ผู้สัมภาษณ์อาจใช้แบบสอบถามหรือแบบสัมภาษณ์เพื่อสัมภาษณ์บุคคล
4. การทดสอบ (Test) เป็นการทดสอบความรู้ ทักษะ หรือคุณลักษณะของบุคคล โดยผู้ทดสอบอาจใช้แบบทดสอบข้อเขียน แบบทดสอบปฏิบัติ หรือแบบทดสอบสัมภาษณ์
5. การอ้างอิง (Reference) เป็นการขอข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ และ ค่านิยมของบุคคลจากบุคคลอื่นที่รู้จักบุคคลนั้นเป็นอย่างดี
6. การประเมินตนเอง (Self-assessment) เป็นการให้คะแนนตนเองเกี่ยวกับความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ และค่านิยมของตน โดยผู้ประเมินตนเองอาจใช้แบบประเมินตนเองหรือแบบบันทึกตนเอง
สารตั้งต้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะคำว่า "ไม่รู้" ทำคนเสีย "น้ำตา" มามากแล้ว
ถ้าเนื้อหาถูกใจ ช่วยกดติดตาม กดไลท์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ
แลกเปลี่ยนความเห็น ติชม สอบถาม แนะนำเนื้อหาได้นะครับ
#สารตั้งต้น #PersonalCompetency

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา