13 ส.ค. 2023 เวลา 00:15 • ท่องเที่ยว
ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ

สะพานแห่งความโชคดี 1 ใน 100 วิวที่สวยงามที่สุดในแถบคันไซ

ครั้งหนึ่งโอซาก้าเคยเป็นศูนย์กลางการรวมประเทศญี่ปุ่น
ในยุคสมัยของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าส่งทอดต่อๆกันมา
ทั้งทางด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรม
และรวมไปถึงความเชื่อทางศาสนาอีกด้วย
ความเชื่อทางศาสนาของคนญี่ปุ่นดั้งเดิมนั้น
จะนับถือความเชื่อลัทธิชินโต
โดยลัทธิชินโตจะนับถือเทพเจ้ามากมายหลายองค์
ที่มาจากธรรมชาติ ทั้งในป่า บนภูเขา
ทะเล แม่น้ำ ลำธาร สายลม
โดยมีความเชื่อว่า
ทุกสิ่งในธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์ล้วน
เป็นที่สถิตของเทพเจ้าได้ทั้งสิ้น
2
แต่ภายหลังเมื่อศาสนาพุทธนิกายเซนจากจีน
ได้ถูกเผยแพร่มาที่ญี่ปุ่น ความเชื่อในลัทธิชินโต
จึงค่อยๆถูกลดทอดกลืนหายไป
หลังสิ้นสุดสงครมโลกครั้งที่สอง
ชินโตได้ถูกยกเลิกจากการเป็นศาสนาประจำชาติ
ชินโตจึงได้เริ่มลดหายไปจากวัฒนธรรมในญี่ปุ่น
แต่ในโอซาก้าเองก็ยังมีศาลเจ้า
ที่ยังยึดหลักชินโตดั้งเดิม
โดยไม่ได้ถูกความเชื่อของศาสนาอื่น
เข้ามาดัดแปลงไป ศาลเจ้านั้นมีชื่อว่า
Sumiyoshi Taisha
3
Sumiyoshi Taisha คือหนึ่งในศาลเจ้า
ที่มีความเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
สร้างขึ้นเมื่อไรไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด
แต่นักประวัติศาสตร์คิดว่าอยู่ในราวศตวรรษที่ 3-5
ศาลเจ้านี้ยึดหลักตามความเชื่อดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น
คือลัทธิชินโต โครงสร้างทางสถาปัตยกรรม
ก็เป็นแบบญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ของการก่อสร้างศาลเจ้า
2
โดยเราเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่า
Sumiyoshi Zukuri
คือมีหลังคาแบบทรงตรงไม่โค้ง
และจั๋วจะตกแต่งด้วยไม้ที่มีลักษณะไขว้กัน
รวมไปถึงมีไม้ขนาดเล็กวางเรียงกัน
ตามแนวยาวของหลังคา
ใช้สีแดงเป็นหลัก เคลือบด้วยสีทอง
ในแต่ละศาลเจ้าจะมีรั้วล้อมรอบเอาไว้
โครงสร้างทั้งหมดที่ศาลเจ้าแห่งนี้
จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ
3
ด้วยความเก่าแก่และลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์
หาที่ใดเหมือนได้นี่เอง
จึงทำให้ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ
มีชื่อเสียงมากๆ ในญี่ปุ่น
ทุกวันขึ้นปีใหม่ หรือในวันที่มีเทศกาล
จะมีคนญี่ปุ่นมาขอพรร่วมงานที่ศาลเจ้าแห่งนี้
จำนวนมากกว่า 2 ล้านคน
เมื่อผมมาโอซาก้า จึงหาโอกาสมาแวะ
ที่ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะแห่งนี้
การเดินทางก็นั่งรถราง Hankai Tramway
ซึ่งเป็นรถรางสายเดียวในโอซาก้า
โดยนั่งจากสถานี Tennoji แล้วมาลงที่สถานี
Sumiyoshi Taisha การนั่งรถรางในครั้งนี้
สร้างความฟินให้กับผมมาก เพราะรถราง
จะวิ่งผ่ากลางถนนในเมืองเลย
ทำให้เราเห็นภาพวิถีชีวิตของคนในเมืองโอซาก้าได้ชัดเจน
ที่สถานี Sumiyoshi Taisha
เมื่อผมมองไปฝั่งตรงข้าม
ก็จะเห็นศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ ตั้งเด่นอยู่
ที่ด้านหน้าศาลเจ้ามีซุ้มประตูโทริอิหินตั้งตระหง่าน
อันเป็นสัญลักษณ์บอกให้เรารู้ว่ากำลังเดินเข้ามา
สู่เขตแดนศักดิ์สิทธิ์
2
เมื่อเดินผ่านซุ้มโทริอิเข้ามาจะเห็น
สองข้างทางเดินมีโคมไฟหินญี่ปุ่น
ตั้งเรียงกันอยู่ พร้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่
เมื่อผมมองไปข้างหน้าก็จะเห็น
สะพานไม้สีแดง Taiko Bashi อันเลื่องชื่อ
คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากใครได้เดินข้าม
สะพานแดงแห่งนี้จะโชคดี
2
เรื่องราวเลวร้ายๆจะถูกชำระล้างให้หมดไป
ในวันที่ผมมาผมเห็นครอบครัวคนญี่ปุ่น
ต่างพาลูกแต่งชุดกิโมโนมาเดินข้ามสะพานแห่งนี้กัน
และแน่นอนผมก็ไม่พลาดที่จะเดินข้ามสะพานไม้แดง
Taiko Bashi ด้วยเช่นกัน
3
นอกจากความเชื่อโชคลางแล้ว
สะพานแห่งนี้ยังโค้งสวยงามมาก
เมื่อเราเดินไปทางด้านข้างของสระน้ำ
และหันกลับมาถ่ายรูปที่สะพาน Sumiyoshi Sorihashi
จะได้มุมภาพที่เห็นสะพานสะท้อนลงบนผิวน้ำ
ได้ความโค้งที่รับส่งกันพอดีกับตัวสะพาน
เป็นภาพที่สวยงามจนถึงขนาดได้รับคัดเลือก
ว่าให้เป็น 1 ใน 100 วิวที่สวยงามที่สุด
ในภูมิภาคแถบคันไซเลยทีเดียว
3
คนญี่ปุ่นจำนวนมากจึงต่างพากันมาที่
สะพานไม้ Taiko Bashi
สะพานแห่งนี้จึงสร้างชื่อให้กับศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ
เป็นอย่างมาก
เมื่อผมเดินข้ามสะพานแดงมา
ก็จะเห็นศาลเจ้า 4 หลัง โดยจะมีรั้วไม้สีแดง
ล้อมรอบศาลเจ้าแต่ละหลังไว้
ตัวศาลเจ้าจะใช้สีแดง เคลือบด้วยสีทอง
และมีสีดำกับสีขาวช่วยขับให้เด่นเป็นสง่า
โดยภายในทั้ง 4 ศาลเจ้านั้นเป็นที่สถิต
ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลทั้ง 4 ที่ชาวญี่ปุ่น
นับถือว่าคอยปกป้องชาวประมง
และชาวเดินเรือให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย
แม้ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะจะตั้งอยู่ในเมือง
แต่ภายในศาลเจ้านั้นร่มรื่นเงียบสงบมาก
แม้จะมีคนมาเคารพกราบไหว้จำนวนไม่น้อยก็ตาม
ผมรู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้
เป็นศูนย์กลางของจิตใจของคนในเมือง
ผู้คนหลากหลาย หลากอายุ หลากอาชีพ
ต่างก็มาขอพรกราบไหว้ในศาลเจ้าแห่งนี้
อาจกล่าวได้ว่าที่แห่งนี้เป็นที่พักจิตใจ
ของคนเมือง ให้ได้พักฟื้น
ก่อนออกไปผจญกับวิถีชีวิต
อันเร่งรีบของคนเมืองต่อไป
ต้องยอมรับนับถือรัฐบาลญี่ปุ่น
ที่เขาอนุรักษ์ศาลเจ้าเก่าแก่ในเมือง
แม้มีอายุกว่าพันปีแล้วไม่ให้ถูกทำลาย
แถมยังขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ
และยังเป็นพื้นที่ให้ประชาชนทั่วไปเข้ามา
ใช้ชีวิตในประจำวันได้อีกด้วย
บางทีพื้นที่ในเมืองก็ไม่จำเป็น
จะต้องเป็นแค่ห้าง หรือ คอนโด
พื้นที่มุมสงบ พื้นที่สีเขียว
ก็จำเป็นต่อคนในเมืองเช่นกันครับ
โฆษณา