ฮอด I HOT
"คิดฮอด สวนสนดอยบ่อหลวง หนาวเมื่อไหร่ป๊ะกันนะจ้าว..."
ประเทศในเขตร้อนแบบเรา เมื่อความกดอากาศจากประเทศจีนแผ่กำลังลงมาถือเป็นโบนัสประจำปี ทุกวันนี้ความเย็นจากอากาศหนาวมาเยือนเราน้อยลงเรื่อย ๆ ผลจากสภาพอากาศที่แปรปวรน ดั่งคนวัยทอง เป็นไปได้ว่าโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่ก็เข้าสู่วัยทอง เหมือนมนุษย์แล้วเช่นกัน แปรปรวนเรียกว่าแทบจะรายวัน ไม่กี่ปีก่อนมีลมหนาวเดือนเมษาให้เราสัมผัส แบบงง งง บางปีลมหนาวไม่แม้แต่มาเยือน ธรรมชาติแปรเปลี่ยนไปเสมอ ไม่ต้องสงสัยว่าสาเหตุมาจากมนุษย์นั่นเอง
เมื่อกรมอุตุฯ และโลกเราไม่แน่นอน เราเลือกจะเชื่อตัวเองโดยการพยากรณ์อากาศเอง เราคาดว่าธันวาน่าจะเป็นช่วงที่อากาศย็นลง คำถามคือ ไปไหนดี? กด Google Map หาเส้นทาง ค้นข้อมูลมองหาเสน่ห์ของปลายทาง และหนึ่งใน Destination ของหลายคนคงไม่พ้นภาคเหนือของไทย ปลายทางครั้งนี้คือ ฮอด ที่ค่อยๆ ฮ๊อตและร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อำเภอ ฮอด เป็นจุดผ่านและแวะพักได้เป็นอย่างดี เป็นเส้นทางที่วิ่งไปสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดกับจังหวัดลำปาง ไม่ไกลจากดอนอินทนนท์ ที่เที่ยวมีเพียบ อยู่ที่ว่าจะปักหมุดลงหลักปักฐานไปลุยตรงไหน
ถามใจตัวเองแล้วสรุปได้ว่า "อยากจนหิวไปถึงฟีลต้นสนใหญ่ๆ คล้ายเวลาไปเมืองนอก" สวนป่าสนดอยบ่อหลวง เป็นคำตอบทีใช่กับโจทย์ของเรา ทริปเริ่มจากเมืองเชียงใหม่ ผ่านดอยอินทนนท์จนมาถึงเธอ "อำเภอ ฮอด"
ลูกสนจากต้นสนสูงใหญ่
จุดหมายแรกของเรา "สวนป่าสนดอยบ่อหลวง" ที่นี่เราเห็นคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้ง กลุ่มเพื่อนหนุ่มสาวมาถ่ายภาพลงโซเชี่ยลมีเดียบอกให้โลกรู้ว่า "กูมาเยือน" ผ่านการ Check-in พร้อมหลักฐานเป็นรูปถ่าย กลุ่มบิ๊กไบท์ที่ใช้ สวนป่าสนดอยบ่อหลวงเป็นที่พักผ่อน หย่อนตูด ระบาย คลายอาการเหน็บชา หลังจากขับ ขี่ หนีบมอเตอร์ไซด์คันโตมาเป็นเวลานาน ไปจนถึงนักท่องเที่ยวที่มาเป็นรถตู้ คณะที่มีทั้งผู้สูงวัย บ้างมาเป็นครอบครัว ต่างมุ่งหน้ามาให้ถึง สวนป่าสนดอยบ่อหลวง
สิ่งแรกที่สร้างความประทับใจที่สุดกลับเป็น การเห็นฝูงควายไทย เล็มหญ้าบริเวณทุ่งหญ้าหน้าป่าสน จนต้องหยุดเฝ้าดูความต่างที่กลมกลืนของควายไทยกับป่าสน ป่าต้นสนสูงเป็นแนวเรียงรายจนเรียกว่าป่า มองออกไปมีหลายต่อหลายมุมที่สามารถเก็บภาพสวย ๆไปอวดในโซเชี่ยลได้ อากาศเย็นสบาย ทำให้ไม่เสียเหงื่อมากนัก
ป่าสนดอยบ่อหลวง
เราหามุมยืนบนถนนลูกรังที่ทอดยาวขึ้นเนินเล็ก ๆ เป็นเส้นนำสายตา ทั้งสองฝั่งป่าสนสูง จนได้มุมที่เหมาะในการเก็บภาพกัน จนบางทีจะเรียกเอื้อเฟื้อ หรือจะเรียกเสือกไปช่วยคนอื่น ๆ ถ่ายภาพก็ได้ เพื่อแอบหวังว่าจะถ่ายให้เราด้วย ซึ่งก็ได้ผลทุกคราว ได้ภาพจนเป็นที่พอใจ เราออกจากป่าสนดอยบ่อหลวง ย้อนกลับไปที่ อุทยานแห่งชาติออบหลวง ที่เราผ่านมาก่อนหน้านี้ ไม่นานนักเราก็มาถึง “ออบหลวง”
“ออบหลวง” เป็นภาษาล้านนา ซึ่งคำว่า “ออบ” นั้นหมายถึง ช่องผาแคบ แคบมากจริงๆ จนต้องไปดูด้วยตา พร้อมกับธารน้ำไหลผ่านอย่างเชี่ยวกราก ส่วนใหญ่จะมีโพรงใหญ่อยู่ในข้างใต้น้ำด้วย ส่วนคำว่า “หลวง” หมายถึงใหญ่ "ออบหลวง" จึงเป็นนิยามที่ลงตัวกับสถานที่แห่งนี้ เสน่ห์ของออบหลวงเป็นพื้นที่ ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาเฉพาะตัว ที่มีขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งในเมืองไทย มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้านโบราณคดี โดยเฉพาะร่องรอยความเป็นอยู่ของมนุษย์โบราณตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสีโบราณ เครื่องมือสำริดของมนุษย์ยุคสำริด
ระยะห่างของผาทั้งสอง
ธารน้ำไหลผ่านอย่างเชี่ยวกราก
เส้นทางเดินที่ไม่ยากนัก แดดอ่อนๆ ทำให้การเดินทางไปทางเส้นทางธรรมชาติครั้งนี้ไม่เหนื่อยมากนัก ผาหินแทบจะแนบชิดติดกันตั้งแต่ด้านล่าง เห็นมุมให้เก็บภาพทั้งด้านล่างและด้านบน ตลอดจนสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เราเก็บภาพที่อยากได้ พร้อมเดินต่อเพื่อสำรวจ ภาพเขียนสีโบราณ ร่องรอยความเป็นอยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์
ร่องรอยภาพเขียนสีโบราณ
เส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ
สิ่งที่น่าทึ่งในยุคนั้นมนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติไว้อย่างสมดุลย์ และหากมนุษย์ในยุคนั้นมีโอกาสมาเห็นความเปลี่ยนแปลงไปของโลกใบนี้ คงจะทึ่งในศักยภาพของมวลมนุษย์ชาติรุ่นต่อรุ่น ที่สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มากมายให้เป็นไปได้ เกิดขึ้นได้มากมายรวมไปจนถึงสลดใจกับธรรมชาติหลายๆส่วนที่ถูกทำลายไป ทุกครั้งที่ออกไปสัมผัสธรรมชาติเราคงทำได้ดีที่สุดกับการทำเป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ ได้เห็นและปลูกฝังการรักษาธรรมชาติที่งดงามนี้ไว้
เดินทางมาขนาดนี้ เราคงหนีไม่พ้นที่จะหาที่พักเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติยามค่ำคืน เราเลือกพักที่ สวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ่านชื่อในตอนแรกแล้วยังไม่อยากเชื่อว่าจะดี ที่นี่เรียกว่า ดีมากเลยทีเดียว เราตกหลุมรักด้วยบรรยากาศ ที่ตั้ง และราคา (ถูกอย่างไม่น่าเชื่อหากเทียบกับบรรยากาศ) สิ่งที่ห้ามพลาดคือมื้อเย็นกับหมูกะทะเคล้าควันย่างหมูกับบรรยากาศของอากาศที่หนาวเย็นในช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่าเข้ากันนักแล แน่นอนมื้อนี้อิ่มเพลินพุงจนกลิ้งกลับห้องพักเลยทีเดียว
รถบ้านแคมป์
สำหรับห้องพักมีหลายแบบให้เลือกทั้ง แบบคิ้ว ๆ บ้านเอเฟรมพักได้ 4คน แบบแคมป์ปิ้ง รถบ้านแคมป์พักได้ 2 คน แบบเข้าธีมป่าสนสูง ๆ บ้านทิวสนพักได้ 2คน ไปจนถึง บ้านแฝด พักได้ 2คน บ้านปูนเปลือย พักได้ 4คน ตึกป่าสนพักได้ 2คน และลานกางเต้นท์ 3 ลานทำอาหารได้ผิงไฟได้ ที่นี่เราต้องจองพร้อมมัดจำไปก่อน และต้องบอกว่าเต็มเร็วมาก ส่วนราคาลองถามทางเจ้าหน้าที่ตามลิ้งค์ดู ทางไปจองตามลิ้งค์นี้ https://www.facebook.com/profile.php?id=100069910670040&locale=th_TH
บ้านทิวสน
ทุกการเดินทาง จะมาพร้อมกับประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งสถานที่ ผู้คน และอากาศอยู่เสมอ เพียงแค่รอการเปิดใจของนักเดินทาง ออกไปรับความรู้สึกเหล่านี้
หนาวนี้ที่ ฮอดยังมีที่ฮ๊อต ๆ ให้ไปเยือนและจดจำไม่แพ้ที่อื่นในเมืองไทย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
