4 ทริคสำคัญ!! ที่ชาวอินโทรเวิร์ตต้องรู้ ก่อนสร้างคอนเน็กชั่น
Introvert vs Connection
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากนึกถึงคำว่า “อินโทรเวิร์ต” มักจะนึกถึง คนที่เข้าถึงยาก
พูดน้อย แทบจะตรงข้ามกับคำว่า “connection เยอะ”
หากคุณเห็นด้วยกับข้อความข้างต้น คุณกำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์ ที่จริงแล้ว อินโทรเวิร์ตก็สามารถสร้างคอนเน็กชั่นแบบมั่นคงได้ หากเข้าหาแบบถูกวิธี หนังสือ “สร้างคอนเน็กชั่นแกร่ง ด้วยจุดแข็งของมนุษย์อินโทรเวิร์ต” ของ DaiGo จะพูดหลักๆ เกี่ยวกับ
- ●เรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับอินโทรเวิร์ต (Introvert Myths)
- ●Connection ในอุดมคติ และ superconnector
- ●วิธีดึงดูดผู้คน
Review
ความอ่านง่าย เข้าใจง่าย (Readability) — 4.5/5
เนื้อหาที่แปลกใหม่ (Unique Content) — 3.5/5
ทำได้จริง (Actionability) — 3/5
การจัดระเบียบเนื้อหา (Organization) — 3/5
เป็นหนังสือที่ อินโทรเวิร์ตควรอ่าน ให้ top tier เลย เพราะหนังสืออ่านง่าย มีภาพการ์ตูนประกอบ เหมาะกับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย อ่านไปไม่เสียใจแน่นอน เริ่มจาก
ผู้เขียน DaiGo พบปัญหาเดียวกับอินโทรเวิร์ตหลายคน เรื่องการเข้าสังคม การสร้างคอนเน็กชั่น การดึงดูดผู้คน ไปจนถึงเรื่องการคบเพื่อน มีตัวอย่างงานวิจัยประกอบบ้าง รวมๆ ถือว่าครบเครื่อง
ถ้าให้ติ เรื่องเดียว ก็คือ เรื่องการเอาไปปรับใช้ที่ยาก ต้องออกจาก comfort zone มาพอสมควร สำหรับมือใหม่ที่อยากเข้าสังคม อาจจะสับสนว่าควรจะเริ่มตรงไหน ตอนไหน หนังสือเล่มนี้ ก็ให้บทเรียนคร่าวๆ ที่เหลือ ก็ ลงมือทำ กับ ประสบการณ์ ล้วนๆ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบ การคุยเล่น (small talk) เพราะรู้สึก เหมือนเอาพลังงานไปทิ้งเปล่าๆ แต่หลังจากอ่านหนังสือคอนเน็กชั่นหลายเล่ม บอกตรงกันว่า เราต้องให้ความสำคัญกับ เรื่องที่อีกฝ่ายสนใจ เราควรส่งเสริมให้อีกฝ่ายพูดเรื่องของเขา หนังสือเล่มนี้ก็พูดแนวเดียวกัน
สี่จุดควรรู้ก่อนอ่าน
1) Objective & Purpose
หนังสือเล่มนี้ เน้นการเข้าสังคมแบบ อินโทรเวิร์ต ประหยัดพลังงาน แต่ได้
คอนเน็กชั่นที่ แข็งแรง อีกทั้งเปลี่ยนวิธีคิดผิดๆเรื่อง คอนเน็กชั่น ไม่ต้องเลียนแบบวิธีการเข้าสังคมของคนอื่นก็มีคอนเน็กชั่นที่แข็งแรงได้
2) Recommend for
- ●เหมาะสำหรับคนที่พลังงานการเข้าสังคมน้อย เช่น Introvert หรือ Ambivert Extrovert ก็สามารถนำเทคนิคต่างๆ ไปใช้ได้เช่นกัน
- ●เหมาะสำหรับ คนที่มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ หรือ กำลังอยู่ใน toxic relationships
- ●เหมาะสำหรับ นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการสร้างคอนเน็กชั่น ใน โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย
- ●เหมาะสำหรับ คนทำงานประจำ องค์กรใหญ่ๆ ที่ต้องใช้คอนเน็กชั่น ในการเติบโต
3) Why we should Read and Why we shouldn’t
ทำไมถึงควรอ่าน
- ✓อ่านง่าย เข้าใจง่าย กระชับ มีเนื้อหาอ้างอิง+ภาพประกอบ
- ✓เปลี่ยนความเชื่อผิดๆ เรื่องการเข้าสังคม
- ✓รู้เทคนิคการเข้าสังคมแบบใช้พลังงานไม่เยอะ รู้จิตวิทยาพื้นฐานของคอนเน็กชั่น
ทำไมถึงไม่ควรอ่าน
- ■การจัดระเบียบเนื้อหา ไม่ค่อยเป็นหมวดหมู่ ทำให้จำเนื้อหายากกว่าเดิม
- ■เนื้อหาที่ทำได้จริง ค่อนข้างนามธรรม ปฏิบัติตามยาก ไม่ได้มี To do thing หนักๆ แบบ หนังสือคอนเน็กชั่นเล่มอื่น
4) This book is similar to
How to Win Friends and Influence People —Dale Carnegie
Influence: The Psychology of Persuasion — Robert B. Cialdini
4 ทริคสำคัญ!! ที่ชาวอินโทรเวิร์ตต้องรู้ ก่อนสร้างคอนเน็กชั่น
1) Sometimes you may not be a superconnector yourself, but you can find a superconnector who can help you connect with people.
คุณไม่ต้องฝืนเป็น superconnector แต่คุณสามารถหา superconnector ไว้ช่วย เชื่อมต่อกับผู้คนได้
DaiGo
จำไว้ว่า superconnector คือคนที่ เน้นเข้าสังคมเป็นหลัก และ สามารถจำรายละเอียด ของผู้สนทนาได้ดี เช่น ชื่อ ตำแหน่ง งานอดิเรก พวกเขาไม่ลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือ ขอความช่วยเหลือ
เราไม่จำเป็นต้องกระตือรือร้น หาคอนเน็กชั่นแบบบ้าระห่ำ ไปงานสัมมนาทุกงาน ทักทายทุกคนที่เดินผ่าน วิ่งทำความรู้จักทุกคนในมหาวิทยาลัย จำไว้ว่าเรามีเพดานจำกัดแค่ไม่เกิน 150 คน จะดีกว่าไหมถ้าเรา รู้จัก superconnector แล้ว ให้พาไปแนะนำทีหลัง
วันนี้มากับใคร ผมอยากมีเพื่อนเพิ่ม ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมครับ
DaiGo
2) รู้ว่าอีกฝ่าย เก่งเรื่องอะไร ทักไปขอให้ช่วย — Advice Seeking
จากหนังสือ The 48 laws of power ของ Robert Greene บอกว่า
When asking for help, appeal to people self-interest, never to their mercy or gratitude
Robert Greene
คนเรายิ่งรู้สึกดีเวลาเจอคำถามโฟกัส “ความสามารถของตัวเอง” หากต้องการความช่วยเหลือ อย่าทวงบุญคุณ แต่จงให้ความสำคัญ กับ อีกฝ่าย ขอคำแนะนำจากอีกฝ่ายเพราะ “คนเราไม่ช่วยคนที่เราชอบ แต่จะชอบคนที่เราช่วยเช่นกัน”
DaiGo ได้แนะนำวิธี reconnecting ผ่านวิธี การขอคำแนะนำ (Advice seeking)
ลองจดคนที่เรารู้จักลงบนนามบัตรดูสิครับ
คนนั้นมีลักษณะเด่นทางกายภาพอย่างไร ชอบเรื่องไหน ถนัดเรื่องอะไร
ทุกๆ สามเดือน ลองติดต่อหาคนที่ ช่วยเหลือเราได้ดู มันอาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ถ้าเราให้ความสำคัญกับ ความถนัด หรือ ความชอบ ของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง ทุกคนยินดีช่วยเหลือ คุณอย่างแน่นอน ไม่มีใครใจร้ายกับเราหรอกครับ
ทำอย่างไร ไม่ให้เป็น ผู้รับ (Taker) เพียงฝ่ายเดียว?
ในหนังสือเล่มนี้ได้อ้างอิงแนวคิด “Give and Take” ของ Adam Grant ที่กล่าวว่า กฎของผู้ให้ง่ายๆ คือ Five-Minute Favor ถ้าเราสามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้ ภายใน 5 นาที ให้ทันทันที แล้วเราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรง กับผู้ให้ด้วยกันเองได้
3) Ice Breaking Technics for Small Talk
การพูดคุยอย่างธรรมชาติเป็นสิ่งที่ฝึกฝนกันได้ หากคุณไม่รู้ว่าจะ เริ่มบทสนทนา อย่างไร ลองถามเรื่องที่ เปิดอกคุยกัน เช่น
+Positive
- ●ความเป็นอยู่ปัจจุบัน (เป็นไงบ้างช่วงนี้)
- ●เรื่องที่สนุกมีความสุข (อินอยู่กับอะไร)
- ●งานอดิเรก (เวลาว่างชอบทำอะไร)
- ●ความฝัน เป้าหมาย (จะทำอะไรต่อจากนี้)
-Negative
- ●เรื่องที่หงุดหงิด รับไม่ได้ (ไม่แนะนำให้นินทา)
- ●ข้อเสียของตัวเอง (เรื่องที่อยากปรับปรุงให้ดีขึ้น)
- ●ประสบการณ์น่าอาย (share ความผิดพลาด + เข้าใจ)
เราสามารถใช้ได้ทั้ง positive และ negative ในการเปิดอกคุยกับอีกฝ่าย และ ควรหลีกเลี่ยงประเด็นที่มีข้อขัดแย้ง และ เน้นคุยเรื่องที่มีมุมมองไปในทางเดียวกัน สรุปง่ายๆ คือ หาจุดร่วมระหว่างตัวเองและผู้สนทนา
อย่าบ่นว่าทำไมไม่เจอคอนเน็กชั่นดีๆ ถ้ายังไม่ออกจาก Comfort Zone
DaiGo
4) How to be Attractive
ในหัวข้อนี้ มีส่วนคล้ายกับหนังสือ How to Win Friends and Influence People ของ Dale Carnegie โดย DaiGo ได้นิยาม คำว่า คนมีเสน่ห์ดึงดูดใจสูง ว่า เขาทำให้คนรอบข้างสบายใจ หัวเราะกับคนอื่นประจำ เข้ากับใครก็ได้ มีอิทธิพลต่อคนอื่น และ รู้วิธีชี้นำในกลุ่ม โดยความสามารถของคนที่น่าดึงดูด มีให้เห็นในตารางด้านล่าง
ข้อมูลอ้างอิงจาก บทที่ 6 ของสร้างคอนเน็กชั่นแกร่งด้วยจุดแข็งของมนุษย์อินโทรเวิร์ต และ บทที่ 2 ของ How to Win Friends and Influence People
#introvert #connection #selfimprovement
#หนังสือพัฒนาตนเอง #อินโทรเวิร์ต #คอนเน็กชั่น #4จุดต้องจำ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
