9 ส.ค. 2023 เวลา 15:52 • ท่องเที่ยว
กัวลาลัมเปอร์

ประสบการณ์การเดินทางเที่ยวแบบ Backpacker ครั้งแรกของเราที่มาเลเซีย-สิงคโปร์ Ep.4

Ep. ที่แล้ว ปันได้ออกเดินทางท่องเที่ยวในตัวเมือง KL ในวันวันเกิดของปัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแลนด์มาร์กของประเทศเช่น จตุรัสเมอร์เดกา, มัสยิดแห่งชาติ, ตึกเปโตรนาส ฯลฯ
Ep.นี้ เราจะไปขึ้นเขากันที่ Genting highlands และเป็นการเที่ยวมาเลเซียเป็นวันสุดท้ายก่อนที่วันต่อไปเราจะเดินทางเข้าสิงคโปร์กัน 🚌🇸🇬
ต้องบอกไว้ก่อนว่าความตั้งใจแรกเราไม่ได้ไป Genring Highlands หรอก เพราะคิดว่ามันไกล แผนเดิมคือเราจะไปเที่ยวถ้ำบาตู แล้วก็มาเดินเล่นแถวบูกิตบินตัง จริงๆวันนี้ค่อนข้างจะ Free Time เลยละ แต่ว่าเพื่อนได้รู้จักกับเพื่อนคนไทยที่อยู่ที่นี่ แล้วก็ไป Genting กัน ซึ่งรู้ว่าการเดินทางนั้นง่ายมากและใช้เวลาไม่นาน ดังนั้นก็เลยไปที่นี่
DAY 4 (22 July 2023)
เราออกจากที่พักประมาณ 9 โมงครึ่ง โดยเพื่อนได้นัดเพื่อนอยู่ที่นี่ ไปที่ Genting Highland กัน วิธีการการเดินทางไปที่นั่นคือ ให้มาซื้อตั๋วที่ชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟ KL Sentral ราคาคนละ 20RM (~160 บาท) แต่รอบที่ได้คือ บ่าย 2 โมงซึ่งถือว่านานมาก เพราะความจริงถ้าหากตั๋วไม่เต็ม แล้วก็ขึ้นเที่ยว 10 โมงครึ่งได้ ก็เลยทำให้เรามีเวลาไปเที่ยวในตัวเมืองได้หลายชั่วโมง
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็นั่งรถไฟฟ้าไปที่ Pasar Seni เพื่อไปไชน่าทาวน์ ซึ่งที่นี่ก็มีร้านขายของจำนวนมาก ทั้งร้านของฝาก ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านของใช้ต่างๆ แต่เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาซื้อของ เอาจริงๆก็คือเรามาเพื่อเป็นทางผ่านเท่านั้นแหละ เพราะที่เพื่อนเค้าอยากจะพาเราไปกันก็คือ ร้านหนังสือ REXKL หรือ Book Xcess มันเป็นร้านหนังสือที่เป็นไปมากกว่าร้านหนังสืออ่ะ📚
ไชน่าทาว์น KL
ร้าน REXKL เป็นร้านหนังสือที่ตั้งอยู่ข้างข้างไชน่าทาวน์ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที จากสถานี Pasar Seni ถ้าเราเดินตาม Maps ก็จะใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ด้วยตัวตึกจะเป็นตึกประมาณ 4 ชั้น ไปโรงละครเก่าด้วย ตัวร้านหนังสืออยู่ชั้น 3-4 ซึ่งชั้น 3 ก็จะเป็นร้านหนังสือทั่วไป ส่วนชั้น 4 ที่เป็นไฮไลท์ นั่นก็คือการวางชั้นหนังสือ
ชั้นวางหนังสือในร้าน REXKL 📚
ชั้นวางหนังสือของร้านนี้ จะเป็นแบบที่เห็นในรูปก็คือมีการจัดวางแบบ Loft ที่ค่อนข้างจะสวยงาม อีกทั้งยังมีมุมที่คล้ายกับเป็นเขาวงกตของชั้นหนังสือ แล้วก็ยังมีช่องที่ไว้สำหรับการถ่ายรูปสวยๆอีกด้วย ซึ่งในวันที่ไปนั้นก็ยังมีการรีโนเวทอยู่ และโซนที่รีโนเวทนั้น ก็เป็นพื้นที่เวที เพราะว่าร้านหนังสือที่นี่เคยเป็นโรงละครเก่ามาก่อน แล้วเค้าก็นำมารีโนเวทใหม่ ก็ไปลองถ่ายรูป หรือไม่ก็ไปซื้อหนังสือได้ที่นี่ เปิดทุกวัน 10 โมงถึง 4 ทุ่ม
จากนั้นเราก็เดินเล่นแถวนี้ มีไปตลาด Central Market ด้วย ตัวในตลาดนั้นก็เป็นร้านขายของ ที่ระลึกเป็นหลัก แล้วก็มีโซนของกิน แต่ก็เดินได้แค่แป๊บเดียวแล้วก็ออกมา แล้วก็ขึ้นรถรถไฟที่สถานี KL Sentral เพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไป Genting Highlands โดยเราได้แวะทานข้าวที่ NU Sentral แต่ก็เป็นมือที่ค่อนข้างรีบนิดหนึ่ง เพราะว่าเรามาถึงที่นี่ตอนประมาณบ่ายโมงกว่า แล้วก็กว่าจะ อาหารมาก็เกือบบ่ายโมงครึ่งแล้ว แต่เที่ยวรถที่เราจะไปคือประมาณบ่าย 2 ดังนั้นเราต้องรีบกิน ไม่งั้นจะตกรถแน่
รถบัสไป Genting Highlands
รถบัสที่เราขึ้นเป็นรถบัสคันในรูป ซึ่งก็จะพาเราไปที่ Genting Highlans เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วรถออกตรงเวลาด้วย จริงๆแล้วก็มีรถของ Genting Skyworld ที่จะไปที่นั่นเหมือนกัน แต่ว่าเราต้องซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกเค้า ถึงจะขึ้นรถไปได้
Genting Highlands เป็นเหมือนเมืองที่ตั้ง อยู่ข้างบนเขาของมาเลเซีย รอยต่อระหว่างรัฐปะหัง กับรัฐสลังงอร์ ซึ่งเป็นรัฐของ KL ทางเข้าอยู่ฝั่งสลังงอร์ แต่ตัวเมืองอยู่ รัฐปะหัง เป็นสถานที่ที่รวมทุกอย่างที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งกระจายรายได้ที่สำคัญของมาเลเซีย ที่นั่นจะมีทั้ง โรงแรม คาสิโน สวนสนุก เอาต์เล็ท ฯลฯ 🏨🎰🎢 ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000-1,600 เมตร ซึ่งอากาศจะเย็นตลอดปี อย่างช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายเดือนกรกฎา แต่อุณหภูมิในตอนเช้าอยู่ที่ประมาณ 14-15 องศา และสูงสุดไม่เกิน 25 องศา
ระหว่างทางก็หลับบ้างตื่นบ้าง ปันก็ได้เห็นบรรยากาศรายทางที่มีความแตกต่างกันจากที่เป็นตัวเมืองใหญ่ สู่ชานเมือง แล้วก็เขตภูเขาสูง ⛰️🏔️ แล้วก็โค้งหลายโค้ง ซึ่งบอกเลยว่าใครที่เมารถง่ายแนะนำให้เอายามาด้วย เพราะโค้งเยอะมากแล้วก็คดด้วย
ทางภูเขาขึ้นมาที่ Genting Highland
มาถึงที่ Genting ประมาณเกือบบ่าย 3 โดยรถจะจอดอยู่ที่เอาท์เล็ต ซึ่งอยู่ข้างล่าง ถ้าเราจะขึ้นไปที่เป็นคาสิโนหรือสวนสนุก เราต้องซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า คนละประมาณ 9RM (~70 บาท) เป็นแบบไปกลับ ซึ่งจะอยู่บริเวณชั้น 4 ของตึกที่ลงรถ ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ก็เข้าขั้นตอนของ Security Chek แล้วก็เดินตามแถวแล้วรอขึ้นกระเช้า จากด้านล่างขึ้นด้านบนใช้เวลาประมาณ 10 นาที ตอนขึ้นไม่เท่าไหร่แต่ตอนลงนี่สิ คือเสียวมาก ไม่รู้มาก่อนแน่ว่ากลัวความสูงขนาดนี้ 555 😱😰
บรรยากาศระหว่างทางขึ้นกระเช้า
โดยตัวกระเช้าจะมีจุดลง 3 จุดด้วยกัน คือ เอาท์เล็ตที่เราขึ้นมา กลางทางที่เป็นวัดชินเสว่ย (Chin Swee) ซึ่งเป็นวัดจีน แล้วก็ด้านบนสุดซึ่งเป็น สวนสนุกและคาสิโน ที่พวกเราจะขึ้นไป ซึ่งหลังจากเลยจุดลงของวัดไปแล้ว หลังจากนั้นตัวกระเช้าก็ ทะลุเมฆไปเลยมองอะไรไม่เห็นนอกจากหมอกที่อยู่ในเมฆ แม้แต่ถึงด้านบนสุดก็ยังเป็นหมอกอยู่ เหมือนกับที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นเมืองทะลุม่านเมฆ หรือเมืองสวรรค์ อย่างนั้นเลย
หมอกที่จุดสูงสุดของสถานีกระเช้า
เมื่อถึงตัวสถานีปลายทางแล้ว เราก็ออกจากตัวกระเช้าซึ่งอยู่ในพื้นที่ ที่เป็นสวนสนุกเลย สวนสนุกที่นี่แบ่งออกเป็นสองโซน โซนแรกเป็นโซนในร่ม ก็จะมีเครื่องเล่นมากมายให้เราได้เล่นกัน มีทั้งรถไฟเหาะ ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ นั่งรถกระเช้าลอยฟ้า ฯลฯ แต่ว่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างนั้นเราจะต้องเสียค่าเข้า ซึ่งราคาก็มีตั้งแต่ 10RM-เกือบ 100RM ก็มี ซึ่งก็ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่สำหรับพวกเรา เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วพวกเรามาที่นี่ก็เพื่อมาเก็บบรรยากาศว่าพวกเรามาที่นี่แล้วเท่านั้นเอง
สวนสนุกในร่ม Genting Highlnds
และนอกจากโซนสวนสนุกในร่มแล้ว ตึกนี้ก็มีห้างร้านต่างๆ มาเป็นห้างทั่วไปเลย ไม่มีอะไรหรูหราไปมาก และโซนนี้ก็ยังเป็นทางเชื่อมไปโรงแรม First World Hotel ซึ่งที่นี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเคยได้รับรางวัลจากกินเนสบุ๊ก เกี่ยวกับสถิติโรงแรมที่มีจำนวนห้องมากที่สุดในโลก ถึง 7️⃣3️⃣5️⃣1️⃣ ห้องด้วยกัน ในแง่ของการเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว
ปัจจุบัน โรงแรม Abraj Kudai ในเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นโรงแรมโรงแรมที่ใหญ่และมีจำนวนห้องมากที่สุดในโลก โดยรวมกันมากกว่า 10,000 ห้อง ซึ่งเปิดบริการตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเป้าหมายหลักจะเปิดเพื่อให้ผู้แสวงบุญมาประกอบพิธีฮัจญ์ ได้เข้าพัก
รางวัลจากกินเนสบุ๊กของโรงแรม First World Hotel 🏨
เมื่อเราขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ซึ่งเป็นโซร้านอาหารกลางแจ้ง เราจะได้เห็นวิวของ Genting Highlands แบบ 360 องศา แล้วก็เห็นได้ทั้งหมด ทั้งโซนสวนสนุกกลางแจ้ง หรือ Genting Skyworlds กระเช้าลอยฟ้าที่เรานั่งมาจากเอาท์เล็ต ฯลฯ และช่วงนี้อากาศค่อนข้างเปิดกว่าตอนที่เรานั่งขึ้นมา เราก็จะได้เห็นวิวของเมืองที่ทะลุเมฆขึ้นมา
วิวตึก Genting Highlands
จากนั้นเราก็เดินเตร่ไปถ่ายรูปหลายที่ ทั้งที่หน้าทางเข้า Skyworlds แล้วก็ตรงบริเวณสวน โดยเราจะต้องเดินผ่านโรงแรม Skyworlds ตรงสวนจะถ่ายรูปออกมาสวยมาก เพราะจะได้เห็นทั้งวิวข้างล่าง แล้วถ้าอากาศเปิด ไม่มีเมฆ ก็จะเห็นตัวเมือง KL ได้ แล้วก็เห็นตึกเปโตรนาส หรือ Merdeka 118 จากที่นี่ได้เลย
วิวจากสวน Genting Highlands
พอตกเย็นก็ไปหาข้าวกินในตัวตึก ราคาก็ไม่แพงมากสำหรับที่นี่ ราคาก็ 19.9RM (~160 บาท) เป็นนาซิ เลอมัก 10.9RM แล้วก็ขนมสังขยา ที่เหมือนเป็นสามเหลี่ยม ใส่ใส้สังขยาของฝากเมืองตรังอ่ะ ซื้อมา 3 ชิ้น ราคา 9RM รสชาติก็คืออร่อย น้ำก็มีให้เลือกในเซตนี้เลย
จากนั้นก็ถึงเวลากลับ KL แล้ว แต่ว่าก่อนอื่นก็ต้องบอกลาเงินริงกิตที่มีประมาณ 80 กว่าริงกิต เพราะว่าเราจะแลกเงินจากริงกิต ให้เป็นดอลล่าร์สิงคโปร์ (SGD) เพราะวันต่อมาเราต้องขึ้นรถบัสออกจาก KL และมาเลเซีย ปลายทางคือที่สิงคโปร์ ปันแลกส่วนที่เป็นแบงค์ริงกิต 75 ริงกิต (5 ริงกิตเก็บไว้เป็นที่ระลึก สะสม เพราะนี่เป็นคนชอบสะสมแบงค์ของประเทศที่ไป)
แล้วก็กดเงินเพิ่มจากที่มีเงินในบัญชีของไทย ความที่ลืมเติมเข้า Travel Card ประกอบกับไม่มีเน็ตอีก ก็เลยต้องกดไปยังงั้นเลย ก็เลยคิดเลทแพงคือ 1 ริงกิต = 8บาทไปเลย (จุดแลกเงิน 7.6 บาท) คือแพงมา 40 สตางค์ แล้วก็ชาร์จเพิ่มเป็นค่าธรรมเนียม 100 บาท/ครั้ง นี่กดไปถ้าจำไม่ผิดประมาณ 300 ริงกิต แล้วก็เอาไปแลก
พอไปแลกก็พนักงานบอกว่า ขอเพิ่มอีก 46 ริงกิตเพื่อที่จะได้เป็น 100SGD (2620 บาท)
**💵สรุปจ่ายไป 346 ริงกิต ได้มาเป็นเงิน 50SGD 2 ใบ🇸🇬** แล้วเหลือไว้อีกประมาณ 35 ริงกิต ไว้เผื่อซื้ออะไรระหว่างทาง เงินประมาณนี้ก็อยู่ได้แหละ เพราะวันต่อมา ก็คงไม่ได้ใช้เงินริงกิตแล้วละ
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวกลับ KL รถที่จองไว้ออก 4 ทุ่มครึ่งนู่นเลย มาถึงที่โรงแรม เกือบๆ เที่ยงคืน ระหว่างทางไป KL แทบจะมองไม่เห็นอะไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่ประทับใจในยามค่ำคืน (แต่ก็เสียววาบด้วยในเวลาเดียวกัน 🤣) นั่งก็คือวิวที่เราสามารถเห็น KL ในยามค่ำคืนจากกระเช้าได้ ซึ่งสวยมากๆ เหมือนถูกฉาบด้วยสีทองของแสงไปในเมืองใหญ่ ที่สะท้อนมายังที่ตั้งของเมืองลอยฟ้า ความสูงกว่า 1,600 เมตรได้ เป็นวิวที่งดงาม ปิดท้าย Day วันนี้ แล้วก็ปิดท้ายทริปในส่วนของประเทศมาเลเซียนี้
วิวเมือง KL จากกระเช้า
และแล้วก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Day 4 ที่เป็นวันสุดท้ายของทริปเที่ยวในส่วนของมาเลเซียในครั้งนี้ด้วย ใน Day 5 นี้ก็ยังจะอยู่มาเลอีกครึ่งวันเช้า เพราะเป็นการเดินทางจากรถบัส KL ไปส่งถึงสิงคโปร์เลย โดยออกจากมาเลที่ยะโฮร์บารู หรือ JB แล้วเข้าสิงคโปร์ จะเป็นยังไงบ้าง ฝากติดตามต่อในโพสต์ต่อไปในวันพรุ่งนี้ด้วยจร้า 👋🏻🙏🏻
💸 ค่าใช้จ่ายทั้งหมดใน Day 4💸
  • ค่ารถไป-กลับ KL-Genting Highlands 20RM (~160 บาท)
  • ค่ารถไฟไป Pasar Seni (Chinatown KL) 1.1RM (~10 บาท)
  • ค่าข้าวก่อนไป Genting 24RM (~190 บาท)
  • ค่าข้าวตอนเย็น 19.9RM (~160 บาท)
รวมทั้งหมดประมาณ 520 บาท
โฆษณา