10 ส.ค. 2023 เวลา 05:38 • สุขภาพ

ประสบการณ์การใช้ประกันสังคมครั้งแรก

ผมเพิ่งเกิดความผิดพลาดในชีวิตขึ้นมาอย่างหนึ่ง จริงๆมันก็พลาดมานานแล้วแหละ แต่เพิ่งมาเห็นผลของมัน
นั่นก็คือการเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมใจกลางกรุง
มันคงไม่มีปัญหาอะไรหากผมพักอาศัยอยู่ไม่ห่างไกลกัน แต่ประเด็นคือผมอาศัยอยู่ชานเมืองไกลๆเลย การจะถ่อสังขารเข้ามากลางกรุงนี่ต้องรีบตื่นตั้งแต่ตีสี่
สาเหตุที่เลือกรพ.แห่งนี้ก็เพราะคิดว่ามันอยู่ใกล้ออฟฟิศที่สุด ถ้าเราป่วยแถวบ้านเราก็ใช้ประกันอื่นๆที่เรามี ถ้าเราป่วยแถวออฟฟิศก็ใช้ประกันสังคม
ซึ่งมานั่งคิดดูตอนนี้แล้วมันตลกมาก เพราะเราจะป่วยที่ไหนเราก็ใช้ประกันที่เรามีได้เว้ย ทั้งที่ทำเองและประกันกลุ่มของออฟฟิศ ถ้าป่วยฉุกเฉินก็เข้าได้ทุกที่อยู่แล้ว
อ้าว ถ้าคิดได้แบบนี้ แล้วทำไมผมต้องเข้ามารพ.แห่งนี้ใช่ไหม ผมจะเล่าให้ฟังถึงความผิดพลาดข้อที่2(ที่เกิดก่อนข้อแรก)ให้ฟังครับ
สมัยก่อนนู้นนน ตอนที่ผมยังเรียนไม่ทันจบมหาวิทยาลัย แม่ผมจะทำประกันให้ คราวนี้มันต้องมีการตรวจร่างกายก่อนทำ
ระหว่างที่ตรวจๆไป หมอก็ถามนู่นถามนี่ จนถามว่าร่างกายผิดปกติตรงไหนไหม ไอ้เราก็ตอบไปด้วยความซื่อว่าเข่าซ้ายเคยเจ็บครับ เคยเตะบอลแล้วล้ม หมอก็บันทึกไปตามนั้น
สรุปว่าเข่าซ้ายของผมจะอยู่นอกประกันไปเลย ทั้งที่เราไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้ถ้าหมอตรวจไม่เจอ แล้วตอนนั้นมันก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นด้วย แค่บอกหมอไปว่าเคยมีอาการ แล้วจะพูดเพื่อออ
ตัดภาพมา 15ปีผ่านไป เข่าเริ่มอาการไม่ดี ประกันก็ไม่มี ต้องมาจบที่ประกันสังคมนี่แหละครับ
แต่ผมก็เพิ่งมาคิดได้ระหว่างที่เขียนอยู่นี้ว่าา ถ้าเราใช้ประกันกลุ่มเพื่อตรวจเข่าและทำ mri มันก็น่าจะ cover อยู่นะ ไม่ต้องรอนานด้วย เออ พลาดอีกแล้ว เอาเป็นว่าต่อไปนี้จะเป็นบันทึกสิ่งที่เจอระหว่างที่ไปให้หมอตรวจก็แล้วกัน
อย่างที่เรารู้ๆกันว่ารพ.รัฐจะมีคนมารอคิวเยอะมากก และรีบมากันตั้งแต่เช้ามืด พอได้เป็นเห็นกับตาก็รู้สึกว่ามันวุ่นวายกว่าที่คิดพอสมควร
เริ่มด้วยการเดินงงๆเข้าโรงพยาบาล แล้วก็หันซ้ายหันขวา เอ๊ะ ต้องไปตรงไหนต่อวะ ก็เลยถามรปภ. เค้าก็ชี้ว่าแถวประกันสังคมอยู่ตรงไหน
ยืนต่อคิวได้พักนึง ประมาณ6โมงนิดๆ มีพยาบาลเดินประกาศว่าแถวอะไรอยู่ตรงไหน คนก็รุมถามเพียบ จนผมเองก็เข้าไปถามว่ามาครั้งแรกต่อคิวตรงนี้ใช่มั้ยครับ อ่อ ไม่ใช่จ้า ไปเขียนประวัติแล้วต่อแถวตรงโน้น โธ่ ยืนตั้งนาน
เขียนเสร็จ ไปต่อแถวยื่นเอกสาร วัดความดัน แล้วรอเข้าพบแพทย์ แพทย์จะมา8โมง ตอนนั้นยังไม่7โมงเลยด้วยซ้ำ ก็เลยออกไปนั่งกินกาแฟรอ
8โมง กลับเข้ามาอีกครั้ง รอไม่นานก็ได้พบแพทย์ อธิบายอาการไปว่าเจ็บยังไง เค้าก็มาดึงๆตรงเข่าแล้วก็บอกว่ามันก็ดูแน่นดีนะ ยังไม่หลวม เดี๋ยวลอง x-ray ดูก่อนแล้วกัน
เอาเอกสารไปต่อคิวเข้าห้อง x-ray นานพอสมควรเพราะคนเยอะมาก พอได้เข้าไปข้างในก็เข้าใจแหละว่าทำไมนาน กว่าจะจัดท่า กว่าจะถ่าย มันก็ต้องใช้เวลาอ่ะเนอะ แต่ละคนก็ต้องจัดท่าถ่ายตามอาการ อย่างของผมต้องนอนตะแคงแล้วจัดเข่าให้อยู่ในท่างอๆหน่อย
ถ่ายเสร็จไปพบหมอคนเดิม หมอดูฟิล์มแล้วบอกว่าเหมือนจะเข่าเสื่อม ส่งไปรับยาแก้ปวดแล้วคุยกับหมอกระดูกดูก่อนละกัน
ไปยืนรอรับยา นี่ก็นาน รับเสร็จไปหาหมอกระดูกต่อ ยื่นเอกสารให้พยาบาล พยาบาลถามว่ารับยาแล้วนี่ ยังจะหาหมอกระดูกอยู่อีกเหรอ ก็เออสิวะ ก็หมอเค้าส่งมา จะถามให้ไขว้เขวทำไมนิ
รับคิวรอพบหมอกระดูก โอ้โห คราวนี้เป็นการรอที่ยาวนานแบบสุดๆ เกือบๆสองชั่วโมงได้ คนในแผนกกระดูกเยอะมากกก ทั้งเด็กทั้งแก่ นั่งเล่นมือถือรอจนแทบหลับก็ยังไม่ได้พบ นั่งลุ้นแล้วลุ้นอีกกว่าจะถึงคิวตัวเอง
พอได้คุยกับหมอ หมอดึงเข่าแล้วบอก อืม เอ็นไขว้หน้าน่าจะขาดแล้วแหละ หลวมขนาดนี้ (แต่หมอก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดแบบนี้นะ ความชำนาญคนละแบบแหละ) แล้วหมอก็ให้กลับไปแผนก x-ray อีกรอบเพื่อ x-ray ท่าใหม่และนัดคิวทำ MRI
ถึงตรงนี้ติดพักเที่ยงพอดี เลยออกไปกินข้าวแล้วก็นั่งรอร้านกาแฟเช่นเคย
ใกล้ๆบ่าย กลับมารอที่ห้อง x-ray พยาบาลบอกว่า
เดี๋ยวใบนี้ใส่ถาดเขียวนะคะ เอ๊ะ อืม.. เออ เข้าไปเลย เดี๋ยว x-ray เสร็จแล้วนั่งรอข้างในก่อนนะคะ เดี๋ยวจะเรียกชื่อ
คุณพยาบาลหน้าห้อง x-ray
อ่ะ โอเค ก็เข้าไป รอบนี้ต้องเปลี่ยนชุดก่อนจะถ่าย เปลี่ยนไปใช้ห้องที่ใหญ่ขึ้นในการถ่าย แล้วก็ถ่ายทั้งท่านอนท่ายืน บลาๆ
ถ่ายเสร็จก็นั่งรอออ รอไปชั่วโมงนึงไม่เห้นเรียกชื่อซักที เลยไปถามเค้าว่าลืมชื่อเรายางงง พยาบาลบอกว่า
ไม่เอาเอกสารใส่ถาดเขียวไว้เราก็ไม่เรียกชื่อนะคะ
พยาบาลคนเดิม
เอ๊า ก็ทำไมไม่บอกให้รู้เรื่องแต่แรกเล่าาา รอไปอีกครึ่งชั่วโมง ได้เอกสารใบใหม่แล้วขึ้นไปห้องเจาะเลือด เพิ่งรู้ว่าก่อนทำ MRI ต้องมีการเจาะเลือดด้วย เพื่อไรไม่รู้เหมือนกัน
ขั้นตอนหลังจากเจาะเลือดก็แค่เดินถือเอกสารลงมาห้องกระดูกแล้วนัดทำ MRI กับนัดคุยหมออีกรอบ จบ รอไปอีกสองเดือนถึงจะได้คิวทำ MRI
มาถึงตรงนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่าน่าจะต้องหารพ.เอกชนเพื่อตรวจใหม่ตั้งแต่ต้น เพราะขนาดคิว MRI ยังนานขนาดนี้ คิวผ่าก็คงบวกไปอีกนาน กว่าจะถึงตอนนั้นน่าจะนานเกินไปแล้วล่ะ สุดท้ายก็ต้องควักเงินจ่ายเองอยู่ดี เศร้า
เดินออกจากรพ. ข้างนอกฝนยังตกอยู่นิดหน่อย ระหว่างที่เดินกลับดันไปเหยียบพื้นลื่นๆเกือบหงาย แต่ดีที่เข่าไม่พลิก เกือบได้ผ่าเร็วกว่าที่คิดซะแล้ว
โฆษณา