10 ส.ค. 2023 เวลา 09:11 • ครอบครัว & เด็ก
ภาพชีวิตและปัญหาของคุณ ดูจะใกล้เคียงกับครอบครัวของลูกน้องเก่าคนนึง
พ่อเป็นคนสวน ติดดื่มเหล้าซะด้วยแต่ดื่มตอนเย็นๆถึงค่ำทุกวันแล้วเข้านอน
กลางวันเป็นอีกคนนึงที่เป็นชาวสวนตัดหญ้าใส่ปุ๋ย รดน้ำ สวนมะนาว สวนชะอม
มะม่วงหิมพานต์ ค้างฟักแฟง พืชสวนทั่วไป แม่ก็เป็นแม่ค้าที่นำของเกษตร
ออกขายที่ตลาดต้องตั้งร้านบ่าย1โมงแดดเปรี้ยงทุกวัน
ผู้หญิงตัวคนเดียว ลูกติด 2 คน สามีก็ไม่ค่อยทำงานช่วยเพราะมีงานโรงงาน
แรกๆก็เห็นว่ามีปัญหาในเรื่อง ลูกเขย ที่กินอยู่ในบ้านแต่ไม่ค่อยช่วยแบ่งเบาภาระ
ครอบครัวระส่ำพอสมควร เพราะผู้ชายตัวหลัก พ่อมีปัญหาสุขภาพร่างกาย
สามีต้องออกจากบ้านมากกว่าอยู่สวน
หลังๆหักดิบพ่อไม่ได้ก็ต้องหักดิบสามี
ให้แลกกับการหยุดเป็นพนักงานมาช่วยงานสวน ตัวแม่ลูกสองก็ต้องลงมือคิด
สร้างทำเองกับแม่แทบทุกอย่าง ให้พ่อเป็นแรงประครองตอนช่วงเวลามีแสงสว่าง
จะเป็นพ่อคนสวนที่ดีแต่หมดแสงอาทิตย์ก็จะเปลี่ยนเป็นสิงห์เหล้าคนละคน
วันตลาดนัดอาทิตย์ละสามวัน ต้องตื่นแต่ตี4เลือกผักที่ตลาดส่งในเมืองมาคัดแยก
ใส่ถุงขายรวมกับพืชสวนของตัว ขายอย่างนี้เหนื่อยอย่างนี้มา 3-5ปี
เริ่มเห็นกำไร พืชสวนก็เริ่มมีผลผลิต หลังๆทำเองไม่หมดก็เริ่มมีคนงานรายวัน
ที่ว่างในหมู่บ้านมาช่วย จ้างแรงงานชาวบ้าน และจ้างเพื่อให้ขายหน้าร้านหน้าแผงและคุมดูแล คิดวางแผนวัตถุดิบในวันต่อๆไป ลูกก็ต้องเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายไม่ธรรมดา
แต่ด้วยวิะีคิดลดแรงตัวเอง กับการมองเพื่อเตรียมขายไปข้างหน้าทำให้มองเห็นโอกาสไปเรื่อยๆมีแผงผักมากขึ้นจาก 1ที่เป็น 2 ที่ รายได้ดีขึ้นเรื่อยจนเริ่มอยู่ตัว
หลังสุดโชคไม่ดีมากคือสามีไปติดผู้หญิงและตัดสินใจเลิกลาไป ก็เลยไม่ต้องกังวล
ลุยเพื่อครอบครัวพ่อแม่จริงๆ ก็ไปได้สบายตัวเลย
จุดสำคัญน่าจะอยู่ที่ความแกร่ง ความชัดเจน กล้าตัดสินใจแม้กระทั่งกล้าตัดใจ
ที่ไม่คาราคาซัง เหตุผลบนความห่วงใย ร่วมทุกข์ร่วมสุขในยามที่สามีหรือภรรยา
วิกฤติ ถ้าไม่เอื้อไม่จุนเจอไม่มีใจกัน ลังจะทำให้ครอบครัวอุปสรรคผ่านไปได้ยาก
ผมไม่รู้ว่า วัยวุฒิอายุของคุณ วุฒิภาวะอยู่ในเกณฑ์ใด แต่อายุไม่ได้วัดความคิดอ่าน
สิ่งที่สำคัญที่สุด มันคือต้องเข้าใจกัน ร่วมกันทำและเห็นธุรกิจของบ้านของสวนเป็น
สิ่งที่ต้องทำด้วยความสุขร่วมกัน ไม่งั้นแม้กระทั่งคุณยังมองว่า มันเป็นภาระสุดแสนจะทุกข์ทรมานทั้งใจและร่างกาย
ถ้าพ่อ แม่ ลูกสาว (หลานอาจไม่ได้บอกไว้ว่ามีลูกหรือไม่) ถ้าใจรวมกัน เป้าหมายเพื่อสวนเพื่อบ้านเพื่อการมองว่า"นี่คือความสุข"ทุกอย่างย่อมผ่านอุปสรรคไปได้แล้ว
การที่คุณได้พักสมองไม่ต้องคิดเรื่อง"สามี"ถ้ามันจำเป็นต้องตัดใจว่า"ไม่ใช่"ถ้ายังไม่ได้มีลูกเต้า ก็น่าจะต้องชัดเจนในเป้าหมายด้วยกัน
วันนั้นคุณอาจจะมองเห็นโอกาส
ด้วยสมองโปร่งๆ และอาจใช้ความคิดในการบริหารจัดการตัวเอง นำตัวเอง นำแทนพ่อ จนพ่อกลับมาเป็นแรง ไม่ต้องออกจากบ้านไปรับจ้างก็ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ครับ ลืมบอกไปว่า แผงผักลูกน้องที่ตลาด ขายผักอย่างเดียวตอนนี้มีรายได้
จ้างคนช่วยแรงสวนและช่วยแรงแผงผักเป็นสิบคนเลยครับ
น่าดีใจกับการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของเขา สู้ๆนะครับ ก็เป็นกำลังใจอีกคนหนึ่ง เห็นว่าปัญหาของคุณคล้ายกับลูกน้องในอดีตที่หยิบยกมาแบ่งปัน เลือกคิดเลือกอ่านเลือกมองทางออกดีๆ
คิดเสมอนะครับว่า"ชีวิตไม่มีทางตัน เพียงแต่เราจะไม่เดินไปต่อเท่านั้น"
เขียนเพื่อเจ้าของกระทู้เผื่อมีเวลาอ่าน และขอโทษท่านอื่นๆด้วยครับที่เขียนยาวมาก
อาจไม่ได้เป็นประโยชน์กับทุกท่าน
สำคัญของสำคัญสุด :
สุขภาพของคุณสำคัญที่สุด ตอนนี้เดาว่า"ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามตาย"
อย่าให้สะดุด อย่าให้พังพาบไปซะก่อน ด้วยความเครียดสุดขีด
ผ่อนมันลงหน่อย ค่อยๆผ่อนคลาย ต้องSaveไว้บ้าง ค่อยๆตีตื้น คิดเป็นเรื่องๆ
แม้กระทั่งเรื่อง"ปัญหาครอบครัวของคุณ" หากวันนึงต้องถึงจุดแตกหักแยกทาง
หรือเว้นวรรคชีวิตกันก็ตาม
พิจารณา คิดอย่างมีสติ และมองความเป็นไปได้เพื่อให้ระบบของชีวิต
ลงตัวอย่างรอบครอบมีแผนในเรื่องที่จะจัดการให้สามารถเดินต่อไปได้
โฆษณา