11 ส.ค. 2023 เวลา 11:15 • ไลฟ์สไตล์
สยามพารากอน

Lip Lab @Craftfeteria, Siam Paragon

คราวนี้ขอวนกลับมาคอนเทนต์ในประเทศไทย สำหรับสาวๆสายคราฟท์โดยเฉพาะ วันนี้เรามากันที่ Lip Lab, Craftfeteria ที่ชั้น 3 บริเวณโซน BeTrend สยามพารากอน สำหรับคนจอมหลงทางอย่างแอด ก็หาร้านไม่ยากค่ะ ร้านจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างบันไดเลื่อนสองแห่ง ก่อนไปก็สามารถทักไปถาม แล้วแอดมินร้านก็จะส่งแผนที่คร่าวๆ มาให้เราด้วยค่ะ
แผนที่จากทางร้าน
ขั้นตอนแรกก็มาเริ่มที่เลือกประเภทลิปที่จะทำกันเลยค่ะ ลิปที่ทางร้านมีแบ่งเป็น 2 แบบ คือ Stick/Liquid และเนื้อลิปแบบต่างๆ โดยราคาของแต่ละแบบจะแตกต่างกัน วันนี้เราเลือกเป็น Soft Matte ราคา 490 บาท ก่อนตัดสินใจ ทางร้านจะมีตัวอย่างของลิปแต่ละแบบให้เราเอามาปาดๆป้ายๆ ดูเนื้อก่อนได้เลยค่ะ (ภาพคือเช็ดออกไปแล้วป้ายใหม่ให้ดูดี สภาพก่อนเช็ดคือป้ายครบทุกเนื้อ) ส่วนตัวเราอยากได้เนื้อ Matte แต่พอลอง Stick แล้วรู้สึกว่าเนื้อ Matte มันแห้งเกินไป เลยมาจบที่ Soft Matte แทนค่ะ
ค่าเสียหายเบื้องต้น และความเลอะเทอะเล็กน้อย
พอเลือกชนิดลิปได้แล้ว น้องพนักงานก็จะเอาอุปกรณ์มาให้ค่ะ สำหรับเนื้อ Soft Matte เราจะได้ซองเนื้อลิปพร้อมกับเกรียง(?) 2 อัน และบีกเกอร์ 3 สี ให้เราบีบเนื้อเบสลิปออกมา แล้วก็ได้เวลาลุย!!!
อุปกรณ์ที่ได้รับจากทางร้าน
เริ่มจากผสมสีก่อนเลยค่ะ เราก็ค่อยๆหยด เริ่มจากสีแดงจัดไปเลย 10 หยด ผสมกับเหลืออีก 2-3 หยด (ค่อยๆ หยดจริงๆนะคะ 5555) จากนั้นก็ละเลงให้เต็มที่ แล้วก็ปรับสีไปเรื่อยๆ จนของเราจบที่ แดง 30 เหลือง 38 น้ำเงิน 2 หยด (ถ้าหยดน้ำเงินจะทำให้สีเข้มขึ้นนิดนึงนะคะ) ระหว่างเลือกสี เราก็เอามาป้ายมือ ป้ายปากเลือกสีให้ถูกใจได้เลยค่ะ แนะนำว่าให้ลองที่มือไม่ก็ปากเลยนะคะ เพราะเวลามองสีในจานผสมมันจะเพี้ยนไปหน่อยนึงค่ะ
หยดและเกลี่ยนจนเข้ากัน แล้วก็หยดเพิ่มไปอีก
หลังจากที่ได้สีที่โดนใจแล้ว ก็ไปต่อที่กลิ่นได้เลยค่ะ ทางร้านมีกลิ่นให้เราเลือกทั้งหมด 6 กลิ่น คือ Chocolate, Rum, Strawberry, Melon, Orange, Lemon เราสามารถผสมกลิ่นได้เลยนะคะ ของเราเป็น Choco 4 หยด + Rum 1 หยดค่ะ ทางร้านแนะนำว่าไม่ควรหยดเกิน 5 หยด เพราะอาจจะทำให้ลิปเสียไว (ปกติจะเก็บได้เพียง 6 เดือนนะคะ เพราะว่าไม่ได้ผสมสารกันเสีย) ตอนแรกเราแอบรู้สึกว่ากลิ่น Choco เรามันไม่ค่อยได้กลิ่น แต่พอมาลองใช้จริง ก็คือหอมมาก กลิ่นอร่อยเลยแหละ 555555
ผสมกลิ่นให้เรียบร้อย แล้วเตรียมลุยต่อ
พอเราผสมสี ผสมกลิ่นได้ถูกใจแล้ว ก็มาต่อกันที่ผสมให้เป็นเนื้อ Matte โดยทางร้านจะมี Matte powder ใส่ให้เรา 1 ช้อน จากนั้นหน้าที่ของเราคือผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน และก็มาสู่ขั้นตอนสุดท้ายที่ยากที่สุด คือการกรอกใส่ขวด เราจะต้องเอาเกรียงอันน้อยที่ได้มา ค่อยๆ ตักเนื้อลิปใส่ลงไปในขวด แต่บอกก่อนเลยนะคะว่าไม่ต้องกังวล ต่อให้เราทำเลอะ เดี๋ยวเขาจะเช็ดปากขวดให้เรียบร้อยเลยค่ะ (เราเพิ่งมารู้ตอนทำเสร็จ ที่เขาเช็ดให้เรียบร้อยเลย ไม่น่ามือสั่น ปราณีต ยกเกรียงปาดปากขวดอยู่นานเลย)
1
ผสม Matte powder และกรอกใส่ขวด
ระหว่างรอปิดขวด น้องพนักงานก็จะเอากล่องมาให้เราเขียนชื่อ สี กลิ่น ตามใจชอบได้เลยค่ะ พอทำเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปชำระเงินพร้อมน้องพนักงานได้ที่เคาเตอร์ของ BeTrend ได้เลยค่ะ และด้วยความบ้าเห่อของใหม่ของเรา พอจ่ายเงินเสร็จก็ตรงไปห้องน้ำ ทาลิปเลยจ้า รีวิวสั้นๆ ได้ว่า สีถูกใจมากก ส้มอมชมพูประดุจตูดคอร์กี้ แต่เนื้อแอบแห้งไปนิด ทาไปนานๆ แล้วรู้สึกปากแห้งตึง แนะนำว่าลงลิปมันก่อนน่าจะดีค่ะ
ละเลงกล่องตามใจชอบ
ขอมาเข้าสู่พาร์ท Itiner บ่นๆ หน่อยนะคะ
ก่อนไป เราทักไปถามในเพจ แล้วทางแอดมินแจ้งว่าสามารถ walk-in ได้เลยและร้านเปิด-ปิดตามเวลาห้าง เราก็จัดเลยจ้า ห้างเปิด 10 โมง เราก็แว้นเข้าไปจอดรถในห้างตอน 10 โมง รวมจอดรถ เดินหาร้านประมาณ 20 นาที สรุปพอเดินไปถึง พนักงานไม่อยู่จ้า สงสัยจะเช้าเกินไป เราเลยไปหาชาไข่มุกสักแก้ว แล้วค่อยขึ้นมาใหม่ พอขึ้นไปอีกรอบ พนักงานก็ยังไม่มาจ้าาา สุดท้ายพี่พนักงานของร้านผ้าปักข้างๆ เลยต้องโทรตามให้
และเราก็ได้เริ่มทำจริงๆ ตอนประมาณ 11 โมงกว่า ซึ่งตรงนี้เราแอบเฟลนิดนึง เพราะทักมาถามก่อนแล้วว่าต้องจองคิวมั้ย แต่เขาบอกว่าไม่ต้อง แล้วไปถึงไม่เจอพนักงาน พอจะเริ่มทำพนักงานกลับมาบอกว่ามีเวลาให้ได้ไม่นาน เพราะมีคนจองคิวไว้ตอน 11.50 สรุปคือเรามีเวลาไม่ถึง 50 นาที ในการทำทุกอย่าง ถ้าเวลาจำกัดอย่างเดียว ยังพอเข้าใจได้ แต่น้องพนักงานดูไม่ค่อยต้อนรับเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเราไปเช้าเกินไปก็ได้มั้งคะ เพราะงั้น แอบอยากแนะนำให้ไปสายนิดนึง เผื่อน้องเขาจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง (มั้งคะ)
1
โฆษณา