11 ส.ค. 2023 เวลา 10:30 • ท่องเที่ยว
Acropolis Museum

Acropolis Museum ย้อนเวลาสู่กรีกโบราณ

พิพิธภัณฑ์ Acropolis แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ใกล้กับวิหารพาร์เธนอนเปิดให้เข้าชมในปี 2009 แทนที่พิพิธภัณฑ์แห่งเก่าที่เคยอยู่บนเนินเขาอะโครโพลิส ภายในมีการรวบรวมวัตถุโบราณและงานศิลปะ มากมายที่ถูกขุดพบในบริเวณนี้ตั้งแต่ในสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ยาวมาจนถึงช่วงต้นของยุคกลาง
ด้านหน้าทางเข้า Acropolis museum
Ground Floor - ชั้นแรกของพิพิธภัณฑ์จะเป็นส่วนจัดแสดงของที่ถูกขุดพบจากเนินอะโครโพลิส และบริเวณโดยรอบที่เต็มไปด้วยหลักฐานของข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวเอเธนส์คลาสสิก ทางเดินของชั้นนี้ยังเป็นกระจกที่เราสามารถมองลงไปเห็นการขุดค้นทางโบราณคดีที่จัดแสดงอยู่ในชั้นใต้ดินอีกด้วย
ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์และตู้จัดแสดงวัตถุโบราณ
และเมื่อเราเดินผ่านมายังโถงชั้นแรกเราจะพบกับรูปปั้นที่เด่นสะดุดตาซึ่งเป็นรูปปั้นอายุกว่า 2300 ปีของเทพีแห่งชัยชนะโบราณ Nike ที่ตั้งตระหง่าอยู่กลางโถง
Goddess Nike
ถัดมาเราจะพบกับวัตถุโบราณอีกมากมายโดยในภาพด้านหน้าจะเป็นเสาหิน (Telemachos' Relief) ที่แสดงรากฐานของ Sanctuary of Asklepios และมีภาพสลักหินอ่อน Relief in the form of a small temple and portico และ The Relief of the Physicians อยู่ด้านหลังที่สันนิฐานว่ามีอายุประมาณ 350-300 ปี ก่อนคริสต์กาล
ส่วนจัดแสดง
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเจอแผ่นแกะสลักที่ถูกค้นพบในโรงละคร Dionysos ที่มีชื่อว่า Relief plaque depicting Dionysos (ด้านซ้าย), Relief plaque depicting a female "dancer" (ตรงกลาง) และรูปสลักที่เป็นหน้ากากสตรี 6 ชิ้น หรือ Relief plaque depicting theatrical masks (ด้านขวา)
ชิ้นส่วนที่ถูกค้นพบบริเวณวิหารและโรงละคร Dionysos
นอกจากนี้ยังมีหินอ่อนแกะสลักที่เป็นภาพ Erotes ห้าคนเปลือยกายด้วยท่าทางเดิน ในมือซ้ายถือ phiale และในมือขวาถือ และกระถางธูป (thymiaterion) หรือ ถ้วย (oinochoe) สันนิฐานว่าถูกขุดพบในปี 1860 ฝังอยู่ในกำแพงยุคกลางของโบสถ์ Aghios Demetrios Katephores ซึ่งไม่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของวิหาร Aphrodite Ourania
Relief slab with a procession of Erotes
และที่เป็นไฮไลท์เลย คือ Mask of Dionysos หินอ่อนแกะสลักรูปครึ่งซ้ายของหน้ากากขนาดใหญ่ที่ถูกขุดพบบนเนินทางทิศใต้ของอะโครโพลิสซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์กาล
Mask of Dionysos
เมื่อเดินตรงมาจนสุดเราจะพบกับบันไดที่พาเราไปส่วนจัดแสดงถัดไป และ “เมื่อมองย้อนกลับลงไปจะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่และอลังการของพิพิธภัณฑ์แห่งนี่”
ภายในพิพิฒน์ชั้นแรก
First (and Second) Floor - ในส่วนของชั้นนี้จะเป็นการเล่าเรื่องตามลำดับเวลา ซึ่งครอบคลุมประวัติศาสตร์ประมาณ 2,500 ปี โดยเริ่มจากสหัสวรรษที่สองก่อนคริสตศักราชและสิ้นสุดด้วยการล่มสลายของยุคโบราณและในส่วนนี้จะเล่าวิวัฒนาการของอะโครโพลิสตั้งแต่ป้อมปราการไปจนถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงจัดแสดงวัตถุโบราณที่เคยถูกในชีวิตประจำวันจำนวนมาก
ในบริเวณชั้นสองร้านค้าและร้านอาหารให้บริการโดยในคืนวันศุกร์ ร้านอาหารจะเปิดจนถึงเที่ยงคืน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับเมนูอาหารสุดพิเศษพร้อมรับชมวิวที่สวยงามของเนินเขาอะโครโพลิสและวิหารพาร์เธนอนเป็นพื้นหลังที่สว่างไสว
Hekatompedon (West pediment)
รูปปั้นที่มีอยู่เยอะมาก แต่ที่เราเห็นแล้วสะดุดตามาก คือ Hekatompedon เป็นรูปปั้นที่สื่อถึงสิงโตตัวเมียกำลังเขมือบลูกวัว ซึ่งเป็นศิลปะที่นิยมใช้ตกแต่งโบราณสถานที่เก่าแก่ในยุดแรกๆ โดยที่ลักษณะของสิงโตนั้นมีหน้าอกเหมือนผู้หญิงและแผงคอเหมือนผู้ชาย ชิ้นส่วนของรูปปั้นถูกค้นพบทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของวิหารพาร์เธนอน และได้นำมาประกอบจนสมบูรณ์ โดยสันนิฐานว่ามีอายุประมาณ 570 ปี ก่อนคริสต์กาล
Hekatompedon
และยังมีส่วนจัดแสดงที่ให้อารมเหมือนมาเดินเยี่ยมชมแกลลอรี่ที่เต็มไปด้วยชิ้นงานศิลปะสมัยโบราณของกรีกอีกมากมาย ถือว่าที่นี่เขารวบรวมไว้เยอะมากจริงๆ
ส่วนแกลอรี่จัดแสดงรูปปั้นโบราณ
ตู้จัดแสดงวัตถุที่ถูกค้นพบ
หลายคนอาจส่งสัยว่าชิ้นงานหรือวัตถุโบราณเหล่านี้มีสีได้อย่างไร คนสมัยก่อนเขาไปหาสีต่างๆ มาจากไหน คำตอบคือเขาเอาสีมาจากแร่ต่างๆ นั้นเองเรียกได้ว่าจีเนียสสุดๆ ไปเลยอีกทั้งในโซนจัดแสดงเขาก็จัดไว้ดีมากๆ เลยแหละ
สีจากแร่ต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในอดีต
และไฮไลท์ของงานที่พลาดไม่ได้เลย คือ Karyatids ที่ทำหน้าที่เป็นเสาค้ำหลังคาระเบียงด้านใต้ของ Erechteion สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวเอเธนส์แต่ที่พิพิธภัณฑ์ อะโครโพลิสแห่งนี้มี Karyatids ห้าเสาจากหกเสาดั้งเดิม ชิ้นสุดท้ายยังคงอยู่ที่ British Museum ถึงแม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้นำกลับมาคืนแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่ได้คืนจากรัฐบาลอังกฤษ (Karyatids ถูกเคลื่อนย้ายไปยังประเทศอังกฤษโดย Lord Elgin Marbles ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19)
Karyatid, 420-415 BCE
เนื่องจากวัตถุโบราณมีอายุค่อนข้างมากจึงอาจมีบางส่วนที่รวบรวมได้ไม่ครบจึงมีการหล่อปูนปลาสเตอร์จำลองบางส่วนของวิหารพาร์เธนอนเพื่อให้ผู้ที่มาศึกษาหรือเข้าชมเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด
ปูนปลาสเตอร์จำลองทิศตะวันตกของวิหาร Parthenon
Third Floor - ชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์จะตั้งเอียงไปทางชั้นล่างเพื่อให้ได้ทิศทางเดียวกับวิหารบนเนินเขาอะโครโพลิส ระยะห่างระหว่างเสาของห้องโถงนี้จะเท่ากับสถานที่จริงในวิหารพาร์เธนอนและการใช้ผนังกระจกที่ผนังด้านนอกทั้งสี่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องหินอ่อนของวิหารพาร์เธนอนเช่นเดียวกับที่ทำกับวิหารโบราณ
โดยจุดสำคัญของชั้นนี้จะเป็นการจัดแสดงในส่วนของ The Parthenon Frieze ที่เป็นแถบแกะสลักหินอ่อนที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานของเทพเจ้ากรีกและโลกมนุษย์ที่เคยตั้งอยู่ภายในวิหารพาร์เธนอนเป็นผลงานของช่างแกะสลักที่โด่งดังในยุคกรีกโบราณอย่าง ฟิเดียส ซึ่งสลักหินอ่อนแผ่นนี้เคยมีความยาวถึง 160 เมตร แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพียง 50 เมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าหายไปเกินครั้งเลยนะ ส่วนที่เหลือถูกงัดแกะออกไปโดยที่มารุกราน
โดยปัจจุบันชิ้นส่วนต่างๆ ของแถบหินอ่อนอยู่ที่ British Museum 80 เมตร (มีมากกว่าเจ้าของอี๊กกกก) และที่เหลือกระจายอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั้งใน ฝรั่งเศษ อิตาลี เยอรมัน ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ จนถึงทุกวันนี้รัฐบาลกรีซยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษคืนผนังวิหารพาร์เธนอนที่เป็นดั่งสมบัติของชาติจาก British Museum กลับมายังกรุงเอเธนส์ // แต่ก็ยังไม่ได้คืนนะ
The Parthenon Frieze
นอกจากนี้ภายในบริเวณชั้นล่างสุดยังมีการจัดแสดงพื้นที่ที่มีการขุดพบโบราณสถานซึ่งตัวอาคารถูกออกแบบมาให้ทำลายโบราณสถานน้อยที่สุด เราสามารถเดินเที่ยวชมซากปรักหักพังในสมัยปีคริสต์ศักราชที่ 4-7 ได้แบบใกล้ชิดสุดๆ อีกด้วย
The Archaeological Excavation
และทั้งหมเนี้เป็นเพียงส่วนน้อยๆ ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เท่านั้น สำหรับใครที่มาเที่ยวเอเธนส์ ประเทศกรีซ และอยากมาตามรอยเทพเจ้ากรีกที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องอยู่ในลิสเลยที่เดียว อีกอย่างพิพิธภัณฑ์เขาอลังการงานสร้างมากจริงๆ นะ
ข้อมูลเพิ่มเติม - https://www.theacropolismuseum.gr/
โฆษณา