นั่งรถไฟสุดสายกาญจนบุรี ไป "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ"

จังหวัดกาญจนบุรี มีสถานที่ให้ท่องเที่ยวมากมาย และมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จะทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจและรู้สึกเศร้าใจในเวลาเดียวกันนั่นคือ "ทางรถไฟสายมรณะ" ที่จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเราจะนั่งรถไฟสุดสายไป "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ" จังหวัดกาญจนบุรี
การเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี คงเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมท่องเที่ยวของใครหลายคน เพราะมีสถานที่ให้ท่องเที่ยวมากมายให้เลือกเที่ยวกันไม่ถูกเลยครับ รีวิวนี้ครูต้วยแนะนำโปรแกรมเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน โดยนั่งรถไฟสายมรณะ ไปกาญจนบุรี ไปให้สุดสาย ไปกางเต้นท์ ไปเล่นน้ำตก และไปอุทยานแห่งชาติเอราวัณ บอกเลยว่าเป็นทริปที่ได้เห็นสถานที่สำคัญและสวยงามมากมายเลยครับ 😊 (รีวิวนี้ไม่ได้พูดถูกการเดินทางแบบอื่นนะครับ ครูต้วยแนะนำให้ปัดหมุดเอาโลดดด 😂 พิกัดอุทยานแห่งชาติเอราวัณ https://goo.gl/maps/3FuaW8YFyALve1iA7)
เริ่มต้นเดินทาง
สถานีรถไฟธนบุรี
เริ่มต้นเดินทาง โดยเราต้องตื่นแต่เช้าไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีธนบุรี สำหรับรถไฟที่จะไปกาญจนบุรี​วิ่งแค่รอบเดียวต่อวัน​ ​รถจะออกจากสถานที่เวลา 07.50 น.​ ต้องไปให้ทันนะครับ
เราซื้อตั๋ว ธนบุรี - น้ำตก ราคา 39 บาท/คน จะถึงเวลาประมาณ 12.30 น. พิกัด https://goo.gl/maps/UGD95LFRu6ePeFsRA
เส้นทางนี้จะผ่านกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้ำกระแซ ไปสุดที่น้ำตกไทรโยกน้อย แต่เราต้องร่วมกันเหมารถของชาวบ้านแถวนั้นที่ให้บริการไปที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณนะครับ
ระหว่างการเดินทาง
(ถ้าคุณมีจุดหมายปลายทางแค่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ครูต้วยแนะนำให้ซื้อตั๋วลงสถานีกาญจนบุรี แล้วขึ้นรถเมย์ต่อเดียวไปลงที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รถหมายเลข 8170 กาญจนบุรี - เอราวัณ ออก ทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.20 น. ค่าโดยสารรถประจำทาง 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)
สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี
สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี เป็นจุดไฮไลท์จุดหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเลยครับ ในขณะที่นั่งรถผ่าน รถไฟจะลดระดับความเร็วให้ช้าที่สุด เพื่อให้เราได้เก็บบรรยากาศตลอดสองข้างทางให้มากที่สุด และจะมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปที่นี่ตลอดทั้งวันเลยครับ เมื่อรถไฟผ่านจะหลบอยู่ไหล่สะพานเหมือนเป็นการต้อนรับเราผู้ที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ พิกัด https://goo.gl/maps/8UXwWseEGEpYzZcz6
สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี
แม่น้ำแควใหญ่ กาญจนบุรี
ทางรถไฟสายมรณะ
ข้อมูลจาก th.wikipedia.org
ทางรถไฟสายมรณะ (ทางรถไฟสายน้ำตก หรือ ทางรถไฟสายกาญจนบุรี เดิมเรียก ทางรถไฟสายพม่า) เป็นเส้นทางรถไฟสายหนึ่งที่เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่โดยสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปทางทิศตะวันตกจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อให้ถึงปลายทางที่เมืองตาน - พยูซะยะ ประเทศพม่า
ทางรถไฟสายมรณะบริเวณโค้งเลียบเขา
เหตุที่ทางรถไฟสายนี้ได้ชื่อว่า "ทางรถไฟสายมรณะ" ก็เพราะว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายพันธมิตร กรรมกรชาติต่าง ๆ และคนไทยที่ถูกเกณฑ์เป็นทาสอีกนับแสนราย มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์นี้ ซึ่งการสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2486 และเปิดใช้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปีเดียวกัน
เขาว่ากันว่า จำนวนหมอนรองรถไฟที่ทำจากท่อนไม้นี้ เท่ากับจำนวนคนที่ต้องเสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟแห่งนี้เลยแหละครับ...
ถ้ำกระแซ
ข้อมูลจาก kanchanaburi.go.th
ถ้ำกระแซ
ถ้ำกระแซ เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสาย กาญจนบุรี - น้ำตก ภายในถ้ำโปร่ง และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา พิกัด https://goo.gl/maps/Yqfa93pnRgLMzRgz5
เส้นทางเลียบแม่น้ำแควน้อย
เมื่อถึงสถานีน้ำตก เป็นสถานีสุดท้ายของสายทางรถไฟนี้ เราต้องร่วมกันเหมารถของชาวบ้านแถวนั้นที่ให้บริการไปที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทางประมาณ 50 km. เป็นรถเมย์เล็ก นั่งได้ประมาณ 10 คน ราคาเหมา 1,000 บาท/เที่ยว จะร่วมกันแชร์ค่ารถกับนักท่องเที่ยวแถวนั้นก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่มีก็เหมาเองเลยครับ รวย ๆ 🤣 (ไม่แน่ใจว่าปี 2023 นี้ จะมีบริการอื่นหรือราคาเท่าไหร่นะครับ เราไปเมื่อปี 2020)
ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ที่พักอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
"อุทยานแห่งชาติเอราวัณ" เป็นน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน น้ำเลยเป็นสีฟ้าใสอมเขียว แบ่งออกเป็นชั้นๆ ได้ 7 ชั้นเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เดิมมีชื่อว่า น้ำตกสะด่องม่องลาย ตามชื่อลำห้วยม่องล่ายซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตกที่เกิดจากยอดเขา ตาม่องล่ายในเทือกเขาสลอบ สายน้ำจะไหลมาตามชั้นหินเป็นระยะทาง ประมาณ 1,500 เมตร โดยบริเวณน้ำตกจะมีน้ำตลอดปีแต่จะมีน้ำน้อยในช่วงฤดูแล้ง ราวเดือนธันวาคมถึงเมษายน
ตั้งอยู่ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พิกัด https://goo.gl/maps/7BpeRkMMKbDSx53j9
เปิดเวลา 7.30 - 16.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
- ชาวไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท
- ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
- ค่ารถยนต์ 30บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถบัส 200 บาท
* หมายเหตุ
1. ชาวไทยผู้สูงอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์แสดงบัตรประชาชนจะได้ยกเว้นค่าบริการ
2. นักศึกษาชาวไทยแสดงบัตรนักศึกษาจะได้ราคาเด็ก 50 บาท
3. ผู้พิการจะได้ยกเว้นค่าบริการ
4. ชาวต่างชาติต้องมีบัตรประชาชนไทยเท่านั้น ถึงได้ราคาชาวไทย
สิ่งอำนวยความสะดวก
- เจ้าหน้าที่ดูแล
- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
- สถานพยาบาล
- ที่จอดรถกว้าง
- ร้านอาหาร
- ห้องน้ำ
- บ้านพัก
- ที่กางเต้นท์
- ห้องประชุมสัมนา
- มีเตา กระทะหมูกระทะ ถ่าน ให้เช่าด้วยนะ 😂
สามารถนำเต็นท์มาเอง หรือเช่าเต็นท์กับอุทยานได้ด้วย ราคาอยู่ที่ 225 บาท/เต็นท์
บ้านพักราคาเริ่มต้นที่ 800 – 2,400 บ. สามารถจองที่พักได้ที่ nps.dnp.go.th หรือโทร 02-5610777 ต่อ 1719
ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปในบริเวณน้ำตกเกินชั้น 3 เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและ ความเป็นธรรมชาติเอาไว้
เที่ยวอุทยานแห่งชาติเอราวัณ วันที่ 1
น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 1-2
พอมาถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เวลาประมาณบ่ายสองบ่ายสามแล้ว ครูต้วยแนะนำให้เที่ยวน้ำตกชั้น 1-2 ก่อนนะครับ เพราะมันจะค่ำแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นครับ ค่อยมาขึ้นไปเล่นน้ำตกทั้ง 7 ชั้น ในวันที่ 2 นะครับ
- น้ำตกชั้น 1-2 สามารถลงเล่นน้ำได้ถึงเวลา 16.30 น.
- น้ำตกชั้น 3-7 สามารถลงเล่นน้ำได้ถึงเวลา 16.00 น. (งดขึ้นน้ำตกชั้น 3-7 หลังเวลา 16.00 น.)
กลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่พักอุทยาน
พอเล่นน้ำให้ชื่นใจแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำ ทานข้าวที่จุดบริการนักท่องเที่ยวหรือที่พักของเรานะครับ มีอาหารจากร้านค้าของชาวบ้านประมาณหนึ่งครับ สามารถน้ำอาหารมาทำเองก็ได้นะครับอุทยานมีบริการเช่าอุปกรณ์การทำอาหารด้วยครับ มีบริการให้เช่าเตา กระทะหมูกระทะ ถ่าน ด้วยนะ หมูหมักพริกไทยย่างเกรียม ๆ กับวิวพระอาทิตย์ตกแบบนี้ มันคงทำให้หลับฝันดีเลยนะครับ 😍
เที่ยวอุทยานแห่งชาติเอราวัณ วันที่ 2
พระอาทิตย์ขึ้นที่พักอุทยาน
บริเวณลานกลางเต้นท์ของที่พักอุทยานจะติดกับแม่น้ำแควน้อย บรรยากาศดีมากเลยครับ ยิ่งตอนเช้า ตื่นเช้า ๆ หน่อย มาสัมผัสอากาศเย็นยามเช้ากับกลิ่นอายหมอกอ่อน ๆ สดชื่นมากครับ มีสะพานต่อยื่นไปกลางแม่น้ำด้วยนะ ยื่นขาไปสัมผัสน้ำเย็น ๆ แล้วชาร์ทพลังให้กับตัวเองได้เยอะเลยครับ
แม่น้ำแควน้อยนี่สวยไม่น้อยเลยนะ
หลังจากที่ชื่นชมอากาศยามเช้าเสร็จแล้ว ครูต้วยแนะนำให้ทำภารกิจส่วนตัว กินข้าวให้เรียบร้อย และไปลุยเล่นน้ำ เดินเขาขึ้นไปเล่นน้ำตกให้ครับทั้ง 7 ชั้นนะครับ ระยะทางประมาณ 1,500 เมตร เอง ไม่เหนื่อยหรอกครับ ถ้าเหนื่อยก็เล่นน้ำพักระหว่างทางนะครับ 🤣
เล่นน้ำตกให้ครับทั้ง 7 ชั้น
แล้วคุณจะได้เห็นน้ำสีฟ้าใสอมเขียวจากน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน ทั้ง 7 ชั้น รวมกันแล้วถือว่าเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียวครับ แต่ละชั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป น้ำใส เย็น สดชื่น มากครับ มีเพื่อนร่วมเล่นน้ำมากเหมือนกัน รวมถึงเจ้าปลาพลวงที่มีอยู่ในน้ำตกชั้นที่ 1-4 นี้ นับรวมกันแล้วน่าจะมีมากกว่าคนหลายเท่าเลยละครับ 😊
จุดสิ้นสุด...
พอเล่นน้ำขึ้นมาถึงชั้นที่ 7 ชั้นสุดท้าย จะเป็นทางน้ำตกไหนลงมาจากภูเขาสูงชันยิ่งใหญ่แบบนี้ และไม่สามารถเดินไปต่อได้แล้ว หน้าผาที่เห็นนี้คงเป็นเหมือนสัญลักษณะที่ทำให้รู้ว่าเราสามารถพิชิตอุทยานแห่งชาติเอราวัณได้อย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้ว และน้ำเย็น ๆ บนชั้นสูงสุดคงทำให้คุณหายเหนื่อยได้นะครับ เล่นน้ำในชั้นนี้เสร็จแล้วครูต้วยก็แนะนำให้เดินทางกลับทางเดิม เพื่อเตรียมตัวกลับนะครับ อาบน้ำ กินข้าวเที่ยง เก็บสัมภาระให้เรียบร้อย
ครูต้วยแนะนำให้ทำภารกิจเสร็จในช่วงเที่ยงนะครับ เพราะตอนบ่ายจะได้ออกเดินทางกลับ อย่างลืมว่าเราต้องกลับบ้านอีกนะครับ ใครบ้านไกลก็ต้องเผื่อเวลากันด้วยนะ และครูต้วยแนะนำให้นั่งรถบัสจาก เอราวัณ - กาญจนบุรี แล้วต่อรถตู้กลับกรุงเทพนะครับ จะได้ใช้เวลาไม่มาก เพราะมันจะเดินทางเนื่อยมาก ๆ ครับ 😂
ขอบคุณกัลยาณมิตรที่ร่วมเดินทางในทริปนี้ด้วยนะ
นั่งรถเมย์ ขากลับรถออกจากลานจอดรถอุทยานฯ มี 7 เที่ยว เที่ยวแรก 8.30 น. เที่ยวสุดท้าย 17.00 น. ค่าโดยสาร เอราวัณ - กาญจนบุรี คนละ 50 บาท
นั่งรถตู้ กาญจนบุรี - กรุงเทพ ราคา 150 - 320 (แล้วแต่ประเภทรถตู้และบริษัท) ระยะเวลาในการเดินทาง ประมาณ 3 ชั่วโมง - 3ชั่วโมง 30นาที โดยรอบรถดังนี้
- ทั่วไป 14 ที่นั่ง 06:00, 08:00, 09:00, 10:00, 13:00, 14:00, 17:00
- รถโดยสารขนาดเล็ก 09:00, 12:00, 18:00
- แวนวีไอพี 9 ที่นั่ง 15:00
เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะครับ ❤️
เราว่าจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวมากเลยนะ ทริปนี้เราแค่นั่งรถไฟผ่านก็เห็นถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเลย ถ้าเราได้ลงไปสัมผัสสถานที่เหล่านั้นจริง ๆ ได้ไปเหยียบดินที่นั้นจริง ๆ ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนที่นั้นจริง ๆ เราคงมีเรื่องเล่ายาวมากแน่ ๆ ครับ เหมือนกับ "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ" จังหวัดกาญจนบุรี ที่เราใช้ชีวิตอยู่แค่ 24 ชั่วโมง ยังได้เห็นถึงสถานที่ที่สวยงาม ธรรมชาติที่สร้างขึ้นเอง ผู้คนที่น่ารัก และเสน่ห์อีกหลายอย่างขนาดนี้ ทำให้ผู้มาเยือนอย่างเราประทับใจมากเลยครับ
เป็นไงบ้างครับ... เราหวังว่าคุณจะได้รู้จักเรามากขึ้นนะ และฝากติดตามเรา กดไลค์ให้เรา สำหรับการรีวิวการท่องเที่ยวแบบ "ครูต้วย" ด้วยนะครับ
สวัสดีครับ
โฆษณา