Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
sMo Nomad
•
ติดตาม
13 ส.ค. 2023 เวลา 05:00 • ท่องเที่ยว
บาหลี
“เที่ยวด้วย ได้เงินด้วย” จากการเป็น Digital Nomad EP.4
บาหลี ไม่ได้เxี้ย อย่างที่คิด (มั้ง)
บาหลีเป็นอีก 1 ใน Top Destination ของเหล่า Digital Nomad โดยเฉพาะกลุ่ม Travel Content Creator และเป็นสถานที่ที่โมใฝ่ฝันจะไปอยู่มากๆ เพราะขึ้นชื่อเรื่อง “เซิร์ฟ” หรือการโต้คลื่น กีฬาที่โมชอบ (ถึงแม้จะยังไม่เก่งสักที แหะๆ)
แต่เคยมีอยู่ช่วงนึงที่มีคนออกมาเล่าประสบการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองและเพื่อนๆตอนที่ไปเที่ยวเกาะบาหลี (ขอแสดงความเสียใจกับความสูญเสียด้วยนะคะ) เลยทำให้โมเริ่มกลัวบาหลีและมองบาหลีว่าอันตราย เลยสอบถามพี่ๆคนไทยที่อยู่ที่บาหลีจนเริ่มเบาใจจึงกล้าตัดสินใจไป แต่จากการที่โมได้ไปอยู่มา 7 เดือน กลับกลายเป็นรู้สึกหลงรักที่นี่มากๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนึ่งในที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่ที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด(มั้ง)
หลังจากที่อยู่ประเทศจอร์เจียมาได้ 3 เดือน ตอนแรกโมตั้งใจมาฝึกเล่นสโนวบอร์ดที่นี่ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้สกีรีสอร์ทปิดทั้งหมด รวมถึงมีประกาศจะล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้โมและแฟนลองหาประเทศทางเลือกอื่นๆที่สามารถไปได้ในช่วงโควิด จนได้เห็น Digital Nomad ที่มี Influencer ท่านหนึ่ง (ซึ่งตอนนี้เป็น Miss Grand ประเทศเช็กแล้ว) เดินทางไป Nomad อยู่บาหลีในช่วงนั้นพอดี เราจึง DM ไปถาม แล้วเขาก็ตอบด้วย (สวยและใจดีด้วยนะเนี่ย)
ในตอนนั้นทางประเทศอินโดนีเซียและบาหลียังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวที่มาด้วย Free Visa หรือ Visa on Arrival ฉะนั้น เหล่า Digital Nomad จึงใช้วิธีการทำ E-Visa B211A (ซึ่งตอนนี้ก็ยังใช้วีซ่านี้กันอยู่ถ้าอยากอยู่ยาว 2-6 เดือน) เป็นวีซ่าออนไลน์ระยะยาว 60 วัน แบบ Single-entry และต่อวีซ่าได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 60 วัน รวมเป็น 180 วัน สำหรับวัตถุประสงค์ในด้านธุรกิจ เช่น มาประชุม สัมนา ดูงาน ฯลฯ แต่ไม่ใช่วีซ่าที่สามารถทำงานได้ (สำหรับ Nomad ที่อยากอยู่ยาวเป็น Expat และทำงานได้ ก็จะเป็นวีซ่าอย่าง KITAS แทน)
หลังจากได้ค้นพบช่องทางแล้ว จึงจัดการจ้างเอเจนซี่เจ้าหนึ่งในบาหลี เพื่อสมัครวีซ่าตัวนี้และดำเนินการเรื่องเอกสารทั้งหมดจนเสร็จสิ้น จึงได้ร่ำลาเมืองทบิลิซีในช่วงหน้าหนาวไปยังเกาะบาหลีที่มีแสงแดดอุ่นๆและทะเลฉ่ำๆแทน เย่!
ในช่วงแรกของการอยู่บาหลี โมและแฟนพักอยู่แถว Legian เป็นบริเวณที่คน Local จะอยู่กันเยอะกว่าชาวต่างชาติ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับ Seminyak ที่เป็นโซนนักท่องเที่ยว ที่รวมโรงแรมและร้านอาหารดีๆไว้ แต่ในช่วงโควิดแถวนั้นเงียบเหงามากๆ
สาเหตุที่โมมาอยู่แถว Legian ทั้งที่ไม่ใช่แหล่งของ Digital Nomad เท่าไร เพราะมันอยู่ใกล้หาด Double Six ที่มีโรงเรียนสอนเล่นเซิร์ฟและให้เช่าบอร์ดที่เจ้าของเป็นคนไทย(พี่มิ้น)กับสามีชาวอินโดฯที่เป็นครูสอนเซิร์ฟ(อานาส) ทำให้รู้สึกอุ่นใจในการมาอยู่ที่บาหลีช่วงเริ่มต้น
ใครที่อยากไปเริ่มเรียนเซิร์ฟที่บาหลีแนะนำที่นี่เลย
NAS Surf Bali :
https://goo.gl/maps/on26hcYju5y8BUtQ8
แต่อยู่ไปได้สักพักก็เริ่มเหงาเพราะไม่ค่อยเจอเพื่อนชาว Nomad แถวนี้เลย จึงอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปอยู่ใกล้ดงของ Digital Nomad มากขึ้น นั่นก็คือโซน Canggu แถวนี้จะมีที่พักแบบ Co-living จำนวนมาก (ที่พักที่ผู้อาศัยอยู่ด้วยกันเหมือนเป็น community มีห้องนอนส่วนตัวแต่อาจมีแชร์พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และบางที่ก็จะมี Co-working space รวมอยู่ด้วย)
แต่เนื่องจากโมได้ไปเจอ Co-living Villa หลังหนึ่งที่น่าอยู่มากๆ แต่อยู่ถัดจาก Canggu ออกมาหน่อย นั่นคือแถว Umalas เลยตัดสินใจอยู่ที่นี่แทน จนในเดือนสุดท้ายก่อนกลับถึงได้ลองย้ายเข้าไปอยู่ใน Canggu จริงๆ ซึ่งแถวนี้จะมีคาเฟ่และ Co-working space เยอะมากๆ (แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้แถว Canggu แออัดและรถติดมาก เพราะในช่วงโควิด มีเหล่า Travel Influencer ไปอยู่กันมากและทำคอนเทนท์โปรโมทที่นี่จนคนแห่ตามกันมาอยู่จนทะลักแล้ว ฮือ)
ส่วน Uluwatu อีกโซนนึงที่โมชอบมาก ถือเป็นเซิร์ฟทาวน์อีกแห่ง เพราะแถวนี้คลื่นดีอันดับต้นๆของโลก เลยทำให้มีนักโต้คลื่นนิยมมาอยู่กัน แต่ในช่วงโควิดก็ยังค่อนข้างเงียบเหงา (แต่ยังไม่เงียบเท่า Seminyak และ Kuta ที่เป็นโซนนักท่องเที่ยวจ๋าๆ) ต่างจาก Canggu ที่กลับคึกคักอยู่โซนเดียวเพราะมีเหล่า Digital Nomad อยู่กันมาก (โดยเฉพาะเหล่า Influencer ที่ไม่ว่าโมจะไปที่ไหนจะเจอคนตั้งกล้องหรือเดินถือกล้องถ่ายตัวเองอยู่ตลอด)
ส่วนอีกโซนหนึ่งที่เหล่า Digital Nomad นิยมไปอยู่ก็คือ Ubud ซึ่งอยู่ไกลจากชายหาดขึ้นไปบนเขาที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีน้ำตกและนาข้าวขั้นบันไดที่โด่งดัง บรรยากาศเหมาะแก่การเล่นโยคะทำสมาธิ แต่ด้วยความที่โมชอบทะเลและไปเล่นเซิร์ฟมากกว่าเลยอยู่แต่แถวทะเล ไม่ได้ไปแถว Ubud สักทีเลย
ภาพจาก Uluwatu
การติดเกาะบาหลีเป็นเวลา 7 เดือนในช่วงโควิด เป็นช่วงหนึ่งที่มีความสุขมากๆ ได้ใช้ชีวิตแบบ Slow life มีเวลาได้ทำอาหารสุขภาพกินเองทุกวัน ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสบ้าง หรือไปเซิร์ฟบ้างสลับกันไป บ่ายกลับมานั่งทำงานที่ห้องหรือตามคาเฟ่บ้าง วันหยุดก็ไปเจอเพื่อนใหม่ๆตามงาน Meetup ของเหล่า Digital Nomad หรือพบปะเพื่อนๆพี่ๆคนไทย ไปเล่นโยคะกันบ้าง ตำส้มตำทำหมูกระทะกินกันบ้าง หรือไปท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ๆกับแฟน ถ่ายรูปสวยๆเก็บไว้เป็นความทรงจำ
แต่เสียดายที่แฟนเกิดเจ็บเข่าจนต้องกลับฝรั่งเศสไปผ่าตัด โมเลยตัดสินใจกลับไทย เพราะก็แอบไม่มั่นใจถ้าจะต้องอยู่บาหลีคนเดียวในช่วงโควิด
งั้นแสดงว่าบาหลีไม่ปลอดภัยเหรอ?
ความรู้สึกส่วนตัวของโม ยังรู้สึกว่าอาจไม่ปลอดภัยมากนักสำหรับผู้หญิงที่มาเที่ยวคนเดียวในช่วงนั้น เพราะโมได้ยินจากเพื่อนสาวชาวอเมริกันที่เป็น Solo Travel Influncer ก็ได้เจอเหตุการณ์ที่ทำให้ระแวงเป็นบางครั้ง เช่น มีคนปีนเข้ามาในวิลล่า เหมือนจะเข้ามาขโมยของ พอเธอเจอก็พูดด้วยดีๆว่าให้ออกไป แล้วเขาก็ปีนออกไปแต่โดยดี (โมเลยเลือกที่จะอยู่ Serviced Apartment ที่มียามเฝ้า 24 ชั่วโมง หรือ Co-living Villa ที่อยู่ด้วยกันหลายคนเพื่อความอุ่นใจ)
ภาพจากการแสดงระบำไฟเคชัก ที่วัดอูลูวาตู
อีกอย่างที่ได้ยินบ่อยมากๆในช่วงนั้น คือ การขโมยโทรศัพท์หรือขโมยของขณะที่ขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะฉวยจากมือไปตอนที่คนซ้อนท้ายกำลังดูแมพ หรือบางคนโดนกระชากกระเป๋าตอนที่ขี่มอเตอร์ไซค์จนรถล้ม แต่บางคนที่อุตส่าห์ใส่กระเป๋าไว้ใต้เบาะที่นั่งแล้ว ก็โดนถีบมอเตอร์ไซค์จนล้ม แล้วโจรก็เปิดเบาะเพื่อขโมยของไป ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่โดนจะเป็นผู้หญิง แง
ถึงแม้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยที่บาหลีในช่วงโควิด (อาจเพราะคนที่นี่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จึงก่อเหตุขโมยของมากขึ้น) แต่โมแทบไม่ได้ยินข่าวการข่มขืนหรือตั้งใจทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตเลยในช่วงนั้น รวมกับที่โมมีแฟนไปอยู่ด้วย (ถึงแม้โมจะชอบออกไปไหนมาไหนคนเดียว อย่างไปเซิร์ฟ ไปหาเพื่อน ไปงานMeetup) แต่ก็ยังรู้สึกอุ่นใจขึ้น ไม่ได้รู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าออกไปไหนมาไหนคนเดียวในตอนกลางวัน แต่ก็จะระวังตัวอยู่เสมอและพยายามไม่เอาตัวไปอยู่ในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย
และอีกอย่างที่ทำให้โมเริ่มหายกลัวบาหลีมากขึ้น คือคน Local ที่บาหลีอัธยาศัยดีมากๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดีและส่วนใหญ่ที่เจอก็พูดภาษาอังกฤษกันได้ดีด้วย ไม่เคยเรียกแท็กซี่แล้วโดนเรียกราคาเหมาแพงๆ ขนาดโมเผลอจ่ายเงินเกินไปผิดบ้าง เขาก็รีบบอกและคืนให้ ยังไม่เคยเจอใครที่ทำให้รู้สึกว่าเขามีเจตนาที่ไม่ดีเลย (หรืออาจเป็นความโชคดีที่ยังไม่เจอคนบาหลีใจร้ายกันนะ)
ใครที่เคยไปบาหลีแล้วมีประสบการณ์อย่างไรบ้าง คอมเม้นท์แชร์ให้กันอ่านบ้างนะคะ สำหรับ EP นี้คงเท่านี้ก่อน ยังไงช่วยกดไลค์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
ช่องทางติดตามอื่นๆ
YouTube : sMo Nomad
www.youtube.com/@sMoNomad
Instagram : smonomad
www.instagram.com/smonomad
Tiktok : sMo Nomad
www.tiktok.com/@smonomad
Facebook : sMo Nomad
www.facebook.com/sMoNomad
#sMoNomad #DigitalNomad #WorkFromAnywhere #เที่ยวด้วยได้เงินด้วย #ลาออกไปเช็กอิน
ลาออกไปเช็กอิน
ท่องเที่ยว
ไลฟ์สไตล์
1 บันทึก
8
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
“เที่ยวด้วย ได้เงินด้วย” จากการเป็น Digital Nomad
1
8
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย