13 ส.ค. 2023 เวลา 08:16 • ไลฟ์สไตล์

เล่าประสบการณ์การเช่ารถ Taxi ขับ ว่าต้องทำอย่างไร รายได้ดีจริงไหม !!

การเช่ารถแท็กซี่ขับในพื้นที่ กทม. และ สมุทรปราการ และละแวกปริมณฑล ต้องบอกก่อนนะครับผมเองก็มือใหม่ สำหรับสายงานด้านนี้เลย เลยอยากมาแชร์สำหรับ มือใหม่ ที่จะเช่ารถมาขับ หรือ เลือกบริษัท ที่เราจะเช่าขับ ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง อันนี้สำคัญนะครับ (ที่จะมาแชร์ในวันนี้) สำหรับมือใหม่ เนื้อหาค่อนข้างยาวนะครับต้องขออภัยล่วงหน้า
สาเหตุหลักที่มาเช่าแท็กซี่ขับเพราะ ต้องการใช้เป็นรถทดแทนรถยนต์ส่วนตัว ระหว่างนำรถเข้าซ่อมที่อู่สี ระยะเวลา ประมาณ 30 วัน และอยากหาประสบการณ์ ในการทำอาชีพนี้ควบคู่ไปด้วย
ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ขับ Uber , Grab มาตั้งแต่ ช่วงที่เข้ามาบ้านเราใหม่ ช่วงนั้นถือว่าทำรายได้ ดีพอสมควร และยังไม่มีการจับปรับกันเหมือนทุกวันนี้ เราก็เลย พอมีประสบการณ์ในการขับรถแบบนี้บ้าง แต่ตอนนี้ ไม่ได้ขับแล้ว
เอาหล่ะตอนนี้มาต่อเรื่องการจะขับแท็กซี่ เราต้องรู้และเตรียมพร้อมก่อน
- ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
- บัตรประจำตัวผู้ขับรถแท็กซี่ (บัตรแผ่นสีแหลือง) ผมทำกระทู้แนะนำไว้ที่นี่ https://pantip.com/topic/41895313?sc=dhORxEK
ผมขอข้ามเรื่องการทำใบอนุญาตขับรถสาธารณะไปนะครับเพราะ สามารถจองคิวทำได้ที่ สนง. ขนส่งได้ทุกที่
เมื่อเรามีเอกสาร 2 อย่าง นี้แล้ว เราก็สามารถเริ่มเช่ารถแท็กซี่ขับกันได้แล้ว ผมเองก็หาข้อมูลอยู่พอสมควรเกี่ยวกับการเช่ารถแท็กซี่ หลักๆเลย ส่วนใหญ่แล้วถ้าเราเช่าอู่ เขาจะเน้นในส่วนของ คนขับที่อยู่พื้นที่ใกล้ๆละแวกอู่ เพราะว่า จะ ได้ เข้าไปส่งรถหรือเอารถเข้าไปเช็ค ได้ง่ายแล้วก็ตรวจสอบได้ง่ายนั่นเองดังนั้นส่วนมากแล้ว เจ้าของอู่แท็กซี่ ก็จะขอคนขับที่พื้นที่ก็ในละแวกใกล้ๆอู่ เป็นส่วนใหญ่
ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ/บัตรประจำตัวผู้ขับรถ
การเช่า รถแท็กซี่มาขับ จะมีอยู่หลากหลายรูปแบบ หลักๆก็คือ เช่าเพื่อขับ กับเช่าเพื่อซื้อต่อ อันนี้จะแตกต่างกันในส่วนของรายละเอียดแล้วก็ค่าเช่าค่ามัดจำต่างๆในที่นี้จะไม่พูดถึง กระทู้นี้ผมขอพูดถึงการเช่าแท็กซี่ขับเท่านั้น การเช่าแท็กซี่ขับ ก็จะมีอยู่ สอง รูปแบบ ที่ทราบกันดีก็คือ เช่าเป็นกะ กับเช่าควง
กระทู้นี้ผมขอพูดถึงการเช่าแท็กซี่ขับเท่านั้น
ลักษณะการเช่าแท็กซี่ แบบเป็นกะ ก็คือให้เข้าใจง่ายๆว่า วันนึงจะมีอยู่ 2 กะ แล้วแต่ว่าอู่หรือบริษัทฯ จะกำหนดเวลาการ ส่งรถ-รับรถกี่โมง แต่ให้เข้าใจง่ายๆว่าสมมุติว่าไปรับเช้าก็ต้องส่งเย็น อันนี้คือกะเช้า ส่วนอีกกะ ก็คือกะดึก คือเช่ากลางคืนส่งรถเช้าประมาณนี้ส่วนเวลาไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับอู่กับคนขับหรือผู้เช่าเป็นตัวกำหนดตกลงกัน ในที่นี้จะไม่พูดถึงข้อนี้
ส่วนที่ผมเช่าก็คือ ผมจะเช่าควงและรถแท็กซี่ จอดอยู่กับเรา อันนี้ก็จะแยก อีกนะครับว่าบางอู่หรือบางบริษัทให้เช่าในลักษณะแบบนี้จะมีเงื่อนไขในการที่จะให้เรานำรถเข้าไปตรวจสอบเป็นระยะๆ เพื่อป้องกัน ผู้เช่าเอง เอารถไปทำอย่างอื่นหรือขโมยชิ้นส่วนภายในรถต่างๆ นะครับก็จะมีการตกลงและเงื่อนไขของแต่ละอู่แต่ละบริษัทแตกต่างกันไป บางอู่ ก็อาจจะอยู่กับเราเลย โดยอาจมี บางช่วงที่จะให้เรานำรถเข้าไปเช็คระยะหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือบางบริษัทเองก็จะมีเงื่อนไขว่ากี่วันให้เรานำรถเข้าไปตรวจสอบ
ลักษณะการเช่ารถแท็กซี่และรูปแบบในการเช่า ก็จะมีแบบกว้างประมาณนี้ จริงๆก็มีในลักษณะรูปแบบอื่นอีกซึ่งผมอาจจะไม่ได้พูดถึง การเช่ารถแท็กซี่ขับ ก็มีข้อดี อยู่หลายข้อ เช่น เราจะไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาเลย อู่หรือว่าบริษัทที่เราใช้บริการจะเป็นคนดูแลนั่นเอง แต่ถ้าเราซื้อแท็กซี่ขับเป็นรถของเราเอง อันนี้ผู้เช่า หรือผู้ซื้อจะต้องรับภาระในเรื่องของ
ค่าบำรุงรักษาต่างๆค่าต่อประกันค่าภาษี และค่าอื่นๆอีกทุกๆอย่างนะครับอันนี้ก็คืออาจจะเป็นข้อแตกต่าง สำหรับ 2 แบบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับ ผู้เช่าหรือผู้ซื้อ ว่าต้องการยึดเป็นอาชีพจริงหรือไม่และความสามารถ ในการผ่อนชำระ เพราะว่า จะมีผลเกี่ยวกับราคามัดจำและราคาเช่าต่อวันนั่นเอง ส่วน ข้อเสียของการเช่าขับ ก็คือ ราคาเช่าอาจจะค่อนข้างสูง แล้วก็บางครั้ง สภาพรถ อาจจะ ไม่ค่อยดีหรือว่ามีคนขับหลายคน อันนี้ก็แล้วแต่อู่นะครับ แต่ถ้าเช้าควงส่วนใหญ่รถจะอยู่กับเรา ตลอดเวลาที่เราเช่าขับ
พอเข้าใจกัน ในส่วนของการเช่ารถแล้วใช่ไหมครับ ผมก็หาข้อมูล ผมก็เลยเลือกที่จะเช่ากับบริษัทที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ และก็อยู่พื้นที่ไม่ไกลจากที่ผมอยู่มากนัก และก็เงื่อนไข ผมถือว่ารับได้ เพราะว่าผมต้องเอารถไว้เอง ส่วน หนึ่ง ผมต้องใช้งานรถด้วย เเล้วก็ ขับ เพื่อหาค่าเช่าในตัวมันเอง
บริษัทที่ผมเช่าก็จะมีรถให้เราเลือก หลายปี แล้วก็หลายราคา ราคาที่มีก็จะมีอยู่ ประมาณนี้ 850/950/1000 ต่อวัน ผมก็เลยตัดสินใจเลือกเอา ปีที่ไม่ที่สุด ก็คือปี 2023 เป็น Toyota Altis 1.6G (1,000 บาท/วัน) ความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือจะมีช่องแอร์ด้านหลัง แล้วก็เลือกเป็นในส่วนของเชื้อเพลิงแบบ LPG
ที่ผมเลือกแอลพีจีเพราะว่า ตัวเอ็นจีวีตอนนี้หาปั๊มเติมยากมาก แล้วก็เวลาไปเติมเติมได้น้อยเกินไป ต่อคิวกันยาวซึ่งมันจะทำให้ผม เสียเวลา ผมเลยตัดสินใจเลือกเป็นแอลพีจี ข้อนี้สำคัญมากนะครับ ถ้า คนไหนอยากจะคับ ผมแนะนำ ใช้เป็นแอลพีจี ดีกว่า เติมได้เยอะกว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จากที่ลองวิ่งมา
Toyota Altis 1.6G (LPG)
การเช่ารถ เอกสารที่ต้องมีเลยก็คือ ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ชนิดไหนก็ได้ เเล้วก็ เอกสารบัตรประจำตัวผู้ขับรถหรือบัตรเหลืองติดหน้ารถแท็กซี่ที่เราเคยเห็นกัน และก็สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน แล้วก็ บางกรณีอาจจะต้องใช้ผู้ค้ำประกัน แต่ของผม ยอมจ่ายเงินมัดจำเต็มจำนวน 10,000 บาท เพื่อไม่ต้องการคนค้ำ เงื่อนไขของกลางคืนเงินค้ำประกัน ของบริษัทนี้
หลังจาก เรายกเลิกสัญญา เขาก็จะตรวจสอบ เอกสารต่างๆ ว่า เราขับบนถนน มีได้รับใบสั่งหรือทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ระยะเวลา ในการคืนเงินมัดจำที่นี่ถือว่าค่อนข้างนาน 60 วัน เพื่อที่เขาจะต้องรอเอกสาร ในกรณีที่ เราทำผิดกฏจราจรแล้วมีใบสั่ง กลับไปที่บริษัทเขา เขาก็จะหักเงินมัดจำตรงนี้ของเราด้วยเช่นเดียวกัน ตรงนี้ ให้ดูดีๆนะครับเรื่องการคืนเงินมัดจำ ย้ำ เพราะพอเวลาถึงวันแล้ว อาจจะไม่ 60 วันอย่างที่เอกสารแจ้งไว้ เดี๋ยวผมจะเล่า ในส่วนถัดไป
เมื่อเซ็นสัญญาตกลงทำสัญญากันแล้วจ่ายเงินค่ามัดจำเรียบร้อย ทางบริษัท ก็จะ นัดเอาเราไปรับรถ ตามสถานที่ที่เขาแจ้งเอาไว้ว่าเราสะดวกไปรับรถที่ไหน ของผมใช้เวลา เตรียมรถหรือว่าช่วงรถว่างอยู่ประมาณ หนึ่ง สัปดาห์ ทางบริษัทก็แจ้งให้ผมไปรับรถได้เลย แต่ปัญหาก็คือ ไม่ได้รถตามที่เราระบุไว้ เราก็เลยบอกว่า คงต้องรับรถมาก่อนเพราะว่าเราจำเป็นต้องใช้รถ เพราะตอนนี้รถส่วนตัวเราไปอยู่ที่อู่แล้ว รถที่เรารับมา จะเป็นปี 2019 ซึ่งราคาค่าเช่าต่อวันอยู่ที่ 850 บาท เป็นเครื่องยนต์เชื้อเพลิงเอ็นจีวี
มาถึงวันรับรถ ตรงนี้ย้ำอีกครั้ง ให้คอนเฟิร์มหรือยืนยันสถานที่ให้ชัวร์ พ่อของผม เจ้าหน้าที่ บริษัทเจ้าหน้าที่เซลล์ เหมือนไม่ได้ประสานงานกัน ให้ผมไปรับอีกทีนึง แต่พอไปถึง รถไม่ได้อยู่ที่นั่นบอกเราว่าให้ไปอีกทีนึง พอเราไปถึงที่ที่ สอง ที่ที่ สอง ก็บอกว่าให้กลับไปเอาที่แรกที่บอกมาเพราะรถกลับไปแล้ว ตรงนี้ผมหัวเสียมาก เสียค่าใช้จ่ายในการนั่งแท็กซี่ไปเยอะพอสมควรผมก็เลยแจ้งปัญหานี้ไปว่ามันไม่ใช่ความผิดผม ทางบริษัทก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะจ่ายค่าแท็กซี่ให้ เราก็เลยบอกว่าโอเค
ก็ใช้เวลานั่งรถกลับไปวนมา อยู่ สอง ที 3 ที ก็นั่งรอสักพัก รถคันที่เราจะต้องขับมาถึงเราก็เดินตรวจสภาพ ตรงนี้สำคัญเลยเน้นย้ำเลยนะครับไม่ว่าจะเช่ารถกับที่ไหน วันที่รับรถตรวจสอบรถให้ดี ตรงไหนมีรอยตรงไหนมีปัญหาให้ถ่ายรูปไว้เลย ถ่ายเป็นหลักฐานเก็บไว้เลยว่าตรงนี้มีรอยตรงนี้มีรอยครูดตรงนี้มีตำหนิตรงนี้มีรอยแตก ตรงนี้มีรอยน้ำมันเยิ้มอะไรพวกเนี้ย ถ่ายรูปไว้ให้หมด ถ่ายเป็นวิดีโอด้วยยิ่งดี พ่อของผม รอยค่อนข้างเยอะ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดรถสภาพดีมาก ยอมรับว่าบริษัทนี้ เก็บรายละเอียดรถดีมาก
ภาพรอยต่างๆเราต้องถ่ายเก็บไว้ทุกจุด (สำคัญมาก)
ตอนเซ็นสัญญา เซลล์ก็บอกว่าวันที่ไปรับรถ เราจะมีน้ำมันให้ครึ่งถัง แล้วก็แก๊สเต็มถังให้เรา ซึ่งพอถึงวันจริง ไม่มีสักอย่าง เราจะต้องไปเติมเอง ซึ่งพื้นที่ที่เราไปเราไม่ได้อยู่แถวนั้น ปั๊มเอ็นจีวีหาเติมยากมาก ซึ่งอันนี้ต้องขอตำหนิบริษัทหน่อย เพราะว่า คุณต้องเตรียมรถพร้อมที่เราจะไปทำงานเลย ก็เลยคุยว่าแล้วตรงนี้ค่าใช้จ่าย จะทำยังไง ทางบริษัทบอกว่าให้ไปเติมน้ำมันและก็เติมแก๊ส แล้วนำบิลใบกำกับภาษี ไปเบิกกับบริษัท เวลาเราเอารถเข้าไปตรวจ (สำคัญมากเรื่องบิล ต้องเป็นบิลที่ถูกต้อง ไม่งั้นเบิกไม่ได้)
เงื่อนไขของที่นี่ก็คือต้องนำรถเข้าไปเช็ค ภายใน 3 ถึง 5 วัน เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ข้อดีของที่นี่อีกเรื่อง ก็คือวันฟรี ที่นี่เขาให้เราขับ 6 วันฟรี 1 วัน อันนี้ถือว่าดี พอวันฟรีเราจะได้เงินเต็มๆ ก็ถือว่าเป็นค่าขนมค่าน้ำมันในวันถัดไป การส่งเงิน ค่าเช่ารถที่นี่ จะต้องโอนเข้าบริษัททุกวัน ก่อน 4 ทุ่ม แล้วเมื่อโอนเรียบร้อยก็ส่งสลิปไปให้แอดมินที่ไลน์
ผมขับคันนี้อยู่ประมาณ หนึ่ง อาทิตย์ ผมก็ทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนรถเพราะว่า เอ็นจีวีในพื้นที่ที่ผมขับ ปัจจุบันน้อยมากแล้วเวลาไปเติมต่อแถวนานมาก แล้วก็บางครั้งพอต่อเสร็จ แก๊สหมด เวลาที่เราเอารอไปก็เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ อันนี้เป็นเรื่องซีเรียสมากสำหรับผม ดังนั้น เขาก็เลย จองรถไว้ให้ 1 คัน เพราะว่ารุ่นที่ผมต้องการยังจดทะเบียนใหม่เรียบร้อย พอเรียบร้อยเสร็จ เขาก็ให้ผมไปเปลี่ยนรถ
ซึ่งบอกเลยว่าดีงาม รถยัง ไม่ผ่านการใช้งาน ผมน่าจะเป็นมือแรกที่ขับรถคันนี้ เช่นเคยว่างไปรับ ผมก็ต้องเอารถไปเติมน้ำมันเองเติมแก๊สเอง แล้วก็มาเบิกบริษัทเหมือนทุกครั้ง
ผมก็ขับ รับผู้โดยสาร ทั้งลักษณะการบวกตามข้างทางแล้วก็เปิดแอพต่างๆ ทุกแอปที่มี ถือว่าสนุกและก็หารายได้ได้ดีมากอีกอาชีพ หนึ่ง เลย แต่ว่าก็อย่างที่บอกครับถ้าเราเช่ารถแพงเงินส่วนที่เราจะได้ก็จะลดตามลงไปด้วยเราจะต้องใช้เวลาในการขับหาเงินค่อนข้างเยอะ ผมจะ ขับรถ ตั้งแต่ 7 โมง จนถึงประมาณ 4 ทุ่มของทุกวัน
คือผมไม่ได้ขับเต็มวัน ถ้าขับเยอะกว่านี้ก็บอกได้เลย ไม่ไหวครับ มันเหนื่อย แต่ถ้าท่านใดไว้ ขับไปยิ่งสนุกครับ เพราะกลางคืน รถไม่ติด แต่ว่าลูกค้า ที่โบกอาจจะเป็นเฉพาะจุด แต่อาศัยเปิดแอปเอาและก็ถ้ารู้แหล่งที่จะไปจอดอันเนี้ยจะดีมาก
ที่ต้องเช่ารถแท็กซี่มาขับช่วงที่รถยนต์ส่วนตัวเข้าอู่ ก็เพราะว่า ในระยะเวลา 30 วัน เราต้องใช้รถทุกวัน ในการทำงาน ขับไปหาลูกค้า ขับไปส่งครอบครัว ขับไปธุระ กลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเนี้ย ถ้าเราไปเช่ารถ อีโคคาร์ ก็จะอยู่ประมาณวันละ 850 ถึง 1,500 บาท แล้วแต่รุ่น ผมก็เลยมองว่าแบบนั้นเรามีแต่เสียกับเสีย เรามีใบขับขี่สาธารณะอยู่แล้วเรามีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว ทำไมเราไม่เช่ารถแท็กซี่ให้มันหาเงินส่งตัวมันเอง
ซึ่งทุกอย่างก็ตอบโจทย์เลย ผมไม่เพียงแค่ได้รถใช้ฟรี ได้นำมันใช้ฟรี ผมยังเหลือเงินค่าขนมอีก ซึ่งถือว่า คิดถูก เพื่อนๆคนไหน มีเคสลักษณะแบบนี้ ก็ลองนำไปปรับ ใช้ดูครับเผื่อจะมีประโยชน์ หรืออยากจะทำเป็นอาชีพ ลักษณ์ของเราเลยก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องบอกว่า งานก็ไม่ได้ง่าย เพราะว่าต้องเจอกับลูกค้ารายหลายแบบ มีทั้งขึ้นฟรี ไม่โอนเงินบ้าง จ่ายตังค์ไม่ครบบ้าง บ่นเราบ้าง เราต้องเจอแน่นอนประเภทแบบนี้อันนี้ถ้ารับได้หรือเข้าใจในส่วนของงานบริการตรงนี้ถือว่า ตอบโจทย์เหมือนกันกับอาชีพนี้
พอเล่ามาถึงตรงนี้ ทุกอย่างก็เหมือนจะโอเค แต่ปัญหามันเกิดตรงที่ว่า เมื่อถึงเวลา 60 วันหลังจากวันที่เรายกเลิกสัญญา แทนที่เราจะต้องได้เงินมัดจำเราคืนก็คือ 10,000 บาท กลายเป็นว่า วันที่ 60 ที่เงินจะต้องโอนเข้า ไม่มียอดเงินเข้ามา เราก็เลยสอบถามไปทางบริษัท บริษัทตอบกลับเรามาว่า ยังไม่ถึงเวลาที่กำหนดค่ะ เราก็เลยบอกว่าเป็นไปได้ยังไง เราก็นับวันให้เขาดูว่าจากวันนี้ถึงวันนี้ก็คือ 1 เดือนหรือ 30 วัน ก็นับอย่างนี้ไปจนถึงวันที่ 60 แอดมินเขาก็เลยเงียบไปพักนึงแล้วเค้าก็เลยบอกว่า
1
ขอโทษทีค่ะ คำนวณผิด ผมก็เลยงง แล้วระยะเวลา 60 วันที่ผ่านมา คุณไม่มีข้อมูล หรือว่าใหม่เตรียมเอกสารในการส่งเงินคืนให้ลูกค้าเลย ณตอนนี้ ก็ยังไม่ได้เงินมัดจำคืนเช่นเดียวกัน ผมก็เลยแจ้งเค้าไปว่า ถ้าภายใน วันที่ผมกำหนด ยังไม่ชำระ ค่ามัดจำ ตามสัญญาคืนมาให้ผม ผมจะแจ้งความ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเงียบอยู่
ถ้าเพื่อนๆจะเช่ารถแท็กซี่ ให้ดูดีๆ เเล้วก็เรื่องเงินมัดจำ ถ้าเป็นไปได้ให้มัดจำ ในเรทที่ต่ำที่สุด จริงๆถ้าเราเช่าอู่เลดคามัดจำไม่ถึงขนาดนี้แน่นอน ถ้าเช่าอู่ทั่วไป ก็อยู่ประมาณเริ่มต้นที่ 3,000 ถึง 5,000 บาทโดยประมาณ ในส่วนเงินมาจำตรงนี้เนี่ยเขาจะเอาไว้กันไว้เผื่อเวลาเรา ทำผิดกฎหมายได้ใบสั่งหรือทำรถเขามีปัญหามีการโชว์มีการครูดหรือเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่ทำให้ทรัพย์สินเค้าเสียหาย อันนี้ก็เข้าใจเขา แต่ปัญหาก็คือบริษัทไม่ทำตามเงื่อนไข อันนี้ต้องระวังดีๆนะครับ
ขอเตือนเลย อู่ดีๆมีเยอะครับ บริษัทที่ดีก็มีเยอะ ต้องเลือกดูและหลายที่นะครับคุยกันตกลงให้ดีถ้าเป็นไปได้มีลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนจะดีมาก เพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้เช่าหรือผู้เช่าเอง เขาก็เจอในส่วนของเรื่องแย่ๆมาเยอะเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าค้างค่าเช่า นำรถเข้าไปขาย ถอดชิ้นส่วนรถเข้าไปขาย อันนี้ในฝั่งของผู้ให้เช่าจะเจอ ส่วนผู้ที่เช้าก็จะเจอเรื่องของ ปัญหาของรถ พอรถมีปัญหา แล้วซ่อมไม่จบเราก็เสียเวลา ในการหาเงินเพิ่มขึ้น
หรือการคืนมัดจำอย่างที่ผมเจออยู่ตอนนี้ ซึ่งผมเองก็ไม่คิดว่าบริษัทนี้จะเป็นแบบนี้ เพราะว่าบริษัทก็ถือว่าค่อนข้างน่าเชื่อถือพอสมควร ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่า เป็นบริษัทอะไร 3 สามารถทักเข้ามาหลังไมค์ได้ผมจะบอก ไว้เผื่อเป็นแนวทางแล้วกันไม่ใช่ว่าบริษัทเค้าไม่ดีนะครับ อาจจะเจอเป็นแคสของผม ก็ได้
ฝากไปถึงผู้ให้เช่า คุณต้องทำตามเงื่อนไขในสิ่งที่คุณกำหนดมา ให้ถูกต้องและก็ชัดเจน ในเมื่อผู้เช่าเขาทำตามเงื่อนไขของคุณทุกข้อส่งเงินทุกข้อส่งเงินทุกวัน ขับรถคุณรักษารถคุณให้อยู่ในสภาพดีไม่เคยเฉี่ยวไม่เคยชน อุปกรณ์ทุกอย่างครบ อันนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เขาดูแลทรัพย์สินให้เรา ไม่ต้องให้รางวัลเขาแต่ทำยังไงก็ได้ ที่จะทำให้เค้า หาเงินได้ แล้วก็ ถ้าเขายกเลิกสัญญาคุณก็ต้องคืนเงินให้เขาเต็มจำนวนและอย่างรวดเร็ว
เรื่องเงินประกัน ผมว่าที่นี่ ขืนช้าที่สุดแล้ว โดยปกติแล้วเนี่ย เต็มที่ผมมองว่าน่าจะอยู่ที่ 1 เดือนฝากถึงผู้ที่จะทำอาชีพ ขับรถแท็กซี่อย่างที่ผมเล่ามาทั้งหมด จริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรแย่ไปซะทั้งหมด ในสังคม พี่ๆคนที่เขาขับแท็กซี่มาก่อนเรา เขายังขับจนถึงทุกวันนี้เพราะเขามีความซื่อสัตย์ เคารพในอาชีพ แล้วก็ดูแลช่วยเหลือ เพื่อนพี่น้องในอาชีพเดียวกัน ทุกวันนี้มันก็มีหลายๆคนที่เข้าไปแล้วไปทำให้ระบบของเขา แย่ลง
ไปโกงค่าโดยสารไม่เปิดมิเตอร์บ้าง หลายปัญหานะครับซึ่งปัญหาเหล่านี้ ก็ต้องบอกว่ามันพัฒนารูปแบบมาเรื่อยๆ อนาคตข้างหน้ามันอาจจะมีรูปแบบในการหาลูกค้าแบบไม่เกิดขึ้น เราก็ไม่ทราบ ดังนั้นอาชีพเนี่ยผมมองว่าก็ยังคงจะอยู่ กลับบ้านเราต่อไป เพราะว่า หลายๆพื้นที่ การ การคมนาคมขนส่งของรัฐ ก็ยังไม่ทั่วถึง ดังนั้นก็ฝากไว้นะครับสำหรับเพื่อนๆที่อยากจะทำอาชีพนี้ ทุกอาชีพมีข้อดีแล้วก็ข้อเสีย อาชีพนี้ถือว่าทำรายได้ดีพอสมควร ถ้า ขยันแล้วก็มีเทคนิค มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าผมบอกเลยครับ ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย
ขอบคุณนะครับ ที่เข้ามาอ่าน เนื้อหาค่อนข้างยาว ขาดตกบกพร่องยังไงต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ หรือถ้ามีคำแนะนำดีๆ สามารถ ตอบกระทู้ตรงนี้ได้เลยสนทนากันตรงนี้ได้นะครับ ไว้โอกาสถัดไป มีเรื่องราวอะไรที่จะมาแชร์ ก็จะมาแชร์ให้ทุกคนได้รับฟังกันนะครับ
โฆษณา